ตอนที่106 คุยเรื่องธุรกิจ
“จะรักษาได้จริงๆเหรอค่ะ? แบบไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้เลยนะคะ?”
เซียวเซียวเหลือบมองไปที่บริเวณขาอ่อนของตัวเอง สีหน้าของเธอดูค่อนข้างกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ขอโทษนะคะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ไว้ใจคุณ แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวพันถึงอนาคตทางอาชีพการงานของฉัน ก็เลยกังวลอยู่นิดหน่อย ถึงพี่หลินจะบอกว่าฝีมือด้านการแพทย์ของคุณเหนือชั้นมากก็ตาม…”
ฉีเล่ยชี้ไปที่หัวเข่าของหลินชูวโม่และกล่าวว่า
“ก่อนหน้านี้ บาดแผลที่หัวเข่าของเธอยังอาการหนักกว่าของคุณอีก ลองดูด้วยตาตัวเองสิครับ ตอนนี้ยังเห็นแผลถลอกอยู่อีกไหม?”
“สุดหล่อ แอบมองขาอ่อนของฉันอีกแล้วนะ”
หลินซูวโม่อดกล่าวหยอกเย้าฉีเล่ยไม่ได้เมื่อเห็นอีกฝ่ายจับจ้องมาที่ขาของตัวเอง
“ผมแค่ยกตัวอย่างเฉยๆ”
“แต่สายตาของนายมันชวนเข้าใจผิดมาก”
“…”
เซียวเซียวหัวเราะและกล่าวขึ้นว่า
“พี่หลินเองก็เคยบอกมาก่อนเหมือนกันว่า เธอล้มเข่ากระแทกพื้น แต่ตอนนี้กลับไม่มีเหลือทิ้งแม้แต่รอยแผลเป็นด้วยซ้ำ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเธอหายดีขนาดนี้ได้ยังไง นี่อย่างกับไม่เคยเป็นแผลมาก่อนด้วยซ้ำ”
หลินชูวโม่ยักไหล่กล่าวแทรกขึ้นว่า
“ก็เพราะฉันรู้ว่าเธอต้องไม่เชื่ออยู่แล้ว ฉันก็เลยพาสุดหล่อมาดูอาการให้เธอถึงที่นี่ยังไงล่ะ ปัญหากวนใจของเธอจะได้หมดสิ้นไปซะที”
สาวสวยในชุดกระโปรงสั้นสีขาวเอ่ยแซวขึ้นว่า
“แหมม…ที่แผลของพี่หลินหาย เพราะเขาใช้ลิ้นเลียรึเปล่าค่ะ?”
หลินชูวโม่รู้สึกราวกับโดนท้าทายอย่างบอกไม่ถูก เธอยิ้มสวนขึ้นทันทีว่า
“ใช้ยารักษานี่แหละจ้ะ แต่หลังจากนั้นฉันให้เขาเห็นมากกว่าขาอ่อนอีกนะ”
เสียงหนึ่งเอ่ยถามแทรกขึ้นทันทีด้วยความสงสัย
“มากกว่าขาอ่อน?”
หลินชูวโม่เบะปากคว่ำกล่าวตอบพร้อมสีหน้าดูแคลนว่า
“สมองคนหรือสมองหมูกันจ๊ะ? บนเรือนร่างของผู้หญิงเนี่ย ยังมีอีกกี่ส่วนกันที่น่าดึงดูดกว่าขาอ่อน ไหนคิดสิคิด?”
ภายในใจของฉีเล่ยว้าวุ่นโกลาหลไปหมด แม้จะรู้ว่าพวกเธอก็สนทนากันตามภาษาผู้หญิงเป็นปกติ แต่พอเอาเข้าจริง นี่มันน่ารำคาญมาก อย่างกับมีผึ้งฝูงหนึ่งกำลังส่งเสียงหึ่งๆบินวนอยู่รอบตัวเขา
ฉีเล่ยถอนหายใจเฮือกหนึ่งและกล่าวว่า
“ผมอยากเห็นที่ไหนกันล่ะ? ตอนนั้นรู้ทั้งรู้ว่าใส่กระโปรงยังจะมานั่งยองๆให้เห็นอีก ไม่รู้จักระมัดระวังเอง แล้วยังจะมาพูดจาชวนให้คนอื่นเข้าใจผิดแบบนี้อีก ผมเป็นฝ่ายเสียหายนะครับ”
บรรดาสาวสวยนั่งขำกันจนท้องแข็ง
“สุดหล่อ สรุปว่าเห็นของใต้กระโปรงพี่หลินจริง?”
“ฮ่าฮ่า…สุดหล่อร้อนตัวเองนะ ตอนแรกฉันยังแค่คิดว่าพี่หลินล้อเล่น”
คล้อยหลังพวกสาวๆหัวเราะคิกคักกันเสร็จ ฉีเล่ยก็เอ่ยถามน้ำเสียงเย็นขึ้นว่า
“จะเริ่มรักษากันเลยไหม?”
ตอนนี้ยังพอเหลือเวลา เพราะหลี่ถงซียังมีสอนอีกสองคาบบ่าย และเขาต้องรีบกลับไปพบเธอที่มหาวิทยาลัยอีก
หลินชูวโม่หัวเราะเล็กน้อยและเอ่ยขึ้นว่า
“เซียวเซียว นั่งลงก่อน ช่วยโชว์เรียวขาระดับนางแบบชั้นนำให้สุดหล่อของเราดูหน่อยเร็ว”
เซียวเซียวเชื่อฟังเธอเป็นอย่างมาก เธอนั่งลงบนโซฟาทันทีก่อนจะถอดรองเท้าเหยียดเรียวขานวลสีขาวประดุจหิมะขึ้นมาวางบนตักของฉีเล่ย
“…”
ขาสวยมาก…
นี่เป็นประโยคแรกที่ฉีเล่ยร้องอุทานขึ้นภายในใจ แน่นอนว่าเขาไม่สามารถสบถคำเหล่านี้ออกไปได้จริง เขามาที่นี่เพื่อรักษาผู้ป่วยที่เดือดร้อน แม้ว่าผู้ป่วยรายนี้จะเป็นสาวสวยระดับนางแบบ แต่ในสายตาของแพทย์ ผู้ป่วยก็คือผู้ป่วย ไม่มีความแตกต่างระหว่างหญิงหรือชาย ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ทุกคนต้องได้รับการรักษาและปฏิบัติตัวอย่างเท่าเทียม
ฉีเล่ยหยิบขวดยาขนาดจิ๋วที่บรรจุผงคางคกเย็นออกมา และค่อยๆเทผงยาลงบนแผลของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวังพลางเช็ดด้วยความเบามือ ใช้นิ้วกดจุดบริเวณรอบแผล ลงน้ำหนักสม่ำเสมอ จนกว่าผงยาจะซึมซับเข้าสู่ชั้นผิวหนัง ยามนั้นถึงค่อยหยุด
ฉีเล่ยเก็บขวดยาและเงยหน้ากล่าวกับเซียวเซียวว่า
“เดี๋ยวผมจะแบ่งยาผงส่วนหนึ่งไว้ให้ หลังอาบน้ำเสร็จก็ใช้มันทาอีกรอบบริเวณบาดแผล พรุ่งนี้น่าจะหายดีแล้ว”
“พรุ่งนี้?”
เซียวเซียวขมวดคิ้วแน่นร้องอุทานออกมาเสียงดัง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อ
“ครับ พรุ่งนี้ก็หายดี”
ฉีเล่ยยังคงพยักหน้ายืนยันคำเดิม
เฝ้าสังเกตท่าทางการแสดงออกของเซียวเซียว ดูยังไงเธอก็ไม่อยากจะเชื่อ และไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น แม้แต่สาวๆรอบข้างยังไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
“ไม่มีทางน่า ทำไมมันง่ายขนาดนี้ล่ะ?”
“ไม่ใช่ว่ากำลังหลอกพวกเราอยู่หรอกนะ? แล้วไอ้ผงดำๆที่ใส่ไปมันคืออะไร? น่ากลัว…”
“หรือนี่กำลังแอบหลอกจับขาของเซียวเซียว? ถ้าครึ่งวันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แสดงว่านายแค่มาหลอกลวนลามเธอนะ!”
ฉีเล่ยไม่มีอารมณ์จะมานั่งเถียงกับผู้หญิงพวกนี้ให้เสียเวลา เขายกแขนขึ้นมองนาฬิกาแวบหนึ่ง กล่าวว่า
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัว”
“อย่า! อย่าเพิ่งไป!”
หลินชูวโม่รีบฉุดแขนของฉีเล่ยกลับเข้ามาทันที โดยเผลอคิดไปว่าเขาคงกำลังหัวเสียที่คนอื่นสงสัยในความสามารถของตนเอง เธอจึงรีบระล่ำระลักอธิบายให้ทุกคนฟังทันทีว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน