ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 153

สรุปบท ตอนที่153 ประลองรอบสอง(1): ยอดคุณหมอสกุลเฉิน

ตอนที่153 ประลองรอบสอง(1) – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดคุณหมอสกุลเฉิน

ตอนนี้ของ ยอดคุณหมอสกุลเฉิน โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่153 ประลองรอบสอง(1) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่153 ประลองรอบสอง(1)

ฉีเล่ยเคยโค่นตระกูลเป่ยได้แล้วครั้งหนึ่ง และเป่ยฉวนเทียนเองก็ยังเต็มใจมอบป้ายประจำตระกูลเป่ยให้กับเขาอีกด้วย ซึ่งฉีเล่ยก็ปฏิเสธที่จะรับมา แต่กลับถูกอีกฝ่ายรบเร้าไม่หยุดจนต้องนำกลับมาบ้านด้วยจนได้ ส่วนเหตุผลที่ไม่อยากรับเอามานั้น ก็เพราะไม่ต้องการสร้างปัญหาให้อีกฝ่ายนั่นเอง

แต่เมื่อฉีเล่ยกลับมาที่คลินิกตระกูลเป่ยอีกครั้งกลับผิดคาด เขาได้พบว่า ธุรกิจของตระกูลเป่ยไม่เพียงจะไม่ได้รับผลกระทบหลังจากถูกปลดป้ายตระกูลออกไป แต่กลับยิ่งทำให้มีคนไข้มากขึ้นกว่าก่อนหน้าอย่างน้อยสองถึงสามเท่าเลยทีเดียว!

อันที่จริงแล้ว หากลองใคร่ครวญดูคิดให้ดี ตระกูลเป่ยนั้นก่อตั้งคลีนิกอยู่ในเมืองปักกิ่งมาก็นานแล้ว และเสาหลักที่ทำให้คลีนิคแห่งนี้ยังคงได้รับความนิยมจวบจนถึงปัจจุบัน ก็คือชื่อเสียงของเป่ยฉวนเทียนที่สั่งสมมานานนับหลายสิบปีนั่นเอง ด้วยจุดแข็งดังกล่าวทำให้ที่นี่ยังคงเป็นตัวเลือกแรกเสมอสำหรับผู้คนที่เจ็บไข้ได้ป่วย และต้องการรักษาด้วยการแพทย์แผนจีน

คนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด พวกเขาก็ย่อมผงาดอยู่ได้

ฉีเล่ยเพิ่งจะย่างเท้าก้าวเข้าไปเหยียบในโถงคลินิกได้ไม่นาน จู่ๆก็มีหญิงสาวคนหนึ่งตรงเข้ามาทักทายทันที

เธอคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากหญิงสาวในชุดกี่เพ้าที่เขาได้พบเมื่อครั้งก่อน เธอจำฉีเล่ยได้ทันทีที่เห็นหน้า แต่สีหน้าการแสดงออกของเธอกลับดูไม่ค่อยพอใจเขาเท่าไหร่นัก พร้อมเอ่ยถามว่า

“คุณมาทำอะไรที่นี่อีก?”

ฉีเล่ยยิ้มและกล่าวว่า

“ผมมาเยี่ยมอาวุโสเป่ยน่ะครับ”

หญิงสาวในชุดกี่เพ้ากล่าวตอบทันทีเจือสีหน้าประหลาดใจว่า

“หรือจะมาโค่นสำนักของเราอีกคะ?”

ครั้งล่าสุดที่ฉีเล่ยมานั้น จุดประสงค์ของเขาก็มาเพื่อโค่นสำนัก และช่วงชิงป้ายประจำตระกูลเป่ยอันทรงเกียรติไป แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้จำนวนคนไข้เพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่ในอีกด้านมันก็ทำให้คลินิกตระกูลเป่ยเกิดข่าวเด่นประเด็นร้อนบนโลกอินเตอร์เน็ตเช่นกัน และในเวลานี้เขาก็กลับมาที่นี่อีกครั้งโดยยังไม่ทราบจุดประสงค์ที่แท้จริง หรือบางทีพายุแห่งหายนะระลอกที่สองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

ฉีเล่ยคลี่ยิ้มอ่อนโบกไม้โบกมือไปมาพร้อมตอบกลับไปว่า

“ผมแค่นัดมาคุยกับอาวุโสเป่ยเฉยๆครับ ไม่ได้มาโค่นสำนักอะไรแบบนั้นอีกแล้ว”

ในตอนแรก เป่ยฉวนเทียนได้ประกาศไว้ว่า ภายในสามวันให้หลังตนจะไปท้าประลองกับฉีเล่ยอีกครั้งถึงหน้าบ้าน แต่วันนี้จู่ๆเป่ยจ้าวหยวนก็โทรมามาหาฉีเล่ยแจ้งให้เขารีบมาที่บ้านตระกูลเป่ยโดยเร็ว เพราะเวลานี้มีผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรักษาด้วยวิชาฝังเข็มที่ฉีเล่ยชำนาญ

ฉีเล่ยที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าอีกฝ่ายมีเจตนาร้ายอะไร จึงไม่ได้ตอบปฏิเสธและรีบเดินทางมาที่นี่โดยเร็ว นอกจากนี้แล้ว เป่ยฉวนเทียนเองก็ยังเป็นปรมาจารย์แพทย์อาวุโสที่เขาเคารพอย่างมากคนหนึ่งด้วย ผนวกกับเหตุผลข้อนี้แล้ว หากเขาไม่มา ก็ดูจะเป็นคนไร้เหตุผลไปหน่อย

หญิงสาวในชุดกี่เพ้านำทางฉีเล่ยเข้ามาด้านในตัวเรือนและปล่อยให้เขานั่งรอในห้องรับรอง หลังจากนั้นสักพักใหญ่ ก็มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเดินลงมา แน่นอนว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากเป่ยจ้าวหยวน เขารีบเดินตรงมาหาฉีเล่ยพร้อมกับทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ฉีเล่ย โทษทีที่ให้รอนาน คุณปู่กำลังรอนายอยู่ชั้นบน”

ฉีเล่ยยิ้มและตอบกลับไปว่า

“ช่วยนำทางไปทีครับ พอดีผมยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่”

เป่ยจ้าวหยวนดูตื่นเต้นดีใจอย่างมาก เขารีบผายมือเชื้อเชิญฉีเล่ยให้ตามไปทันที ปากก็ร้องบอกไปว่า

“ได้สิ! เชิญทางนี้เลย”

ดูเหมือนว่าหลังจากการประลองครั้งล่าสุดได้จบลง ทัศนคติของเป่ยจ้าวหยวนที่มีต่อฉีเล่ยนั้นจะเปลี่ยนไปมาก เขาไม่มีท่าทางที่ดูหยิ่งยโสอย่างแต่ก่อนแล้ว ในทางตรงข้าม เขายังปฏิบัติตัวต่อฉีเล่ยราวกับเป็นเพื่อนคนหนึ่งอีกด้วย

เป่ยจ้าวหยวนเดินนำทางไป โดยมีฉีเล่ยเดินตามอีกฝ่ายไปติดๆ จนกระทั่งเข้าไปในห้องโถงชั้นสองซึ่งตกแต่งในแบบจีนโบราณ

ภายในห้องมีชายชราอยู่สี่คนกำลังนั่งดื่มชาพลางพูดคุยสนทนากันอยู่ แต่เมื่อเห็นฉีเล่ยเดินเข้ามา ทุกคนต่างก็พากันหันขวับมา และสายตาทุกคู่ก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของฉีเล่ย

เป่ยฉวนเทียนลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกับคลี่ยิ้มกว้าง สีหน้าผ่องใส กล่าวขึ้นอย่างจริงใจว่า

“มาแล้ว มาแล้ว เตรียมตัวพร้อมรึยังล่ะ?”

“ขอบคุณอาวุโสเป่ยมากเลยครับที่ให้เกียรติเชื้อเชิญผมแบบนี้ ผมพร้อมแล้วครับ”

“ฮ่าๆ ตอนนี้ที่คลินิกของเรามีคนไข้ที่อยากจะให้เธอช่วยทำการรักษาให้ แต่ถ้ารักษาอย่างเดียวคงจะน่าเบื่อไปหน่อย ฉันก็เลยขอเสนอให้แข่งกันรักษาดีไหม? พูดตามตรงนะ ฉันตื่นเต้นมากจนนอนหลับไม่เต็มอื่นมาหลายวันแล้ว ขอบอกตามตรง ฉันเองก็ไม่รู้ว่าชั่วชีวิตนี้จะมีโอกาสได้ประลองฝีมือกับคนเก่งๆอย่างเธออีกไหม ยังไงก็อย่าถือสากันเลยนะ”

“อาวุโสเป่ยกล่าวเกินไปแล้วครับ ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับ ไม่มีปัญหา”

เป่ยฉวนเทียนตบไหล่ฉีเล่ยเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้นยิ้มๆ

“ไม่มากเกินไปหรอก ฉันชอบหนุ่มสาวแบบเธอจริงๆนะ ไม่หยิ่งผยองอวดดี รู้จักวางตัว แต่ก่อนแข่งขันฉันอยากจะขอร้องเธอเรื่องหนึ่ง ห้ามเธอออมมือให้ฉันเด็ดขาด ฉันอยากจะใช้โอกาสนี้ได้เปิดหูเปิดตาสักครั้งเผื่อฝีมือจะพัฒนาขึ้นบ้าง ฮ่าฮ่า…”

ฉีเล่ยพยักหน้าตอบไปอย่างสุภาพว่า

“ผมจะทำอย่างเต็มที่ครับ”

เป่ยฉวนเทียนหัวเราะ

“มาเถอะ ฉันจะแนะนำทุกคนให้เธอรู้จัก”

ในขณะที่เอ่ยบอกฉีเล่ยนั้น เขาก็ได้ชี้ไปที่ชายชราแก้มตอบใบหน้าเคร่งขรึม ดูเอาจริงเอาจังอยู่ตลอดเวลา

“คนนั้นชื่อว่าหลัวไป่ซิ่ว เป็นปรมาจารย์ด้านกระดูกที่โด่งดังที่สุดในปักกิ่ง ฝีมือด้านการรักษากระดูกของเขานับว่ายอดเยี่ยมมาก และรักษาผู้ป่วยมาแล้วนับไม่ถ้วน”

ฉีเล่ยโค้งศีรษะให้อย่างสุภาพและกล่าวทักทายว่า

“อาวุโสหลัว ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

หลัวไป่ซิ่วพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวทักทายตอบ สีหน้าการแสดงออกดูแข็งกระด้างไร้มนุษย์สัมพันธ์ใดๆ

“อาวุโสปิงยินดีที่ได้รู้จักครับ”

ฉีเล่ยส่งยิ่มให้ปิงโหย่วหลิน อาศัยองค์ความรู้ที่มี เขาย่อมเข้าใจศาสตร์แห่งการครอบแก้วได้ไม่ยาก หากว่าการฝังเข็มคือการปรับสมดุลจากภายใน การครอบแก้วก็คือการเน้น ‘ระบายของเสียออกจากร่างกาย’ แต่หากจะให้พูดตามตรง การรักษาด้วยการครอบแก้วนั้นค่อนข้างจำกัดเฉพาะบางโรค

ปิงโหย่วหลินจับจ้องฉีเล่ยด้วยสายตานุ่มลึก แววตาเปล่งประกายนั้นเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น

“ฉันหวังว่าเธอจะแสดงวิชาสามเข็มปาฏิหาริย์ให้ฉันได้เห็นกับตานะ”

จุดประสงค์ที่เขามาที่นี่ก็ค่อนข้างชัดเจน ทั้งหมดก็เพื่อมาดูการใช้วิชาสามเข็มปาฏิหาริย์ให้เป็นบุญตา

หลังจากแนะนำทั้งสามคนให้ฉีเล่ยรู้จักเรียบร้อยแล้ว เป่ยฉวนเทียนก็พูดกับฉีเล่ยเจือสีหน้ารู้สึกผิดเล็กน้อย

“ฉันขอโทษนะฉีเล่ย ความจริงฉันเองก็ไม่อยากทำให้เรื่องนี้ใหญ่โตหรอก แต่ตาเฒ่าพวกนี้ดันไปได้ยินเรื่องของเธอเข้า ก็เลยอยากแวะเข้ามาชื่นชมวิชาสามเข็มปาฏิหาริย์ด้วยตาตัวเองสักครั้ง อนิจจา…ไหนใครบอกว่ายิ่งแก่ยิ่งหูตึง ทำไมตาเฒ่าสามคนนี้ถึงหูไวตาไวแบบนี้”

“ไม่มีปัญหาเลยครับ”

ฉีเล่ยโบกมือไปมาพร้อมกับเอ่ยตอบ

“ผมไม่ติดอะไรเลยครับ”

ชายร่างอ้วนหัวเราะและพูดขึ้นบ้าง

“ตาเฒ่าเป่ย ฉีเล่ยเขาไม่ได้คิดมากอะไรสักหน่อย แกนั่นแหละที่ชอบตีโพยตีพายไปเอง แต่จะว่าไป เธอจะเริ่มได้รึยังล่ะ? ฉันเองก็อยากเห็นใจจะขาดแล้วเหมือนกัน!”

“อืม งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า”

เป่ยฉวนเทียนกล่าวต่อว่า

“ฉีเล่ย ก่อนหน้านี้ฉันบอกว่าจะประลองกับเธอใช่ไหม? แต่ขอเปลี่ยนอะไรข้อตกลงเล็กน้อย คือตาเฒ่าพวกนี้ก็ร้อนวิชาอยากจะประลองกับเธอเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็เอาเป็นว่า เราจะประลองกันทั้งหมดสามรอบ สองรอบแรกเป็นการวินิจฉัยกับการจัดสูตรยา ส่วนรอบที่สามเป็นการแข่งฝังเข็ม เธอมีความเห็นยังไงบ้างล่ะ?”

“ไม่มีปัญหาเลยครับ”

ฉีเล่ยยิ้มพร้อมพยักหน้าตอบด้วยความเต็มใจทันที เขาทราบดีอยู่แล้วว่า ชายชราทั้งสามคนนี้เองก็อยากที่จะทดสอบศักยภาพของเขาด้วยทักษะทั้งหมดที่มีเช่นกัน

…..

เป่ยจ้าวหยวนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ทันใดนั้นก็มีชายในชุดสูทสีดำตรงเข้าพูดอะไรสักอย่างกับเขาก่อนจะเดินออกไป

เป่ยจ้าวหยวนได้ยินแบบนั้นก็ตรงเข้ามามากลางวงสนทนา พร้อมกับร้องถามออกไปว่า

“คุณปู่ครับ ทุกอย่างพร้อมแล้ว จะเริ่มกันเลยดีไหมครับ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน