ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 122

สรุปบท ตอนที่122 แก้วละหมื่นหยวน: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน

สรุปเนื้อหา ตอนที่122 แก้วละหมื่นหยวน – ยอดคุณหมอสกุลเฉิน โดย Internet

บท ตอนที่122 แก้วละหมื่นหยวน ของ ยอดคุณหมอสกุลเฉิน ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่122 แก้วละหมื่นหยวน

ฉีเล่ยรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก เขาไม่เคยคิดว่าผู้หญิงกลุ่มนี้ที่เพิ่งเคยพบเจอกันไม่กี่ครั้ง และแต่ละคนก็ดูเป็นคนรักอิสระอย่างมาก จะเป็นคนที่รักความยุติธรรม และลงมือช่วยเหลือเขาอย่างจริงใจถึงเพียงนี้ กระทั่งหลินชูวโม่ที่ชอบพูดจาสองแง่สามง่ามอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเช่นกัน

เวลานี้ ฉีเล่ยสัมผัสได้ว่า หญิงสาวทุกคนนั้นกำลังโกรธแค้น ราวกับว่าเป็นพวกเธอเองที่กำลังประสบกับปัญหาใหญ่ในครั้งนี้เสียเอง

“ขอบคุณครับ ขอบคุณพวกคุณทุกคนมากจริงๆ!” ฉีเล่ยได้แต่เอ่ยขอบคุณจากใจจริง

“เรียกว่าพี่สาวสิจ๊ะหนุ่มน้อย!”

หญิงสาวที่มีรอยยิ้มหวานและใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักพูดขึ้น ฉีเล่ยจำได้ว่าเธอชื่อเสี่ยวอาน แต่ที่ผ่านมาเขายังไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เขาก็สังเกตเห็นว่า เธอเองก็แอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาใครบางคนเช่นกัน

“ครับ พี่สาวก็พี่สาว” ฉีเล่ยตอบกลับยิ้มๆ

ฉีเล่ยรู้ดีว่า อาจเป็นเพราะพลังปราณภายในร่างของตนเอง จึงทำให้เขามีใบหน้าและผิวพรรณที่อ่อนเยาว์กว่าหญิงสาวกลุ่มนี้ แต่ความจริงแล้ว อายุของเขานั้นมากกว่าสาวๆกลุ่มนี้เล็กน้อย

หลินชูวโม่ยกมือขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง พร้อมกับร้องตะโกนบอกทุกคน “เอาล่ะ ก่อนอื่นลงมือกินกันก่อน เดี๋ยวท้องอิ่มมีแรงแล้วค่อยมาคุยกันต่อ”

จากนั้น ทุกคนต่างก็เงื้อตะเกียบในมือของตัวเองขึ้นจ้วงลงในจานอาหารตรงหน้า หลังจากนั้นหลินชูวโม่ก็ได้หันไปสั่งไวน์แดงมาฉลองอีกสองขวด

แต่ครั้งนี้ฉีเล่ยไม่ต้องการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อีกแล้ว เขายังจำสภาพของตัวเองที่ร้าน KTV ในคืนนั้นได้ดีว่า มีสภาพเมามายไม่เป็นท่าขนาดไหน

หลังจากที่หลินชูวโม่สั่งไวน์มาดื่ม และฉีเล่ยปฏิเสธนั้น กลุ่มสาวๆกลับไม่คะยั้นคะยอ และดื่มกันอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจฉีเล่ยอีกเลย

แต่ในระหว่างนั้นเอง เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น

ฉีเล่ยซึ่งนั่งอยู่ติดประตูที่สุดจึงลุกขึ้นไปเปิด และพบว่าผู้ที่มาเคาะประตูนั้นเป็นชายหนุ่มแต่งตัวดียืนอยู่ เขาจึงได้ร้องถามออกไปว่า “ไม่ทราบมีอะไรเหรอครับ?”

“คุณถงเซียวเซียวอยู่ข้างในมั๊ยครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามฉีเล่ยยิ้มๆ แม้ปากจะเอ่ยถามออกไปแบบนั้น แต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่ร่างของเซียวเซียวซึ่งอยู่ในห้องแล้ว

ฉีเล่ยไม่รู้จักชายหนุ่มตรงหน้า และคิดว่าคงจะเป็นเพื่อนของเซียวเซียว จึงได้ปล่อยให้เดินเข้าไป ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปหาเซียวเซียว พร้อมกับโน้มตัวลงกระซิบบางอย่างข้างหูของเธอ

แต่เป็นเพราะทั้งสองคนพูดคุยกันด้วยภาษาจีนแมนดาริน และคนอื่นๆก็ไม่ใช่คนหมินหนานจึงฟังไม่ค่อยเข้าใจว่าทั้งคู่กำลังคุยอะไรกัน

แต่หลังจากได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม ใบหน้าของเซียวเซียวก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งขึ้นมาทันที จากนั้น ทั้งคู่จึงเริ่มทะเลาะกันเสียงดังด้วยภาษาของชาวหมินหนาน ชายหนุ่มเองก็มีสีหน้าโกรธเกรี้ยวมากเช่นกัน เขายกมือขึ้นชูนิ้วมือต่อหน้าถงเซียวเซียว ลักษณะคล้ายคนกำลังต่อรองราคาอยู่

“ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ว่าง เชิญคุณออกไปได้แล้ว!” ถงเซียวเซียวตอบกลับด้วยสีหน้าเย็นชา พร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางประตูห้อง

“คุณถง คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้! นี่คุณคิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้านางสวรรค์รึไงห๊ะ? กะอีแค่ขอให้ไปดื่มไวน์ด้วยกันแค่แก้วเดียว ก็คิดราคาสูงถึงหนึ่มหมื่นหยวนเชียวเหรอ? นั่นน่ะมันเรทราคาของพวกดาราระดับแนวหน้า ไม่ใช่ระดับคุณ ขอบอกตรงๆ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่เป็นปักกิ่ง คุณคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสดีๆแบบนี้เหรอ?”

เป็นเพราะถงเซียวเซียวและชายหนุ่มคนนั้นตอบโต้กันด้วยภาษาจีนกลางซึ่งไม่ใช่ภาษาที่แพร่หลายในปักกิ่ง คนอื่นๆจึงไม่ค่อยเข้าใจกระจ่างนักว่า ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันเรื่องอะไร

แต่ดูจากท่าทางของผู้ชายคนนี้ ดูเหมือนเขาต้องการที่จะจีบถงเซียวเซียว!

แม้ว่าถงเซียวเซียวจะเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย และเป็นที่รู้จักของผู้คนในปักกิ่ง แต่ความจริงแล้ว เธอเองกลับไปโด่งดังในฮ่องกงและไต้หวันมากกว่าที่จีนแผ่นดินใหญ่

แต่นับเป็นความบังเอิญที่ลูกค้าของชายหนุ่มก็พาเขามาทานอาหารที่ร้านแห่งนี้เช่นกัน ขณะที่กำลังดื่มกินอยู่ที่โต๊ะของตนเองนั้น เขาก็ได้หันไปเห็นกลุ่มสาวสวยที่มีบุคลิกแตกต่างกันเดินเข้ามาในร้าน และหนึ่งในนั้นยังเป็นหญิงสาวร่างสูง ที่คนไต้หวันต่างก็รู้จักเธอในฐานะหญิงสาวขางามอันดับหนึ่งถงเซียวเซียวนั่นเอง

ถงเซียวเซียวร้องตะโกนไล่ชายหนุ่มออกไปจากห้องอีกครั้ง ผู้ชายคนนี้ช่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา บังอาจเข้ามาขัดจังหวะในการเลี้ยงอำลาของเธอกับฉีเล่ยและเพื่อนๆ

“ถงเซียวเซียว อย่ามาทำเป็นเล่นตัวไปหน่อยเลย! เธอมันก็แค่ผู้หญิงประเภทที่เงินมาผ้าหลุดนั่นล่ะ! ผู้หญิงอย่างเธอจะดีกว่าพวกดาราเซเลปคนอื่นๆตรงไหนกัน? ฉันเคยพบเจอผู้หญิงมาตั้งมากมาย แต่ไม่เคยเห็นใครไร้มารยาทเหมือนเธอมาก่อนเลยจริงๆ!”

หวังจื่อเว่ยยังคงพ่นภาษาจีนกลางใส่ถงเซียวเซียวไม่หยุด และคำพูดที่เขาใช้ก็เริ่มรุนแรง และดูถูกหญิงสาวมากขึ้นเรื่อยๆ

จะว่าไปวังจื่อเว่ยก็ดูเหมือนจะโง่ไปหน่อย แม้ว่าเขาจะพ่นภาษาจีนกลาง แต่ก็ใช่ว่าหญิงสาวคนอื่นๆจะไม่เข้าใจเลยซะทีเดียว หลังจากพอจับใจความได้ หญิงสาวทุกคนในกลุ่มต่างก็พากันเดือดดาลกันอย่างมาก เพราะคำพูดของหวังจื่อเว่ยนั้น เท่ากับดูถูกผู้หญิงคนอื่นๆด้วย

“แล้วแกล่ะดีนักรึไง? ไอ้คนขาสั้น มาพล่ามบ้าบออะไรตรงนี้!”

“นั่นน่ะสิ! ฉันเคยเห็นแต่คนที่เมาเหมือนหมา แต่ไม่เคยเห็นคนที่เห่าเก่งเหมือนหมามาก่อนเลย!”

“เซียวเซียว ลุกขึ้นไปจัดการมันเลย! แล้วถ้ามันกล้าตอบโต้ พวกเราจะรุมมันให้นอนสลบคาพื้นเลยคอยดู!”

ในเมื่อสาวๆกลุ่มนี้ถูกปลุกให้คลุ้มคลั่งเดือดดาลแล้วล่ะก็ อย่าได้หวังเลยว่าพวกเธอจะเหมือนผู้หญิงทั่วไปที่ยอมให้ใครข่มเหงได้ง่ายๆ

อีกอย่าง คำแสลงในภาษาจีนก็มีตั้งมากมาย และผู้หญิงกลุ่มนี้ก็จัดว่าเป็นสุดยอดนักด่าเลยก็ว่าได้ แต่ละคนต่างก็พากันพ่นคำด่าและคำดูถูกใส่หวังจื่อเว่ยกันไม่หยุด จนกระทั่งผ่านไปนานกว่าสิบนาที ยังไม่มีทีท่าว่าสาวๆจะแผ่วลงเลยแม้แต่น้อย

กระทั่งเสี่ยวอานที่ฉีเล่ยมองว่าน่ารักบริสุทธิ์ที่สุดในกลุ่มนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ เธอเองยังพ่นคำด่าออกมาชนิดที่เรียกว่า ใครถูกเธอด่าเข้าไปคงต้องกระอักเลือดสามวันสามคืนติดต่อกันแน่

หวังจื่อเว่ยได้แต่ยืนนิ่งใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห เขาต้องการที่จะอ้าปากตอบโต้สาวๆกลับไป แต่หลังจากที่พยายามอ้าปากอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถหาช่องไฟพูดแทรกขึ้นได้เลย

จนกระทั่งผู้ชายคนหนึ่งแทบจะร้องไห้ออกมา!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน