ถนนทั้งสายตกอยู่ในความเงียบอย่างน่าแปลกประหลาดอีกครั้ง
สามวัน!
เหมาโรงเตี๊ยมเฟิ่งหวงสามวัน
คนคนนั้นต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
“นี่…นี่มัน…”
เพราะตกใจมากจึงทำให้ลู่จื้อเทาถึงกับพูดติดอ่าง
“วันนี้เป็นวันดีสำหรับแขกผู้มีเกียรติของเรา ดังนั้นหากมีสิ่งใด ทางโรงเตี๊ยมเฟิ่งหวงก็จะไม่ถือสาให้มากความ พวกท่านเชิญกลับไปเถิด”
หลังจากที่ซูหุยพูดคำไม่กี่คำนี้ เขาก็หันหลังกลับ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คิดที่จะต่อล้อต่อเถียงกับพวกเขาต่อไปอีก
เวลาปกติ ต่อให้เป็นประมุขตระกูลลู่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องพบเจอ วันนี้ถือว่าเขาพยายามอดทนที่จะพูดกับลู่จื้อเทาก็ยากแล้ว
“คุณชายสี่ เราอย่าหาเรื่องโรงเตี๊ยมเฟิ่งหวงเลย เราไปกันเถอะ”
ลู่จื้อเทาไม่พอใจ แต่เมื่อเขาได้รับการเตือนเช่นนี้ เขาก็พอมีสติขึ้นมาบ้าง
ขณะที่เขาคิดได้ดังนั้นและกำลังจะจากไป เขาก็หันมามองเห็นหญิงงามผู้หนึ่งอยู่ไม่ไกล
นางยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ และดูเหมือนจะทำให้ทุกสิ่งรอบตัวนางดูหมองไปเสียหมด
ดวงตาของลู่จื้อเทาเป็นประกาย!
มีความเมืองหลวงมีหญิงงามอันน่าตกตะลึงเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เมื่อรับรู้ถึงสายตาของลู่จื้อเทาที่มองมา สายตาของฉู่หลิวเยว่ก็ขยับเล็กน้อย
ลู่จื้อเทาไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดขององค์ชายรัชทายาท
ที่ปะทะฝีปากกันครั้งก่อน นางก็อำพรางรูปร่างหน้าตาเอาไว้ เป็นธรรมดาที่เขาจะจำนางไม่ได้
“โอ้ แม่นางตระกูลใดกัน ไฉนข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
เขาพูดพลางก้าวไปข้างหน้า
ซูหุยขยับเข้ามาบังหน้าเขาเอาไว้
รอยยิ้มที่สุภาพบนใบหน้าของเขาหายไป และแฝงคำเตือนในน้ำเสียงของเขา
“สตรีท่านนี้คือคุณหนูฉู่หลิวเยว่ เป็นแขกผู้มีเกียรติของโรงเตี๊ยมเฟิ่งหวงในวันนี้เอง”
…
“อะไรนะ! พวกมันกำลังจัดงานเลี้ยงที่โรงเตี๊ยมเฟิ่งหวงหรือ!? เป็นไปได้ยังไง! พวกมันไม่มีปัญญาพอที่จะจ่ายเงินแน่!”
เมื่อได้ยินรายงานข่าวจากบ่าวรับใช้ คนทั้งตระกูลฉู่ต่างก็ตกตะลึง
“ว่ากันว่าคุณชายรองเหยียนแห่งเจินเป่าเก๋อเป็นผู้เหมาโรงเตี๊ยมให้ บอกว่าถือเป็นการขอบคุณที่นางขายโฉนดที่ดินให้ขอรับ”
ฉู่เยี่ยนยิ่งมีความรู้สึกเกลียดชัง
ตอนแรกทุกอย่างก็เรียบร้อยดี ใครจะไปรู้ว่าเหยียนเก๋อจะมาตัดทางทำให้เสียแผนได้
“ข้าก็ได้ยินมาว่าเมื่อเร็วๆ นี้สัตว์อสูรระดับสูงได้ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่ล่าสัตว์ และราคาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว องค์หญิงสี่จึงพาคนไปที่นั่นในวันนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว”
“ฉู่หลิวเยว่นี่โชคดีจริงๆ! ขายพื้นที่ล่าสัตว์ไป แม้ว่าจะสูญเสียสัญญาหมั้นหมายกับองค์ชายรัชทายาทไป แต่ก็สามารถเอาชนะใจเจินเป่าเก๋อได้…”
“เจินเป่าเก๋อคือที่แบบไหน ถึงจะเห็นฉู่หลิวเยว่อยู่ในสายตาเพราะพื้นที่ล่าสัตว์เล็กๆ นั้น ข้าว่านางคงจะใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนเสียมากกว่า!”
“ไม่ใช่เวลามาพูดถึงเรื่องนี้ คิดก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป! เจินเป่าเก๋อถือได้ว่าเป็นผู้สนับสนุนฉู่หลิวเยว่แล้ว เกรงว่าข่าวนี้คงลือไปทั่วเมืองหลวงแล้ว! คนพวกนั้นไม่แน่อาจจะสนับสนุนสองพ่อลูกนั่นเพราะเห็นแก่หน้าเจินเป่าเก๋อก็ได้!”
ผู้อาวุโสสูงสุดในตระกูลฉู่มีสีหน้าบูดบึ้งและทันใดนั้นก็หัวเราะเยาะ
“หึ เรื่องนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก เจินเป่าเก๋อแย่งของขององค์ชายรัชทายาทไป ตอนนั้นยังมีสัตว์อสูรระดับสูงมาปรากฏตัวในพื้นที่ล่าสัตว์อีก เกรงว่าเจินเป่าเก๋อคงเป็นหนามตำตาองค์ชายเข้าแล้ว ไม่ว่าองค์ชายจะจัดการกับเจินเป่าเก๋ออย่างไร ฉู่หลิวแยว่ก็โดนหมายหัวอยู่ในบัญชีนั้นแล้ว วันนี้ไปที่นั่นไม่เพียงแต่อยู่ตรงข้ามกับตระกูลฉู่แต่ยังเป็นการยั่วโมโหองค์ชายรัชทายาทอีกด้วย ข้าดูสิว่าจะไปได้สักกี่น้ำ”
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์