ตอนที่258 ตามหาอาจารย์
หนอนกู่ที่อี้ชาและซิ่วเอ๋อเลี้ยงอยู่เป็นจำนวนมากนั้น เวลานี้เพียงแค่รอคอยให้พวกมันเจริญเติบโตเต็มที่ จากนั้น พวกมันก็จะถูกนำไปปล่อยไว้ตามที่ต่างๆทั่วเมืองเจียงหลิง
และเมื่อถึงเวลานั้น เมืองเจียงหลิงทั้งเมืองก็จะต้องตกอยู่ในหายนะอย่างแน่นอน
“หลังจากที่แผนการของเราสำเร็จเมื่อไหร่ พวกเราก็จะได้เห็นว่าไอ้พวกหมอจีนเฒ่านั่นจะทำยังไง?”
ซิ่วเอ๋อพึมพำออกมาด้วยสีหน้าสะใจ ก่อนจะหันไปถามอี้ชาต่อทันที
“แล้วตอนนี้สถานการณ์ในบ้านหลังนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“ทุกอย่างเป็นปกติดี ฉีเล่ยเองก็ไม่ได้ไปปรากฏตัวที่นั่นอีกเลย ฉันได้จัดเตรียมกองกำลังไว้ทั้งหมดสองชุด ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นจริงๆ ชุดหนึ่งจะมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ส่วนอีกชุดจะมีหน้าที่นำหนอนกู่ที่เลี้ยงไว้หลบหนีออกมาในทันที”
อี้ชารีบตอบกลับโดยเร็ว
“อืมม ดีมาก!”
สถานการณ์ในเวลานี้ดูเหมือนจะเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ
……..
ช่วงนี้เป่ยฉวนเทียนเองก็เดินทางไปที่โน่นที่นี่อยู่ตลอด จึงไม่ค่อยได้อยู่บ้านนัก หลังจากที่ได้พูดคุยกับหลายๆฝ่ายผ่านทางโทรศัพท์ ฉีเล่ยจึงได้รู้ว่า เวลานี้อาจารย์ของเขาได้เดินทางไปยังเมืองๆหนึ่งซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้
ฉีเล่ยได้แต่หัวเราะขื่น…
หากจะเดินทางจากเจียงหลิงไปยังเมืองๆนั้น จะต้องใช้เวลาที่นานกว่ากลับปักกิ่ง ฉีเล่ยได้แต่แอบประเมินสถานการณ์ของหนอนกู่ที่พบก่อนหน้านี้อยู่ตามลำพัง
แต่หลังจากใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ฉีเล่ยก็พบว่าตนเองไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้ อีกอย่าง อาจารย์ของเขาก็ไม่เคยพกโทรศัพท์มือถือติดตัวไปไหนต่อไหนด้วยเลย เป่ยฉวนเทียนเคยบอกไว้ว่า การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆบนโลกใบนี้ หากพกโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วย จะเป็นการขัดต่อจุดประสงค์ดั้งเดิมของเขา
ในที่สุด ฉีเล่ยก็ได้แต่ต้องจองไฟลท์ที่จะบินตรงจากเจียงหลิงไปยังเมืองหยูหนาน ซึ่งอยูทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศแทน
ภูมิอากาศของเมืองหยูหนานนั้นแตกต่างจากภูมิอากาศในเมืองเจียงหลิงโดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้ ทันทีที่ฉีเล่ยซึ่งสวมเสื้อผ้าให้เข้ากับอากาศในเจียงหลิงก้าวลงเหยียบพื้นดินเมืองหยูหนาน เขากก็ถึงกับสั่นสะท้านขึ้นมาทันที
เป็นเพราะต้องออกเดินทางอย่างเร่งรีบ ฉีเล่ยจึงไม่ได้นำอะไรติดตัวมาด้วยมากนัก เขาทำได้เพียงแค่ยัดสมุนไพรชนิดหนึ่งที่นำติดตัวมาด้วยเข้าปากเคี้ยว เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้อบอุ่น
แม้ว่าภายในร่างของฉีเล่ยจะมีพลังหยางบริสุทธิ์ แต่ในสถานที่แห่งนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
จากคำบอกเล่าของคนรอบข้าง ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเขาจะเข้าไปในป่าลึกแห่งหนึ่งที่อยู่บนเขาในเมืองหยูหนาน และสิ่งแรกที่ฉีเล่ยทำทันทีที่ก้าวเท้าลงจากเครื่องบินก็คือ รีบหารถเดินทางไปยังเขาหงหยาซานทันที
เขาหงหยาซานลูกนี้นับเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเมืองหยูหนาน และนับเป็นภูเขาที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งของดินแดนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้
มีตำนานเล่าขานกันว่า บนยอดเขาหงหยาซานแห่งนี้มีอสูรศักดิ์สิทธิ์โบราณตนหนึ่งอาศัยอยู่ จึงทำให้ขุนเขาแห่งนี้ปกคลุมไปด้วยปราณเซียน และทำให้มีสมุนไพรจีนล้ำค่ามากมายปรากฏขึ้นอยู่ทั่วทั้งขุนเขา
แต่แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าในตำนานเท่านั้น อีกอย่าง อสูรศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่น ก็เป็นเพียงแค่นิยายปรัมปราของคนในยุคนี้เท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องสมุนไพรจีนล้ำค่านั้นกลับเป็นความจริง และสาเหตุที่ทำให้เป่ยฉวนเทียนต้องเดินทางมายังขุนเขาแห่งนี้ด้วยตนเอง ก็น่าจะมีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นก็คือ เขามาที่นี่เพื่อค้นหาสมุนไพรล้ำค่าบางชนิด
แต่ท่ามกลางภูเขาลูกใหญ่ขนาดนี้ ฉีเล่ยจะสามารถค้นหาเป่ยฉวนเทียนเจอได้อย่างไรกัน?
นี่นับเป็นคำถามที่น่าปวดหัวอย่างมาก
ฉีเล่ยเดินเข้าไปหาชาวบ้านในระแวกนั้น จากนั้นจึงได้ทำการสอบถามพวกเขาเกี่ยวกับบริเวณที่มีสมุนไพรอยู่มากที่สุดบนเขาหงหยาซาน
เดิมที ฉีเล่ยตั้งใจไว้ว่าจะใช้วิธีนี้ตามหาอาจารย์ของตนเอง เขาคาดว่าเป่ยฉวนเทียนน่าจะอยู่ในบริวเณที่มีสมุนไพรอยู่มากที่สุดอย่างแน่นอน แต่กลับคิดไม่ถึงว่า คำตอบที่เขาได้รับกลับเป็นเสียงหัวเราะขบขันจากทุกคน
“ฮ่าๆๆ นี่คุณตั้งใจจะมาหาสมุนไพรงั้นเหรอ? บนเขาหงหยาซานแห่งนี้ ไม่ว่าที่ไหนๆก็มีสมุนไพรอยู่เต็มไปหมดทั้งนั้นล่ะ อยู่ที่ว่าคุณจะมีปัญญาเก็บพวกมันกลับไปได้รึเปล่า?”
และแน่นอนว่า คำตอบของชาวบ้านเหล่านั้นได้ทำให้ฉีเล่ยรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก ในเมื่อทั้งเขามีสมุนไพรอยู่เต็มไปหมด เขาไม่ต้องตามหาเป่ยฉวนเทียนทั้งเขาเลยหรือยังไง? แต่ฉีเล่ยก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องรีบค้นหาอาจารย์ให้พบ
ฉีเล่ยเริ่มค้นหาไปตั้งแต่ตีนเขา แล้วจึงค่อยๆย้ายไปค้นทางด้านตะวันตก เพราะเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุดสำหรับมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องการจะเดินขึ้นเขา อีกทั้งยังดูเหมือนว่าจะเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้กันอยู่เป็นประจำอีกด้วย
แม้ว่าร่างกายของเป่ยฉวนเทียนจะยังคงแข็งแรงและสุขภาพสมบูรณ์อยู่ แต่เขาก็จัดว่าชราภาพมากแล้ว จึงไม่น่าจะค้นหาเส้นทางขึ้นเขาใหม่ด้วยตัวเอง และหากฉีเล่ยค่อยๆเดินไปตามเส้นทางนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีโอกาสเจอเป่ยฉวนเทียนก็เป็นได้
อาจารย์ของเขาเพิ่งจะมาถึงเมื่อวานนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะยังขึ้นเขาไปได้ไม่ไกลนัก หรือไม่แน่ว่าอาจจะขึ้นไปเพียงแค่ครึ่งทางไม่ถึงยอดก็เป็นได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน