เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 940

“นางพอใจหรือไม่?”

จวินจิ่วชิงเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังอย่างสบายอารมณ์ ในคำพูดเหล่านั้นมีรอยยิ้มแฝงน้ำเสียงติดจะเกียจคร้านสายหนึ่ง

“เอ่อ… คงพอใจขอรับ”

องครักษ์ผู้นั้นเอ่ยด้วยความลังเลอยู่บ้าง

“หือ?”

จวินจิ่วชิงผินใบหน้าเล็กน้อย ปรากฏให้เห็นใบหน้าด้านข้างที่งามหมดจดราวกับประติมากรรมแกะสลัก

คิ้วกระบี่เอียงชี้ขึ้นไปทางขมับ จมูกโด่งเป็นสันสูง ริมฝีปากบนเผยอขึ้นเล็กน้อยเป็นเส้นโค้งดึงดูดผู้คน ทำให้ให้ความรู้สึกต้องมนต์และชวนให้ลุ่มหลงอย่างน่าประหลาด

ท่ามกลางความเลือนราง ดวงตาที่ถูกปกปิดด้วยแพขนตายาวครึ่งหนึ่ง ดูราวกับว่ากำลังสะท้อนสีแดงสดออกมา

ถึงแม้ว่าจะเป็นดวงหน้าเพียงครึ่งซีก ก็จินตนาการได้ไม่ยากว่าดวงหน้านี้เป็นมารปีศาจประเภทใด

เสียงต่ำที่เอื้อนเอ่ยออกมาลากยาวจนจบ พลันให้ความรู้สึกของไออันตรายที่มากล้น

นายทหารก้มศีรษะลงโดยพลัน รีบอธิบายอย่างลุกลี้ลุกลน

“เป็นคนของราชวงศ์ไท่อวี่ที่มีเรื่องเข้าใจผิดกับพวกเขาเล็กน้อย…”

หลังจากนั้นเขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ตั้งแต่ต้นจนจบไปรอบหนึ่งถ้วน

จวินจิ่วชิงฟังจบก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะเสียงเบา

“คิดไม่ถึงว่าถานไถเฉินจะไร้ซึ่งความเยือกเย็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ข้าประเมินเขาสูงไปจริงๆ”

“องค์ชายวางแผนที่จะเผด็จศึกเบื้องหลังไว้แล้ว ทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของท่าน” นายทหารรักษาการณ์เอ่ยอย่างเร็วรี่ “เช่นนั้นท่าน… จะให้ข้าน้อยส่งคนไป…”

“ไม่จำเป็น”

จวินจิ่วชิงยกมือขึ้นหยุดคำพูดของเขา

ไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ รอยยิ้มบริเวณมุมปากของเขาจึงลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อย

“นิสัยใจคอของนางไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ…”

นายทหารลอบตื่นตระหนกในใจ

เขาเป็นคนสนิทที่รู้ใจขององค์รัชทายาท ทั้งความคิดและอารมณ์ขององค์ชายจะมากน้อยก็ยังคงนึกพิเคราะห์ได้

ทว่าครั้งนี้ เขากลับคาดเดาแผนขององค์ชายไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

องค์ชายดูจะปฏิบัติต่อซั่งกวนเยว่ที่เพิ่งขึ้นครองราชวงศ์เทียนลิ่งแตกต่างออกไป

จะบอกว่าปฏิบัติต่อนางอย่างดี แต่ก็ป่าวประกาศให้ผู้อื่นรู้ว่านางอาศัยอยู่ในวังรับรองหลังนั้น

แต่ถ้าจะพูดว่าไม่ดีหรือ… หากพอเอ่ยถึงคนผู้นั้นทีไร น้ำเสียงกลับแฝงด้วยความสนอกสนใจอย่างหาได้ยาก

ก่อนนี้มีใครหน้าไหนบ้างที่ได้รับการปฏิบัติจากองค์รัชทายาทเช่นนี้?

เขานึกไม่ออกและไม่กล้าคิดเยอะเช่นกัน หากองค์ชายสั่งให้เขาทำอันใดก็ทำไปตามนั้น

เพียงแต่ว่า มีเรื่องหนึ่งที่มั่นใจได้ก็คือ… ซั่งกวนเยว่ผู้นั้นย่อมไม่ใช่คนที่ยั่วยุได้โดยง่าย!

“ไปเถอะ จับตาดูไว้ว่ามีอันใดเกิดขึ้นบ้าง”

จวินจิ่วชิงเอ่ยอย่างเอื่อยเฉื่อย

“ขอรับ!”

นายทหารถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว

จวินจิ่วชิงเลื่อนสายตาขึ้นมา

ภายในพื้นที่ล่าสัตว์ หัวใจของคนผู้นั้นดูเหมือนว่าจะถูกกลืนกินจนเกลี้ยงแล้ว ตัวคนเองก็มิได้ส่งเสียงอันใดออกมาอีก

เจ้านกขนสีขาวพลันชะเง้อคอส่งเสียงร้องแหบพร่าออกมาเสียงหนึ่ง!

อวัยวะภายในทั้งห้าของจอมยุทธ์ขั้นเจ็ดถูกชำแหละออก ภายในอวัยวะเหล่านั้น หัวใจเป็นที่ๆ กักเก็บพลังไว้มากที่สุด

มันจัดการกลืนกินหัวใจดวงนี้เข้าไป จากนั้นไอปราณบนตัวมันก็แข็งแกร่งขึ้น

น้ำเสียงของจวินจิ่วชิงไพเราะเสนาะหูราวกับถูกมอมเมาด้วยสุรา

“ดีมาก ไปกันเถอะ”

พูดจบ นกตัวนั้นก็กระพือปีกบินทะยานขึ้นไป!

ชั่วพริบตาเดียว สัตว์อสูรที่รอท่าอยู่โดยรอบมาเป็นเวลานาน ก็กระโจนเข้าไปอย่างรวดเร็ว!

โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่วสี่ทิศ!

ไม่ทันไร พวกมันก็เริ่มเปิดฉากต่อสู้แย่งชิงกันเอง!

นกตัวนั้นเกาะอยู่บนยอดสูงสุดของรั้วเสาต้นหนึ่ง มันมองฉากนั้นด้วยสายตาเหี้ยมดุอยู่เหนือสรรพสัตว์ร้าย

ฉากตรงหน้านั้นโหดร้ายและอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเลือดไม่จบสิ้น แต่จวินจิ่วชิงดูราวกับชินชาเสียแล้ว

เขานวดหางตาของตนเบาๆ สีหน้าพลันปรากฏความพอใจและสมใจออกมาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็หมุนกายจากไป

อิ่นเฮ่านำคนจากราชวงศ์ไท่อวี่มายังที่ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน เขานั่งตัวสั่นมาตลอดทาง ไม่กล้าเอ่ยอันใดมาก

กระทั่งมาถึงหน้าประตู จึงฝืนตัวเองเชิญถานไถเฉินและคนอื่นลงจากรถ

เมื่อจัดแจงที่พักให้กลุ่มคณะเรียบร้อยแล้ว อิ่นเฮ่าก็ขอตัวไปจัดการอย่างอื่นต่อ แล้วกลับไปรายงานตามคำสั่งที่ได้รับ

และทันทีที่เขาก้าวเดินออกไป ถานไถรั่วหลีก็อดไม่ได้ที่จะตวาดออกมา

“โมโหชะมัด! ข้าโกรธจะตายอยู่แล้ว!”

ภายในแววตาทั้งสองข้างของนางแผดเผาไปด้วยเพลิงโทสะ ด้วยเพราะความโกรธสีหน้าจึงเปลี่ยนเป็นแดงเถือก

“ท่านพ่อ! ข้าไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้เด็ดขาด!”

ถานไถเฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าสงบนิ่งราวสายน้ำ

“เช่นนั้นเจ้าคิดจะทำอย่างใด? พวกเขาพูดไว้ชัดเจนแล้ว ทุกอย่างล้วนเป็นองค์รัชทายาทเป่ยหมิงจัดแจงไว้ดีแล้ว หรือเจ้าคิดอยากจะไปก่อปัญหาให้องค์รัชทายาทแห่งเป่ยหมิง?”

ถานไถรั่วหลีสำลักครั้งหนึ่ง

แน่นอนว่านางรู้ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ควรไปยุ่งด้วย

ราชวงศ์เป่ยหมิงในตอนนี้นั้น มีสิทธิ์ในการใช้อำนาจเกินครึ่งล้วนอยู่ในมือของเขา!

จะบอกว่ามือเพียงข้างเดียวของเขาสามารถปิดได้ทั้งผืนฟ้า ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงนัก!

“ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทแห่งเป่ยหมิงผู้นั้นโหดเหี้ยมอำมหิตและเด็ดขาดอย่างมากหรอกหรือ? แต่การที่เขาจัดแจงไว้เช่นนี้ หรือเขากับคนจากราชวงศ์เทียนลิ่งมีเส้นสายเกี่ยวข้องกัน?”

หากมิใช่แล้วล่ะก็ นางก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเทียนลิ่งที่มีกำลังอ่อนด้อยที่สุด จะมีคุณสมบัติใดที่ได้สิทธิ์รับการปฏิบัติอย่างดีเยี่ยมที่สุดเช่นนี้ได้อย่างใด!

“ถ้าพูดกันตามหลักแล้ว ที่หุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวงเปิดครานี้ พวกเทียนลิ่งเดิมทีกระทั่งคุณสมบัติจะเข้าร่วมก็ไม่มีอยู่แล้ว!”

“ไม่มีคุณสมบัติอย่างใดพวกเขาก็มากันแล้ว”

สีหน้าของถานไถเฉินเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก

“ถ้าหากซั่งกวนเยว่ผู้นั้นรู้จักกับองค์รัชทายาทแห่งเป่ยหมิงจริงๆ… เช่นนั้นก็คงรับมือได้ยากแท้”

ภายในห้องพลันตกอยู่ในความเงียบสงัด

ทันใดนั้นเอง เสียงของชายหนุ่มผู้หนึ่งก็ดังขึ้นมา

“ฝ่าบาท ตอนนี้ปล่อยให้พวกมันลำพองใจไปก่อนเถิด รอหลังจากภูเขาบรรพกาลเฟิ่งหวงเปิดแล้ว เป็นผู้แข็งแกร่งหรืออ่อนแอเดี๋ยวก็ได้รู้กันมิใช่หรือ? พวกมันพักอยู่ในวังรับรองที่ดีที่สุด ถ้าหากเวลานั้นกลับร่วงไปอยู่ที่โหล่ มิใช่ว่าจะยิ่งเสียหน้า เป็นตัวโง่งมในสายตาของผู้อื่นหรอกหรือ?”

สีหน้าของถานไถเฉินสั่นไหวเล็กน้อย

แววตาของถานไถรั่วหลีพลันสว่างวาบ

“ใช่แล้ว! ท่านพ่อ เจ๋อเฟิงพูดได้ถูกต้อง! ปล่อยให้พวกมันหยิ่งผยองไปก่อน พอถึงเวลาก็ค่อยใช้กำลังตบหน้าพวกมันสักที! ดูสิว่าซั่งกวนเยว่อันใดนั่นจะยังมีหน้ามาวางตัวสูงส่งอยู่อีกหรือไม่!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์