ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 18

ตอนที่ 1 8 ใจแกร่งดั่งพยัคฆ์ ( 3 )

หลังจากที่ถูกโจรทั้งหกคนฉุดกระชากร่างให้เดินไปข้างหน้าไกลมากแล้ว แต่เวลานี้ ทุกคนก็ยังคงอยู่ห่างจากห้องเก็บของนั้นไปถึงสิบกว่าเมตร และในวินาทีที่ฉีเล่ยรับรู้ได้ว่า เฉินอวี้หลัวถูกขังไว้ในห้องนั้น เขาก็ได้แต่ขบฟันแน่น และพยายามกดข่มอารมณ์โกรธไว้ภายในใจ

หญิงสาวถูกมัดมือไพล่หลังติดกับขาโต๊ะตัวหนึ่ง และเวลานี้ร่างของเธอก็เปียกโชกไปตั้งแต่หัวจรดเท้า เห็นได้ชัดว่า เธอถูกพวกมันราดด้วยน้ำเย็น และไม่รู้ว่าถูกทรมานเช่นนี้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ..

อุณหภูมิภายในบริเวณแม่น้ำนี้ก็ลดต่ำลงในช่วงเวลากลางคืน อีกทั้งเรือลำนี้ก็มีรู และช่องลมอยู่เต็มไปหมด ไม่สามารถกำบังสายลมที่พัดเข้ามาได้เลย อุณหภูมิที่เย็น ประกอบกับสายลม และน้ำที่เปียกชะโลมทั่วร่าง มีหรือที่หญิงสาวจะสามารถทานทนได้ ?

หากไม่ใช่เพราะเวลานี้เขาถูกจับมัดมือไพล่หลังไว้แล้วล่ะก็ ฉีเล่ยคงต้องฆ่าคนพวกนี้ไปแล้วอย่างแน่นอน !

นี่เป็นครั้งแรกในตลอดหลายปี ที่ฉีเล่ยไม่เคยรู้สึกโกรธมากเช่นนี้มาก่อน แม้ว่าตลอดแปดปีที่ผ่านมา เขาจะอยู่อย่างไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกโกรธอย่างที่สุดเหมือนเช่นเวลานี้มาก่อนเลย

เมื่อทั้งหมดเดินขึ้นไปบนเรือ โจรคนหนึ่งก็ได้เดินนำหน้าไป พร้อมกับหยิบกุญแจออกมาเปิดประตูห้องเก็บของ ก่อนจะผลักร่างของฉีเล่ยเข้าไปด้านใน

จากนั้น คนที่เหลือก็ช่วยกันกดร่างของเขาไว้ ส่วนอีกคนก็ใช้เชือกสองสามเส้น จัดการมัดแขนของเขาไว้กับขาโต๊ะข้างๆเฉินอวี้หลัวทันที

เวลานี้ ริมฝีปากของหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำเพราะความเหน็บหนาว ร่างทั้งร่างของเธอสั่นสะท้านไม่หยุด และพยายามลืมตาขึ้นมองคนที่ถูกมัดอยู่ข้างๆ แต่เนื่องจากถุงดำที่คลุมหัวฉีเล่ยอยู่ ทำให้เฉินอวี้หลัวไม่รู้ว่านั่นคือสามีของเธอ หญิงสาวได้แต่คิดว่า นี่คงจะเป็นคนที่โชคร้ายอย่างเธออีกคน ที่ถูกโจรเรียกค่าไถ่จับตัวมา ..

เมื่อพวกโจรจัดการมัดฉีเล่ยไว้กับขาโต๊ะเรียบร้อยแล้ว พวกมันก็ดึงถุงดำที่คลุมศรีษะของเขาออกทันที เมื่อเฉินอวี้หลัวเห็นว่าเป็นฉีเล่ย ดวงตาทั้งสองข้างของหญิงสาวก็ถึงกับเบิกโพลง และจ้องมองร่างของชายหนุ่มตาไม่กระพริบ ..

“ฉีเล่ย ?!” หญิงสาวร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“ฉีเล่ย ! ทำไมนายถึงถูกพวกมันจับตัวมาที่นี่ได้ ?”

และทันทีที่คำพูดประโยคนี้หลุดออกจากปาก เฉินอวี้หลัวก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่า เธอน่าจะถูกพวกโจรใช้เป็นเหยื่อล่อ เพื่อให้ฉีเล่ยตกหลุมพราง และถูกจับตัวมาในที่สุด

และเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ได้เห็นว่าฉีเล่ยถูกจับตัวมา ร่างกายที่เคยบอบบางอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงของหญิงสาว ก็ไม่รู้ว่าไปเอาพลังมาจากไหน เธอร้องตะโกนเสียงดังใส่หน้าโจรเหล่านั้นทันที

“ปล่อยเขาไปเดี๋ยวนี้นะ ! ถ้าพวกแกอยากจะทำอะไร ก็มาลงกับฉันนี่ ! มาทำกับฉันสิ !

แปะ .. แปะ ..

“โอ้โห ! ช่างน่าประทับใจอะไรแบบนี้ ?”

แล้วจู่ๆ เสียงปรบมือพร้อมกับเสียงชื่นชม ก็ดังออกมาจากหน้าประตูห้องเก็บของ จากนั้นไม่กี่อึดใจ กลุ่มโจรลักพาตัวต่างก็พากันลุกขึ้นยืน และถอยห่างออกมาจากหญิงชายทั้งสองคน

เฉินอวี้หลัวที่ยังคงโมโหจนควันออกหูอยู่นั้น ได้แต่จ้องมองคนผู้หนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความตกตะลึง และไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีกแม้แต่คำเดียว !

นั่นเพราะหญิงสาวคิดไม่ถึงจริงๆว่า คนที่ลักพาตัวเธอมาเรียกค่าไถ่ในครั้งนี้ กลับเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอเอง เขาคือหลิวไห่หยาง !

นับตั้งแต่จับตัวเฉินอวี้หลัวถูกจับตัวมา หลิวไห่หยางก็ยังไม่เคยปรากฏตัวเลยสักครั้ง แต่เวลานี้ ทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มที่หลิวไห่หยางนับเป็นศัตรู ได้ถูกจับตัวมาพร้อมกันเช่นนี้ นับว่าการแก้แค้นของหลิวไห่หยางได้ประสบความสำเร็จ เขาจึงรู้สึกพออกพอใจเป็นอย่างมาก

ฉีเล่ยจ้องมองใบหน้าที่กระหยิ่มยิ้มย่องของหลิวไห่หยาง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฉันคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแก !”

หลิวไห่หยางยิ้มเย้ย พร้อมกับร้องถามขึ้นว่า “งั้นเหรอ ? แล้วยังไง ? แกจะทำอะไรฉันงั้นเหรอ ?”

หลังจากพูดจบ หลิวไห่หยางก็เอื้อมมือไปคว้ามีดที่อยู่ในมือของโจรคนหนึ่งมา แล้วค่อยๆก้าวเดินไปหาคนทั้งคู่ ในขณะเดียวกัน ก็ตวัดมีดสั้นในมือไปมา พร้อมกับจ้องมองเฉินอวี้หลัวด้วยสีหน้าแววตาดุดัน หญิงสาวเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับตัวสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง

หลิวไห่หยางร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น “พวกแกสองคนทำให้ฉันต้องสูญเสียหน้าที่การงาน และหมดสิ้นอนาคต ฉันก็จะทำให้พวกแกสองคน ต้องสูญเสียชีวิตที่เหลือต่อไปเหมือนกัน แบบนี้ยุติธรรมดีมั๊ยล่ะ ?”

จากนั้น หลิวไห่หยางก็ได้ย่อตัวลงพร้อมกับใช้ปลายมีดเชยคางของเฉินอวี้หลัวขึ้น พร้อมกับพูดต่อว่า “อวี้หลัว ขอผมคิดก่อนว่าจะทรมานคุณยังไงดี ?”

“อืมม .. ไม่รู้ว่าใบหน้าสวยๆนี้จะเป็นยังไงถ้าถูกจับแก้ผ้า ? ฮ่าๆๆ ไหนๆสามีของคุณก็อยู่ข้างๆแล้ว ผมว่าพวกเราสองคน .. มาทำอะไรสนุกๆต่อหน้ามันจะดีกว่า ! อีกอย่าง ผมเองก็ไม่ได้แตะต้องผู้หญิงมานานแล้ว คุณเองก็เป็นหมอ เป็นนางฟ้าชุดขาวไม่ใช่เหรอ ? ฮ่าๆๆๆ”

หลายครั้งที่เฉินอวี้หลัวพยายามเมินหน้านี้สายตาดุดันคลุ้มคลั่งของหลิวไห่หยาง แต่มันก็จะดันใบหน้าของหญิงสาวให้กลับมามองหน้ามันทุกครั้งไป

และเวลานี้ น้ำตาก็เริ่มไหลพรากอาบแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาว ..

เฉินอวี้หลัวทั้งหวาดกลัว และตื่นตระหนกตกใจอย่างที่สุด หากโจรถ่อยชั่วช้าพวกนี้ต้องการที่จะลวนลามเธอต่อหน้าฉีเล่ยผู้เป็นสามีแล้วล่ะก็ เธอยอมตายเสียจะดีกว่า ..

จากนั้น หลิวไห่หยางก็หันมองไปทางฉีเล่ย ก่อนจะพูดต่อว่า “แกคงจะยังไม่เคยเห็นเมียตัวเองมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตาสินะ ? แต่เดี๋ยวแกจะได้เห็นแน่ ! แกเห็นมั๊ยว่า พวกเรามีกันอยู่ตั้งหลายคน แต่ละคนก็ร่างกายกำยำแข็งแกร่ง ทั้งนั้น เดี๋ยวพวกฉันทั้งหมดจะผลัดกันนอนกับเมียแกจนตายไปข้างเลย ฮ่าๆๆๆ”

หลิวไห่หยางเงยหน้าขึ้นหัวเราะราวกับคนคลุ้มคลั่ง ก่อนจะหันไปพูดกับฉีเล่ยต่อว่า “อ่อ .. ฉันได้ยินมาว่าแกไม่ได้แจ้งตำรวจใช่มั๊ย ? ดี .. แกทำดีมาก ! นับว่าเป็นเด็กที่เชื่อฟัง และทำตามคำสั่งได้ดีมาก เอาล่ะ ฉันจะให้รางวัลกับแก ให้แกได้เลือกว่าจะตายแบบไหนดี ?”

หลิวไห่หยางทำสีหน้าท่าทางครุ่นคิด ก่อนจะพูดต่อด้วยสีหน้าแววตาโหดเหี้ยม “จับใส่กรงถ่วงน้ำเหมือนหมูดี .. หรือจะค่อยๆแล่เนื้อออกมาทีละชิ้นดีนะ .. มีอีกหลายวิธีที่ฉันจะเล่นสนุกกับแกก่อนตาย โดยที่ไม่ว่าแกจะกรีดร้องเสียงดังแ ค่ ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน !”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน