ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 120

ตอนที่120 อุทิศร่างกาย

หลังจากที่มู่เซียวหยานได้ยินเรื่องทั้งหมดก็ถึงกับโกรธจัด เธอร้องตะโกนเสียงดังลั่นจากปลายสายขึ้นว่า

“ไอ้พวกสารเลว! มันล้ำเส้นกันเกินไปแล้ว! ล้ำเส้นเกินไปมาก! ในชีวิตของฉันมีแต่รังแกคนอื่นเป็นของเล่น แต่นี่กลับกลายว่ากำลังเป็นฝ่ายถูกรังแกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! ครอบครัวของ‘หัวหน้าคณะอาจารย์’กับ’ไอ้อดีตอธิการบดี’มันอยู่ที่ไหน? ฉันจะให้ทหารไปลากพวกมันมาขอขมาต่อหน้าลูกเขยของฉัน!”

เหอจื่อรู้สึกขบขันเล็กน้อยเมื่อได้ยิน

“จะเล่นแบบนี้จริงสิ?”

“อยู่แล้ว! แต่ฉันไม่เปลืองมือลงไปเองหรอกนะ ฉันจะจ้างผู้หญิงสักร้อยคนไปยืนรุมด่าพวกมันให้หัวเปียกกันหมดไปเลย!”

“มู่เซียวหยาน วิธีนี้ดูจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้ ทำไมถึงไม่ลองโทรหาเพื่อนดูล่ะ? ตอนนั้นเธอก็เคยบอกเองไม่ใช่เหรอว่า เพื่อนๆของเธอค่อนข้างจะมีอำนาจอย่างมากในเมืองหลวง แสดงว่าต้องมีเส้นสายอยู่ไม่น้อย คงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ที่จะแก้ปัญหาพวกนี้จริงไหม?”

“เหอะ มันก็ไม่ได้ว่าง่ายขนาดนั้นหรอกนะ บางคนย้ายไปอยู่หวางฟูจิง บ้างก็ไปอยู่ถงโจว เหลือแค่ฉันกับแกนี่แหละที่อยู่ปักกิ่ง…”

เหอจื่อได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยเสียงแผ่วขึ้นว่า

“ไม่เป็นไร ถ้ามันคับขันจริงๆก็ลองโทรไปดู”

“ได้เลยค่ะคุณลูกสาว เดี๋ยวจะลองโทรหาให้!”

“รีบไปจัดการเถอะ ถ้าอาจารย์ฉีโดนไล่ออกไปจริงๆ ฉันจะไปที่ดาดฟ้าตึกเรียนแล้วกระโดดลงมา”

“โอ้? เป็นแผนที่ไม่เลวนะ แกลองไปตึกที่สูงที่สุดของมหาวิทยาลัยดู ยืนตรงปลายกำแพงก่อนกระโดดอย่าลืมตะโกนขู่ด้วยล่ะ หลังจากแกกระโดดลงมา คงมีนักข่าวไม่น้อยที่จะพากันแห่มาถ่ายรูป ถึงตอนนั้นเรื่องทุกอย่างก็จบ ก็ดีนะ เดี๋ยวฉันดูแลลูกเขยต่อจากแกเอง”

“มู่เซียวหยาน! นี่เธอเป็นแม่ของฉันจริงๆใช่ไหมห๊ะ!? นี่จะให้ฉันกระโดดลงมาจากตึกจริงๆเหรอ? มีแม่ที่ไหนบนโลกที่คิดแบบนี้กัน?”

“แกเป็นคนฉลาดนะ เรื่องแค่นี้คงคิดได้”

……

ฉีเล่ยเดินออกจากประตูมหาวิทยาลัยไป ยืนรอสักครู่หนึ่งก็เห็นแท็กซี่ขับผ่านทางมาพอดี เขาจึงรีบยกมือขึ้นโบกเรียกโดยเร็ว

แต่เมื่อรถจอดเทียบข้าง คนขับก็เปิดกระจกโผล่หัวออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นฉีเล่ยก็ถึงกับเลิกคิ้วขึ้นทันใด

“อ้าว? คุณเองเหรอ?”

“รู้จักผมด้วยเหรอครับ…”

ฉีเล่ยไม่เข้าใจแม้แต่น้อย พี่คนขับคนนี้รู้จักเขา?

พี่คนขับคนนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายขึ้นรถ

“มาน้อง ขึ้นมาก่อน”

ฉีเล่ยเปิดประตูเดินขึ้นรถไป ทันทีที่นั่งก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า

“คุณรู้จักผมด้วยเหรอครับ?”

พี่คนขับตอบกลับไปว่า

“ใช่ ครั้งล่าสุดที่น้องมากับแฟนสาวไง เล่นเอาเกือบเฉี่ยวรถคันอื่น น้องลืมไปแล้วเหรอ?”

“ผมจำไม่ได้ครับ…”

“จำพี่ได้ก็แปลก พี่มันคนขับรถธรรมดาทั่วไป แต่พี่จำน้องได้แม่น ทั้งสูงทั้งหล่อ อย่างกับเทพบุตรในชุดสูทน้ำเงิน แถมยังมี…แฟนสาวสุดเซ็กซี่คนนั้นอีก ฮ่าฮ่า…”

ฉีเล่ยที่ได้ฟังแบบนั้นก็จำได้ทันที

ชายคนนี้เคยขับไปส่งเขากับหลินชูวโม่ที่คลินิกชูวโม่เมื่อไม่นานมานี้เอง แล้วก็เป็นเพราะหลินชูวโม่เช่นกันที่เย้ายวนเขาไม่หยุดหย่อน จนเกือบทำให้พี่คนขับเกือบเฉี่ยวชนรถคนอื่นเข้า

ฉีเล่ยยิ้มพร้อมตอบกลับไปว่า

“เธอไม่ใช่แฟนผมครับ”

“เอาน่า มันไม่มีอะไรน่าอายหรอก ตอนที่ฉันยังหนุ่มยังแน่นก็เหมือนกับน้องนั่นแหละ บอกเพื่อนคนอื่นไปว่าแค่เพื่อนไม่ใช่แฟน แต่ยังไงก็เถอะ ก่อนจะแต่งงานน้องต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีนะ ไม่อย่างนั้นเตรียมเป็นทาสเมียไปชั่วชีวิต!”

ดูท่าพี่คนขับคนนี้จะเป็นพวกช่างพูด ตลอดทางบนท้องถนนเขาพูดกับฉีเล่ยไม่หยุดปาก จวบจนกระทั่งตอนจ่ายเงินและเดินลงจากรถ

เมื่อเดินลงมา ฉีเล่ยก็ตรงเข้าไปในคลินิคชูวโม่ทันที พลังงานสาวคนหนึ่งในเครื่องแบบรีบเข้าทักทาย และกล่าวกับฉีเล่ยอย่างสุภาพว่า

“คุณฉีคะ บอสหลินกำลังรออยู่ที่ชั้นสองค่ะ”

“ชั้นสองงั้นเหรอ?”

ฉีเล่ยรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น ชั้นสองเป็นสถานที่นัดรวมตัวของกลุ่มนางฟ้าสาว ครั้งล่าสุดก็ได้ขึ้นไปเขายังจำได้ฝังใจ พวกเธอแต่ละคนต่างพูดจาหว่านล้อมต่างๆนานา ราวกับอยากจะกลืนกินเขาเข้าไปทั้งเป็น สิ่งนี้ยังเป็นความทรงจำอันแสนระทึกใจไม่จางหายสำหรับเขา

“เอ่อ…บอกเธอไปคุยชั้นสามได้ไหมครับ?”

“บอสหลินบอกว่า เธอกำลังรอคุณอยู่ที่ชั้นสองค่ะ ดูเหมือนว่าเธอต้องการคุยกับคุณเกี่ยวกับอาการของคุณเซียวเซียว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน