ตอนที่122 แก้วละหมื่นหยวน
ฉีเล่ยรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก เขาไม่เคยคิดว่าผู้หญิงกลุ่มนี้ที่เพิ่งเคยพบเจอกันไม่กี่ครั้ง และแต่ละคนก็ดูเป็นคนรักอิสระอย่างมาก จะเป็นคนที่รักความยุติธรรม และลงมือช่วยเหลือเขาอย่างจริงใจถึงเพียงนี้ กระทั่งหลินชูวโม่ที่ชอบพูดจาสองแง่สามง่ามอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเช่นกัน
เวลานี้ ฉีเล่ยสัมผัสได้ว่า หญิงสาวทุกคนนั้นกำลังโกรธแค้น ราวกับว่าเป็นพวกเธอเองที่กำลังประสบกับปัญหาใหญ่ในครั้งนี้เสียเอง
“ขอบคุณครับ ขอบคุณพวกคุณทุกคนมากจริงๆ!” ฉีเล่ยได้แต่เอ่ยขอบคุณจากใจจริง
“เรียกว่าพี่สาวสิจ๊ะหนุ่มน้อย!”
หญิงสาวที่มีรอยยิ้มหวานและใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักพูดขึ้น ฉีเล่ยจำได้ว่าเธอชื่อเสี่ยวอาน แต่ที่ผ่านมาเขายังไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เขาก็สังเกตเห็นว่า เธอเองก็แอบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาใครบางคนเช่นกัน
“ครับ พี่สาวก็พี่สาว” ฉีเล่ยตอบกลับยิ้มๆ
ฉีเล่ยรู้ดีว่า อาจเป็นเพราะพลังปราณภายในร่างของตนเอง จึงทำให้เขามีใบหน้าและผิวพรรณที่อ่อนเยาว์กว่าหญิงสาวกลุ่มนี้ แต่ความจริงแล้ว อายุของเขานั้นมากกว่าสาวๆกลุ่มนี้เล็กน้อย
หลินชูวโม่ยกมือขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง พร้อมกับร้องตะโกนบอกทุกคน “เอาล่ะ ก่อนอื่นลงมือกินกันก่อน เดี๋ยวท้องอิ่มมีแรงแล้วค่อยมาคุยกันต่อ”
จากนั้น ทุกคนต่างก็เงื้อตะเกียบในมือของตัวเองขึ้นจ้วงลงในจานอาหารตรงหน้า หลังจากนั้นหลินชูวโม่ก็ได้หันไปสั่งไวน์แดงมาฉลองอีกสองขวด
แต่ครั้งนี้ฉีเล่ยไม่ต้องการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อีกแล้ว เขายังจำสภาพของตัวเองที่ร้าน KTV ในคืนนั้นได้ดีว่า มีสภาพเมามายไม่เป็นท่าขนาดไหน
หลังจากที่หลินชูวโม่สั่งไวน์มาดื่ม และฉีเล่ยปฏิเสธนั้น กลุ่มสาวๆกลับไม่คะยั้นคะยอ และดื่มกันอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจฉีเล่ยอีกเลย
แต่ในระหว่างนั้นเอง เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
ฉีเล่ยซึ่งนั่งอยู่ติดประตูที่สุดจึงลุกขึ้นไปเปิด และพบว่าผู้ที่มาเคาะประตูนั้นเป็นชายหนุ่มแต่งตัวดียืนอยู่ เขาจึงได้ร้องถามออกไปว่า “ไม่ทราบมีอะไรเหรอครับ?”
“คุณถงเซียวเซียวอยู่ข้างในมั๊ยครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามฉีเล่ยยิ้มๆ แม้ปากจะเอ่ยถามออกไปแบบนั้น แต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่ร่างของเซียวเซียวซึ่งอยู่ในห้องแล้ว
ฉีเล่ยไม่รู้จักชายหนุ่มตรงหน้า และคิดว่าคงจะเป็นเพื่อนของเซียวเซียว จึงได้ปล่อยให้เดินเข้าไป ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปหาเซียวเซียว พร้อมกับโน้มตัวลงกระซิบบางอย่างข้างหูของเธอ
แต่เป็นเพราะทั้งสองคนพูดคุยกันด้วยภาษาจีนแมนดาริน และคนอื่นๆก็ไม่ใช่คนหมินหนานจึงฟังไม่ค่อยเข้าใจว่าทั้งคู่กำลังคุยอะไรกัน
แต่หลังจากได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม ใบหน้าของเซียวเซียวก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งขึ้นมาทันที จากนั้น ทั้งคู่จึงเริ่มทะเลาะกันเสียงดังด้วยภาษาของชาวหมินหนาน ชายหนุ่มเองก็มีสีหน้าโกรธเกรี้ยวมากเช่นกัน เขายกมือขึ้นชูนิ้วมือต่อหน้าถงเซียวเซียว ลักษณะคล้ายคนกำลังต่อรองราคาอยู่
“ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ว่าง เชิญคุณออกไปได้แล้ว!” ถงเซียวเซียวตอบกลับด้วยสีหน้าเย็นชา พร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางประตูห้อง
“คุณถง คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้! นี่คุณคิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้านางสวรรค์รึไงห๊ะ? กะอีแค่ขอให้ไปดื่มไวน์ด้วยกันแค่แก้วเดียว ก็คิดราคาสูงถึงหนึ่มหมื่นหยวนเชียวเหรอ? นั่นน่ะมันเรทราคาของพวกดาราระดับแนวหน้า ไม่ใช่ระดับคุณ ขอบอกตรงๆ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่เป็นปักกิ่ง คุณคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสดีๆแบบนี้เหรอ?”
เป็นเพราะถงเซียวเซียวและชายหนุ่มคนนั้นตอบโต้กันด้วยภาษาจีนกลางซึ่งไม่ใช่ภาษาที่แพร่หลายในปักกิ่ง คนอื่นๆจึงไม่ค่อยเข้าใจกระจ่างนักว่า ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันเรื่องอะไร
แต่ดูจากท่าทางของผู้ชายคนนี้ ดูเหมือนเขาต้องการที่จะจีบถงเซียวเซียว!
แม้ว่าถงเซียวเซียวจะเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย และเป็นที่รู้จักของผู้คนในปักกิ่ง แต่ความจริงแล้ว เธอเองกลับไปโด่งดังในฮ่องกงและไต้หวันมากกว่าที่จีนแผ่นดินใหญ่
แต่นับเป็นความบังเอิญที่ลูกค้าของชายหนุ่มก็พาเขามาทานอาหารที่ร้านแห่งนี้เช่นกัน ขณะที่กำลังดื่มกินอยู่ที่โต๊ะของตนเองนั้น เขาก็ได้หันไปเห็นกลุ่มสาวสวยที่มีบุคลิกแตกต่างกันเดินเข้ามาในร้าน และหนึ่งในนั้นยังเป็นหญิงสาวร่างสูง ที่คนไต้หวันต่างก็รู้จักเธอในฐานะหญิงสาวขางามอันดับหนึ่งถงเซียวเซียวนั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน