ในคืนนั้น ณ พระราชวังตำหนักเจียวหลัน
ดวงจันทร์สว่างไสวลอยสูงเหนือม่านนภา และแสงจันทร์ในคืนนี้ช่างดูเหน็บหนาวเป็นพิเศษ
บรรยากาศทั้งด้านนอกและด้านในของตำหนักเจียวหลันดูตึงเครียดเคร่งขรึม เหล่านางกำนัลและคนรับใช้ในวังแม้กระทั่งจะหายใจยังต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าหากไม่ระวังแล้วจะนำเรื่องเดือดร้อนมาใส่หัวตนเองได้
สายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวของพวกเขาลอบมองเข้าไปในตำหนัก
องค์หญิงสี่ได้สติฟื้นขึ้นมาก่อนเวลาหนึ่งก้านธูป ภายในระยะเวลาอันสั้นนางได้สั่งประหารชีวิตคนไปแล้วกว่าห้าคน
หากทำสิ่งใดที่ขัดใจพระองค์ บางทีหายนะนี้อาจจะถึงคราวของตนเองก็เป็นได้!
เพล้ง!
มีเสียงดังบาดแก้วหูลอดออกมาและเห็นได้ชัดว่ามีของบางอย่างแตกหัก
ทุกคนต่างพสกันเงียบกริบ
กลายเป็นคนพิการภายในชั่วข้ามคืน จะมีผู้ใครกันที่รับได้ นับประสาอะไรกับองค์หญิงสี่ที่ได้รับความโปรดปรานและเป็นที่ภาคภูมิใจมาโดยตลอดกันเล่า
“ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อ!”
หรงเจินตะโกนโวยวายอยู่นานจนคอแหบหมดแล้ว แต่น้ำเสียงของนางกลับยิ่งเกรี้ยวกราดดุร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ
“พวกเจ้าต้องโกหกข้าแน่นอน ข้าเป็นองค์หญิงที่มีพรสวรรค์เป็นเลิศ ข้าจะกลายมาเป็นคนพิการได้อย่างไรฮะ!”
หรงเจินเอนกายนอนบนเตียงภายในตำหนักโดยมีสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง สีหน้าโมโหร้ายและมีอาการสติคลุ้มคลั่งราวกับคนบ้า
ข้ารับใช้หลายคนกำลังนั่งคุกเข่าข้างเตียงของนาง
คนหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าถูกของบางอย่างปาใส่ศีรษะจนมีเลือดไหลลงมาเป็นทาง ดูแล้วช่างน่าสงสารยิ่งนัก
แม้ว่าในใจเขาจะกลัว แต่เขาทำได้เพียงอดทนและพยายามเกลี้ยกล่อมนางต่อไป
“องค์หญิงสี่พ่ะย่ะค่ะ หยวนตันของพระองค์แตกสลายหมดแล้ว แม้กระทั่งชีพจรเดิมก็ถูกทำลายไปด้วย เป็นการยากหากว่าพระองค์…ทรงอยากฝึกพลังยุทธ์อีกครั้งในอนาคต…”
“พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์ หยวนตันแตกสลายแล้วอย่างไร ข้าหลอมรวมมันขึ้นมาใหม่ก็ได้แล้วมิใช่หรือ!”
หรงเจินเอ่ยขัดคำพูดเขาด้วยน้ำเสียงแหลมบาดหู
ทุกคนจึงก้มหน้าและเงียบปาก
หยวนตันถูกทำลายลงไปแล้ว ร่างกายของนางจึงได้รับความเสียหายอย่างหนัก ดังนั้นจึงมิสามารถหลอมรวมหยวนตันออกมาได้อีกแล้ว
“หมอเทวดา! ไปตามหมอเทวดามา! พวกเจ้าไร้น้ำยา แต่หมอเทวดาต้องรักษาได้แน่นอน!”
หริงเจินไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีทางรับผลกรรมนี้ได้
เมื่อเห็นว่าคนพวกนี้ต่างพากันเงียบ หรงเจินก็ค่อยๆ รู้สึกถึงความสิ้นหวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์