สรุปตอน บทที่ 948 เจ้าคู่ควรหรือไม่ – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 948 เจ้าคู่ควรหรือไม่ ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ส่วนคนที่อยู่ในท้องพระโรงนั้นก็ได้ยินอย่างชัดเจนทุกคน
หลังจากที่ทุกคนมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงลมหายใจเย็นๆ ดังขึ้น
ถานไถเฉินกำลังพูดอันใดน่ะ!?
ซั่งกวนเยว่สามารถจดจำรูปแบบค่ายกลที่ลึกซึ้งของชายแดนเป่ยหมิงได้หมดแล้วหรือ!?
นี่มันหมายความว่าอย่างใด?
“ให้ตายเถอะ..นี่ข้าได้ยินอันใดผิดไปใช่หรือไม่?”
“ซั่งกวนเยว่…ค่ายกลระดับเก้า…ล้อเล่นหน่า?!”
“เคยได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ซั่งกวนเยว่เคยเป็นอัจฉริยะที่น่าตกตะลึง เคยเป็นปรมาจารย์ค่ายกลระดับแปด…”
“หึ ค่ายกลหลายอันที่ชายแดนเป่ยหมิงนั้น ได้ปรมาจารย์ระดับเก้าของเป่ยหมิงหลายคนมาช่วยกันสร้าง ซับซ้อนอย่างมาก! อย่าว่าแต่ซั่งกวนเยว่เลยต่อให้เป็นปรมาจารย์ค่ายกลระดับเก้าคนอื่นจะให้จำทุกอย่างลงไปทั้งหมดนั้นยังต้องใช้เวลาเป็นเดือน! แล้วนางจะทำได้อย่างใด?”
หลายคนถกเถียงกันขึ้นมา
กงซุนเซียวก็คิดว่ามันไร้สาระอย่างมาก ดังนั้นจึงหัวเราะขึ้นมา
“พี่ถานไถ พี่กำลังพูดอันใดน่ะ?”
สีหน้าของถานไถเฉินยังดูราบเรียบอย่างมาก
“พี่กงซุน ข้ารู้สึกกับพี่มาหลายปี นับว่าพี่ก็น่าจะรู้จักข้าดี ข้าเคยล้อเล่นกับเรื่องเช่นนี้หรือ? คำพูดนี้ในตอนนั้นซั่งกวนเยว่เป็นคนพูดขึ้นมาเอง”
รอยยิ้มบนใบหน้าของกงซุนเซียวแข็งค้างไป จากนั้นก็หันไปมองฉู่หลิวเยว่อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
ถานไถเฉินรินเหล้าใส่จอกของตนเอง แล้วพูดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจว่า
“ในตอนนั้นข้ามาถึงที่ชายแดนแทบจะพร้อมกับราชวงศ์เทียนลิ่ง ข้าเพิ่งออกมาจากค่ายกลเคลื่อนย้าย ข้าก็ได้ยินพวกเขาพูดเรื่องนี้ขึ้น”
เมื่อพูดจบเขาก็เงยหน้ามามองที่ฉู่หลิวเยว่
แม้ว่าใบหน้าจะมีรอยยิ้มประดับอยู่ แต่ในแววตาของเขากลับเย็นชา
“หากข้าจำไม่ผิดแล้วละก็ ซั่งกวนเยว่ ในตอนนั้นเหมือนเจ้าพูดว่า…ใช้เวลาหนึ่งเค่อ?”
หากกล้าถามต่อหน้าเช่นนี้แล้วละก็ ก็หมายความว่าเรื่องนี้มีส่วนเป็นความจริงอยู่แปดส่วน!
เสียงถกเถียงนั้นหายไปอย่างชัดเจน สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนหันมาจับจ้องฉู่หลิวเยว่!
ฉู่หลิวเยว่เอียงศีรษะ แล้วถามอย่างไร้เดียงสา
“ใช่แล้ว เหตุใดหรือ?”
…
เหตุใดหรือ…
เหตุใดหรือ!?
เจ้าพูดออกมาได้ว่าเหตุใด?!
บนโลกใบนี้มีคนทำเรื่องแบบนี้ได้ที่ไหนกัน?!
แต่คาดไม่ถึงว่านางจะยอมรับอย่างตรงไปตรงมา!?
หรือนางคิดว่าโอ้อวดทุกอย่าง จะทำให้ตัวเองดูดีขึ้นเล็กน้อย?
แม้กระทั่งอัจฉริยะและผู้แข็งแกร่งระดับต้นๆ ของที่นี่ยังไม่มีใครกล้าพูดออกมาอย่างเปิดเผยเช่นนี้เลยนะ!
ดูจากท่าทางของนางแล้ว เหมือนว่านางจะไม่สนใจเรื่องใดๆ ทั้งนั้น!โนเวล-พีดีเอฟ
นี่นางรู้หรือเปล่าว่านางกำลังพูดอันใดออกมา!
คำตอบของฉู่หลิวเยว่นั้นช่างตรงไปตรงมา ทำให้คนอื่นไม่สามารถตอบสนองได้ชั่วคราว
แม้กระทั่งถานไถเฉินที่อยากจะทำให้นางดูเป็นตัวตลก ก็ยังต้องนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง
เดิมที่เขาคิดว่าฉู่หลิวเยว่จะปฏิเสธ แต่ใครจะรู้เล่าว่า…
“ดูเหมือนว่าจักรพรรดิหยวนซีจะมีแผนในใจนะ นางเข้าใจรูปแบบของค่ายกลระดับเก้าได้อย่างลึกซึ้งจริงหรือ?”
ถานไถรั่วหลีที่นั่งอยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ใบหน้าดูประชดประชันอย่างยิ่ง
นางเน้นเสียงคำว่า “จักรพรรดิหยวนซี” อย่างตั้งใจอีกด้วย
ฉู่หลิวเยว่เลือกสายตามองไปที่นางครู่หนึ่ง ปรากฏรอยยิ้มที่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“ข้าก็แค่จดจำรูปแบบของค่ายกลทั้งหมดเอาไว้เท่านั้นเอง แค่นำศึกษา ไม่กล้าพูดว่าเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แต่อย่าว่าเรื่องอื่นเลย ค่ายกลระดับสูงเช่นนี้ หากจะต้องการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มันไม่ใช่แค่วันสองวันก็สามารถทำได้ แต่ว่าองค์หญิงใหญ่ถานไถ ไม่ใช่ปรมาจารย์ด้านค่ายกล ดังนั้นจะไม่เข้าใจค่ายกลพวกนี้ก็เป็นเรื่องปกติแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น พร้อมยกจอกเหล้าขึ้นมาจิบอย่างสบายๆ
ถานไถรั่วหลีสำลัก
“เจ้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...