ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 213

สรุปบท ตอนที่213 ฉันยกโทษให้นาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน

สรุปเนื้อหา ตอนที่213 ฉันยกโทษให้นาย – ยอดคุณหมอสกุลเฉิน โดย Internet

บท ตอนที่213 ฉันยกโทษให้นาย ของ ยอดคุณหมอสกุลเฉิน ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่213 ฉันยกโทษให้นาย

หลังจากที่หลินชูวโม่จอดรถเรียบร้อยแล้ว เธอก็เปิดประตูเดินถือกระเป๋าลงจากรถ พร้อมกับมองนาฬิกาข้อมือพลางพูดขึ้นว่า

“นี่ก็จวนจะสิบโมงแล้ว เราต้องรีบเข้าไปรอต้อนรับก่อน จะปล่อยให้แขกรอไม่ได้”

ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินผลักประตูเข้าไป ทันใดนั้นก็มีรถสีดำสามคันขับตรงเข้ามาหาพวกเขา ตรงกลางเป็นรถRolls-Royceรุ่นปรับแต่งพิเศษ และมีรถ Mercedes-Benz สองคันขับประกบหน้าหลัง

ปัง.. ปัง…

ประตูรถ Mercedes-Benzสีดำที่ขับประกบหน้าหลังถูกเปิดออกอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นบอดี้การ์ดชุดดำกลุ่มหนึ่งก็รีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ในมือถือปืนพกชักกระสุนพร้อมเตรียมยิงได้ทุกเมื่อ ในไม่ช้าพวกเขาก็ตั้งขบวนขนาดย่อมราวกับรอรับกำลังรอรับเสด็จอะไรเทือกนั้น

ฉีเล่ยที่เห็นภาพอันแสนจะอลังการอยู่ตรงหน้า พร้อมกับเบะปากก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ต้องทำตัวเวอร์ขนาดนี้เชียวเหรอ?”

หลินชูวโม่ใช้ข้อศอกกระแทกเข้ากับร่างของฉีเล่ยพร้อมกับทำเสียงดุ

“ถ้าถึงขั้นขับรถRolls-Royce Phantom Shadowแบบสั่งทำพิเศษได้ นั่นแสดงว่าผู้หญิงคนนี้ต้องรวยมาก แต่อะไรที่มีค่าที่สุดสำหรับคนพวกนี้? ก็ชีวิตยังไงล่ะ! แล้วจะให้ไปเที่ยวเดินเล่นตัวคนเดียวแบบคนธรรมดาอย่างเราได้ยังไงล่ะ?”

ฉีเล่ยปรายตามองหลินชูวโม่แวบหนึ่ง สีหน้าท่าทางของเขาคล้ายว่าต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบไม่พูดอะไรทั้งนั้น

เมื่อกลุ่มบอดี้การณ์ที่ตั้งแถวอยู่ด้านนอกยืนในท่าเตรียมพร้อมหมดแล้ว ประตูรถ Rolls-Royceคันหรูก็เปิดออก

คนแรกที่ปรากฏตัวสู่สายตาผู้คนก็คือเฉิงเจียซิน เลขาคนสวยของชูซินซู เธอยังคงดูดีในชุดสูทสีดำเรียบ เสื้อเชิ้ตด้านในสีขาว พร้อมกับถุงน่องสีดำ วันนี้มาในแว่นทรงเหลี่ยมกรอบดำ พูดน้อยดูท่าทางสุขุม แต่ไม่ได้ถึงขั้นเมินเฉยต่อสิ่งใด แต่ดูเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความลึกลับน่าค้นหาอย่างบอกไม่ถูก

สิ่งแรกที่เตะตาที่สุดดูเหมือนจะเป็นรองเท้าหนังสีดำคู่หนึ่ง มีลวดลายสีทองสุกใสประดับอยู่ แม้จะดูไม่ค่อยโดดเด่นนัก แต่ใครเห็นเข้าต่างต้องทราบ ผู้ใดที่สามารถเป็นเจ้าของรองเท้าคู่นี้ได้ย่อมต้องเป็นคนมีฐานะ ส่วนท่อนร่างนั้นเป็นกางเกงเลกกิ้งสีดำ

และในเวลานั้นเอง บุคคลสำคัญของวันนี้ก็ปรากฏตัวออกมาเสียที

สิ่งแรกที่เผยปรากฏออกมาคือเรียวขายาวสีขาวสะพรั่ง ผิวเนียนละเอียดแนบกับถุงน่องตาข่าย เสริมด้วยรองเท้าส้นสูงสีดำยิ่งเพิ่มราศีจับให้กับท่อนขาเรียวงามนั้นเข้าไปใหญ่

หลังจากที่เท้าของเธอสัมผัสพื้นดิน ชูซินซูก็ค่อยๆก้าวเดินออกจากรถ เธอสวมใส่กระโปรงยาวถึงเข่าสีม่วง มาพร้อมเข็มขัดเรียบหรูคาดเอวให้ดูสวยงาม ยิ่งมองก็ยิ่งดูคล้ายกับเจ้าหญิงในดินแดนลึกลับสง่างามมากผู้หนึ่ง

ทันทีที่ปรากฏตัว รัศมีสง่างามเปี่ยมด้วยพลังก็ฉายออกมาให้เห็น และเมื่อได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาทันทีเมื่อปรากฏกายขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นเฉิงเจียซินที่ยืนอยู่เคียงข้าง หรือแม้แต่หลินชูวโม่และถงเซียวเซียว แม้พวกเธอทั้งสามจะนับว่าเป็นความงามจากหนึ่งในล้าน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนนี้แล้วล่ะก็ พวกเธอกลับถูกลดค่ากลายมาเป็นเพียงแค่ใบไม้แห้งตามข้างทางในทันที

สำหรับหญิงสาวคนนี้ เพียงแค่คำว่าสวยยังไม่เพียงพอ ต้องนับว่าเธอเป็นเจ้าหญิงสูงส่งที่เสด็จลงมาจากปราสาทหอคอยเลยก็ว่าได้

หญิงสาวคนไหนที่บังอาจเข้าไปอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเธอ จะต้องถูกรัศมีของเธอบดบังจนมืดมิด ทำให้ผู้อื่นที่มองมาเห็นหญิงสาวเหล่านั้นกลายเป็นสาวใช้ไปโดยปริยาย

หลินชูวโม่รีบดึงมือฉีเล่ยกับถงเซียวเซียวเดินตรงเข้าไปหาชูซินซูทันที หลินชูวโม่ยิ้มกว้างพร้อมกับพูดขึ้นอย่างมีมารยาท

“ยินดีต้อนรับกลับมาอีกครั้งค่ะคุณผู้หญิง!”

เนื่องจากชูซินซูไม่ได้แนะนำชื่อของตัวเองกับหลินชูวโม่เมื่อครั้งก่อน ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องเรียกขานชูซินซูว่า ‘คุณผู้หญิง’ แทนไปก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท

ผู้หญิงที่ฉลาดมักจะบริการทุกอย่างด้วยใจ

ชูซินซูพนักหน้าตอบพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“ขอบคุณ นี่ฉันทำให้ทุกคนต้องรอรึเปล่า?”

เมื่อเห็นหลินชูวโม่ยืนรออยู่หน้าประตูคลีนิคก่อนแล้ว ชูซินซูก็เข้าใจผิดคิดว่า อีกฝ่ายน่าจะมายืนรอต้อนรับตนเองอยู่นานแล้วนั่นเอง แต่เธอก็ไม่เปิดดอกาสให้หลินชูวโม่ได้เอ่ยปากตอบ สายตาคมกริบคู่นั้นพลันเปลี่ยนไปจับจ้องอยู่ที่ฉีเล่ยทันที

ชูซินซูกระซิบบอกฉีเล่ยเสียงเบา

“พูดอะไรหน่อยสิ?”

ฉีเล่ยปั้นยิ้มพร้อมกับเอ่ยปากพูดออกไปว่า

“ยินดีต้อนรับครับ”

“ไม่ต้องฝืนปั้นหน้าก็ได้นะ ฉันรู้ว่าคุณไม่พอใจฉันนัก มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆเลยจะดีกว่า?”

“ฮ่าฮ่า คุณเข้าใจผิดแล้วครับ ทำไมผมต้องไม่พอใจคุณด้วยล่ะ?”

เฉิงเจียซินเปิดสมุดบันทึกที่พกติดตัวมา ราวกับต้องการเปิดหาหลักฐานพิสูจน์ให้ฉีเล่ยได้เห็นว่า สิ่งที่เจ้านายสาวของเธอพูดไปนั้นเป็นความจริงทุกประการ

เธอไล่อ่านบันทึกการถูกลอบฆ่าอย่างละเอียดไล่ให้ฉีเล่ยฟังยาวว่า

’27 มีนาคม 2016 กลุ่มบอดี้การ์ดถูกมือปืนรับจ้างฆ่าตายสี่ศพ โชคดีที่ท่านประธานรอดชีวิตออกมาได้’

‘15ตุลาคม 2016 ถูกนักฆ่ารับจ้างกลุ่มหนึ่งปิดตึกจินเหมาในวันครบรอบสิบห้าปีเพื่อดักเก็บท่านประธาน’

’19 มีนาคม 2017 ท่านประธานถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ทราบชื่อลักพาตัวไป และขู่กรรโชกทรัพย์กว่าพันล้านหยวนกลางห้างปักกิ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับกรุงปักกิ่ง และกลายเป็นข่าวดังทั่วประเทศอยู่พักใหญ่’

’27 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน ระหว่างทางกลับบ้านได้ถูกรถตู้นับสิบคันกระหน่ำไล่ยิงระหว่างทางกลับ…’

ทั้งรายละเอียด วันเวลา สถานที่ และตัวบุคคลทั้งหมด ทุกอย่างได้ถูกบันทึกลงในตารางประวัติของชูซินซูจนแน่นเต็มทุกแผ่นกระดาษ

ฉีเล่ยกวาดสายตาอ่านตัวอักษรแต่ละบรรทัดด้วยสีหน้าตกใจและขนลุกไปทั่วทั้งตัว บางคดียังเกี่ยวข้องไปถึงการฆาตรกรรมนองเลือดที่ดูน่าสยดสยองอย่างมาก หลังจากที่อ่านจบ เขาก็ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวด้วยความรู้สึกเห็นใจ ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารอะไรขนาดนี้

เบื้องหลังความสวยและงี่เง่าของเธอ ใครจะไปคิดเล่าว่าจะเต็มไปด้วยภาพฉากนองเลือดมากมายขนาดนี้กัน?

ฉีเล่ยรีบเอ่ยปากขอโทษทันที

“ผมขอโทษครับที่สบประมาทคุณไปแบบนั้น”

ชูซินซูพยักหน้าตอบกลับไปว่า

“ไม่เป็นไร ฉันยกโทษให้ ถ้าเทียบกับสิ่งที่คุณเคยทำให้ฉันมาทั้งหมด เรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย”

“….”

หลินชูวโม่ดูประหลาดใจอย่างมาก เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้หลุดออกมาจากปากของชูซินซู

ถ้าเทียบกับสิ่งที่คุณเคยทำให้ฉันงั้นเหรอ?

หรือเป็นไปได้ไหมว่า…ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายคนนี้กับคุณหนูมหาเศรษฐีจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรที่มากกว่านั้น?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน