ตอนที่222 ขาดผู้ชาย
ถงเซียวเซียวอยู่ในชุดฮั่นโบราณสีแดงม่วงปักลายดอกโบตั๋นขนาดใหญ่ ผมยาวที่ปล่อยสยายก่อนหน้านี้ถูกเกล้าเป็นมวยไว้กลางศรีษะ ซึ่งมีปิ่นและมงกุฏหงส์ประดับไว้อย่างงดงงาม
สวย สูง ขายาว ท่วงท่าสง่าม ดูอย่างกับราชินี!
ทางด้านจางเหวินไคก็ร้องตะโกนดุผู้ช่วยของเขาสองสามคนที่กำลังทำงานง่วนอยู่รอบตัว เห็นได้ชัดว่า เขากำลังระบายอารมณ์ขุ่นเคืองคับข้องใจทั้งหมดที่รับมาจากฉีเล่ย มาลงกับลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเอง
หลังจากจัดเตรียมเซ็ทฉากสำหรับถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จางเหวินไคก็หันไปบอกกับถงเซียวเซียวว่า “คุณถง พวกเราเริ่มงานกันได้แล้วล่ะ”
“ค่ะ! ฉันไปทำงานก่อนนะ”
ถงเซียวเซียวโบกมือให้กับฉีเล่ยและหลินชูวโม่ ก่อนจะเดินเข้าไปยืนอยู่หน้ากล้อง ในฐานะนักแสดง ภายในหนึ่งคนจะต้องแสดงได้ทั้งเป็นคนและเป็นผี
เมื่อก้าวไปยืนอยู่หน้ากล้องแล้ว ถงเซียวเซียวก็เปลี่ยนเป็นนางแบบมืออาชีพขึ้นมาทันที สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นจริงจัง และมุ่งมั่นอยู่กับการโพสท่าตามคำสั่งแลคำแนะนำของช่างภาพอย่าง
“นั่นล่ะๆ ดี.. คราวนี้นั่งลงครับ ใช่ๆ มองตรงมาทางนี้ เชิดหน้ามองไปที่กระจกทองแดงตรงหน้า… โอเคๆ ทำสีหน้าให้ได้ความรู้สึกของชนชั้นขุนนางในสมัยนั้นหน่อย…”
จางเหวินไคที่อยู่ด้านหลังร้องตะโกนสั่งถงเซียวเซียวไม่หยุด
ถงเซียวเซียวเองโพสท่าตามคำสั่งนั้นอย่างว่าง่าย และเป็นที่พอใจของจางเหวินไค นิ้วมือของเขายังคงกดปุ่มชัตเตอร์รัวไม่หยุด
“เป็นดารานางแบบนี่ไม่ใช่ง่ายๆเหมือนกันนะครับ” ฉีเล่ยพึมพำออกมายิ้มๆ
“ใช่! พวกดารานางแบบส่วนใหญ่ต้องทำงานหนักกันทั้งนั้นแหละ แถมยังต้องเป็นที่รองรับอารมณ์ของผู้คนด้วย ใครจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ได้”
หลินชูวโม่พยักหน้าอย่างเห็นด้วยพร้อมกับแสดงความเห็น จากนั้น เธอก็ยกมือขึ้นชี้ไปทางจางเหวินไคที่กำลังกดชัตเตอร์ไม่หยุด ปากก็เอ่ยถามฉีเล่ยว่า
“นี่เป็นสิ่งที่นายต้องการใช่มั๊ย?”
“ก็ไม่เลว” ฉีเล่ยเอ่ยตอบ และพูดต่อทันที “แต่ผมยังรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป”
หลินชูวโม่ทำสีหน้าประหลาดใจ “เฮ้อ ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่านายจะเป็นคนจุกจิกจู้จี้ขนาดนี้ นี่ถ้าฉันรู้แบบนี้ฉันจะไม่พานายมาด้วยแน่ๆ แล้วนี่ยังอยากได้อะไรอีกล่ะห๊ะ? จะได้ให้เขาจัดการเปลี่ยนใหม่ให้ถูกใจ”
“ผมแค่รู้สึกว่ามันยังขาดอะไรบางอย่างไป แต่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ขาดนั้นคืออะไรเหมือนกัน”
ฉีเล่ยร้องตอบพร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิด ความคิดบางอย่างพลันแวบเข้ามาในหัวของเขา แต่แล้วก็จางหายไปอย่างรวดเร็วจนแม้แต่ตัวเองก็ตามไม่ทันเช่นกัน
“คิดออกยังว่าอะไรที่ขาดหายไป?” หลินชูวโม่ร้องถาม
“ยังไม่ออกเลย” ฉีเล่ยร้องตอบพร้อมกับส่ายหัว
หลินชูวโม่ยกมือขึ้นหยิกเนื้อฉีเล่ยพร้อมกับทำเสียงดุ “นี่! ต่อให้นายจะไม่ชอบขี้หน้าตากล้องคนนี้นัก แต่ก็ห้ามไปแกล้งเขาแบบนั้นรู้ไหม? อุบาทว์! พูดออกมาได้ว่ามีบางอย่างขาดหายไป แต่พอถามก็บอกไม่รู้ ดีนะที่เมื่อครู่ฉันไม่ได้ร้องตะโกนเรียกให้เขาหยุดการถ่ายทำไปก่อน!”
ฉีเล่ยหน้าส่ายหน้าไปมา เขาไม่ได้อยากจะแกล้งช่างภาพคนนี้สักหน่อย เขาแค่ต้องการตามหา…ความสวยงามและความกลมกลืน
เขาคิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนเขาจะพลาดอะไรบางอย่างไป…
ความคิดนั่นก็แล่นเข้ามาเพียงแค่ชั่ววูบ แล้วก็อันตรธานหายไปในทันที
แต่แล้ว เสียงฝีเท้าของผู้คนกลุ่มใหญ่ก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก ตามมาด้วยเสียงพูดคุยกันของกลุ่มชายหญิง
หญิงสาวคนหนึ่งเดินถือธงนำกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามา เหล่านักท่องเที่ยวต่างพากันยกโทรศัพท์มือถือในมือขึ้นถ่ายรูปกันด้วยความตื่นเต้นตามุมต่างๆของตำหนัก
ประตูหลักถูกปิดไว้เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามารบกวนการถ่ายทำ มิหนำซ้ำยังมีผู้ช่วยช่างภาพที่คอยยืนเฝ้าประตูด้านนอกไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ใครหลงเข้ามารบกวนการถ่ายทำได้
แต่ถึงอย่างนั้น นักท่องเที่ยวด้านนอกก็สามารถมองผ่านหน้าต่างเข้ามาได้ และสามารถมองเห็นว่าภายในห้องกำลังทำอะไรกันอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน