อ่านสรุป บทที่ 815 ถือว่าเจ้ายังมีจิตใจดีงามอยู่บ้าง จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บทที่ บทที่ 815 ถือว่าเจ้ายังมีจิตใจดีงามอยู่บ้าง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เจ้าของสุ้มเสียงนั้นคือตู๋กูโม่เป่านั่นเอง
เมื่อเสียงพูดจบลง รอบสี่ทิศพลันเงียบสนิทในบัดดล
ในใจฉู่หลิวเยว่กระตุกคราหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองเขาครั้งหนึ่ง
จะพูดว่าไม่สงสัยคงเป็นไปไม่ได้
เพียงแต่ว่า ดูจากนิสัยใจคอของเถ้าแก่ใหญ่ท่านนี้แล้ว เกรงว่าคงมิได้รับคำตอบอันใด
หากเขายินยอมเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงของตนแล้วล่ะก็ ตอนปรากฏกายย่อมไม่สวมหน้ากากปิดบังตั้งแต่แรก
เป็นอย่างที่คาดไว้ ความคิดนี้เพิ่งผ่านพ้นไป ก็ได้ยินเถ้าแก่ใหญ่หัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ย
“เพราะใต้หล้ามีเพียงไม่กี่คนที่ทำสำเร็จ จึงต้องละเอียดรอบคอบเข้าไว้มิใช่หรือ?”
ตู๋กูโม่เป่าแค่นหัวเราะเย็นเยียบออกมาคราหนึ่ง
“ที่ท่านยืนกรานปฏิเสธเช่นนี้ อาจเป็นเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้กระมัง?”
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
นี่กำลังโยนความโกรธทั้งหมดมาระบายใส่เขาหรือไร?
“คนที่ไม่ยอมเผยหน้าจริงของตนแก่ผู้อื่น ร้อยทั้งร้อยล้วนหน้าตาอัปลักษณ์น่ารังเกียจทั้งนั้น”
หลานเซียวเอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างเนิบนาบประโยคหนึ่ง
“นังหนูเยว่เออร์ คนผู้นั้นเชื่อใจไม่ได้ เจ้ารีบมานี่เร็ว”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
เหตุใดจึงดูเหมือนว่าตนกลายเป็นคนของพวกเขาไปโดยไม่รู้ตัวเสียแล้วเล่า?
นางกระแอมไอครั้งหนึ่ง แล้วอธิบายว่า
“ผู้อาวุโส… ทั้งหลาย เถ้าแก่ใหญ่ท่านนี้เป็นคนรู้จักของข้า ก่อนหน้านี้ได้เขาช่วยข้าไว้หลายครั้ง… ผู้อาวุโสทั้งหลายไม่ต้องกังวลใจไป”
หากชายผู้นี้สมรู้ร่วมคิดกับนางล่ะก็ หากมาพูดเอาตอนนี้ก็ดูจะอดทนเก่งไปหน่อย
หลานเซียวแทบสำลัก มองท่าทีของฉู่หลิวเยว่ที่ดูไว้เนื้อเชื่อใจหรงซิวอย่างมากก็ทนไม่ไหว สบถด่าออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“… ปลิ้นปล้อน!”
เจ้าเด็กหรงซิวสวมหน้ากากเอาไว้ ไม่คิดเผยหน้าที่แท้จริงของตนให้นังหนูเยว่เออร์เห็น พวกเขายังคิดว่าเขากับนางไม่ได้ทำข้อตกลงใดๆ กันเลยด้วยซ้ำ
ใครจะรู้…ที่แท้ทุกอย่างล้วนเป็นการแสดงทั้งนั้น!
พอได้ยินเช่นนี้แล้ว เขายังคิดว่าตัวตนนี้ช่วยนางไว้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว?
ใครก็ดูออก สิ่งที่มันเรียกว่าความช่วยเหลือนั่นน่ะ เห็นได้ชัดเลยว่าทำไปเพื่อต้องการความไว้วางใจจากนังหนู!
แบบนี้แล้ว ต่อให้ไม่เผยใบหน้าที่แท้จริง นังหนูก็จะยังเชื่อใจเขามากไม่เปลี่ยนแปลง
ถุย!
ช่างไร้ยางอายเสียจริง!
แท้จริงแล้ว ฉู่หลิวเยว่เองก็อยากเห็นว่าเถ้าแก่ใหญ่มีใบหน้าค่าตาอย่างใดเช่นกัน
ทว่าขนาดผู้อาวุโสทั้งหลายยังไม่สามารถพูดถึงเรื่องนี้ได้ นับประสาอันใดกับนาง
กลุ่มคนเหล่านี้ที่อยู่ที่นี่ ทุกคนล้วนเก่งกล้ากว่านาง นางนี่แหละคือคนที่อ่อนแอที่สุด
นางจะมีสิทธิ์อันใดไปพูดกัน?
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกว่าบรรยากาศในวงสนทนาชวนให้เกร็งอยู่บ้าง จึงจัดการเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แล้วเอ่ยถามว่า
“ข้าน้อย… ไม่ทราบว่าต้องเรียกผู้อาวุโสว่าอย่างใดดี?”
หลานเซียวชี้มาที่ตัวเอง
“ข้าคือ…”
“เจ้าก็แนะนำตัวก่อนสิ จากนั้นแล้วพวกข้าค่อยบอกว่าพวกข้าเป็นใคร”
ตู๋กูโม่เป่าพลันเปิดปากพูด
หลานเซียวมองไปยังเขารอบหนึ่งด้วยสายตาแปลกประหลาด
เมื่อครู่หรงซิวพูดไปแล้วมิใช่หรือว่านังหนูยังจำได้ว่าตัวเองเป็นใคร!
เหตุใดเขาจึงถามซ้ำอีกเล่า!?
ผู้อาวุโสลำดับห้าส่งสัญญาณทางสายตาไปให้หลานเซียวครั้งหนึ่ง
ที่พี่เป่าเอ่ยถามออกไปเช่นนี้ เห็นได้ชัดเลยว่ากำลังถามถึงความคิดเห็นของนังหนู!
หากว่านางจำได้ ย่อมต้องเชื่อใจพวกเขาเป็นแน่
หากว่าจำไม่ได้…
เช่นนั้นวันนี้คงมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่แท้
หลานเซียวที่เพิ่งเข้าใจแจ่มแจ้ง ในใจคิดคำนวณครู่หนึ่ง พลันรู้สึกว่าคำถามนี้จำเป็นมากเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ คนทั้งสามจึงจ้องมองไปยังฉู่หลิวเยว่ รอคำตอบของนางอย่างใจจดใจจ่อ
หัวคิ้วของฉู่หลิวเยว่กระตุกคราหนึ่ง
ดูแล้วเห็นได้ชัดเลยว่าคนเหล่านี้ วางแผนที่จะถามคำถามนี้ออกมาแก่นางอยู่แล้ว
นางเม้มริมฝีปากของตน จมดิ่งลงไปในห้วงความคิด
แท้จริงแล้วนางจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนรู้จักกับคนเหล่านี้
จะให้นางเปิดเผยสถานะของตนต่อหน้าคนแปลกหน้า ช่างเป็นเรื่องที่ยากเกินไป โดยแท้
ที่จริงแล้วกับอวี้ฉือซงและคนอื่นเอง นางก็ไม่ได้เปิดเผยอันใดออกมาสักหน่อย
ในเมื่อบนร่างของนางนี้เก็บซ่อนความลับอันยิ่งใหญ่ที่สุดไว้!
แต่ว่า…
นางจำได้อย่างชัดเจนว่าคราแรกที่ได้ยินเสียงของพวกเขา นางกลับเกิดความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
แม้กระทั่งเสียงพวกเขาที่ตะโกนเรียกนางว่า “นังหนูเยว่เออร์” นางก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...