ตอนที่ 28 กระตุ้นคนไข้ให้ร่วมมือ
ทีมแพทย์เฉพาะทางที่อยู่ในห้องผู้ป่วยด้วย ต่างก็หันไปมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง!
หลังจากที่ต้องนอนปวย และต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการท้องร่วง อยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานานเข้า อารมณ์ของหลิวเฟิงเฉินก็ยิ่งแปรปรวนขึ้นมาก เธอสามารถหงุดหงิดแล้วก็โกรธได้ทุกเมื่อ จนกระทั่งก่อนหน้านี้ ทีมแพทย์ที่เข้ามาตรวจ จะต้องระมัดระวังตัวกันอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าเธอจะระเบิดอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมาเมื่อไหร่?
แต่ตอนนี้ เธอกลับมีสีหน้าสดใส และพูดจาออกมาอย่างอารมณ์ดี!
เป็นไปได้หรือ ที่อาการท้องร่วงถ่ายไม่หยุดมานานกว่าครึ่งเดือนนั้น กลับหายเป็นปลิดทิ้งด้วยฝีมือของแพทย์ฝึกหัดหนุ่มคนนี้?
นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจนเกินไป!
อารมณ์ความรู้สึกของหลิวเฟิงเฉินเวลานี้ เกินกว่าคําว่าอารมณ์ดี” ไปมากนัก!
หากใครสักคนลองมานอนอยู่โรงพยาบาลสักครึ่งเดือนแล้วก็มีอาการท้องร่วงถ่ายไม่หยุดนานๆเช่นนี้อย่างหลิวเฟิงเจิ้น และที่สําคัญ ไม่มีแพทย์คนไหนสามารถรักษาให้หายได้ ย่อมจะสามารถเข้าใจความทุกข์สาหัสในใจของเธอได้เป็นอย่างดี
แต่เวลานี้ นายแพทย์หนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วกดเบาๆไม่กี่ครั้ง กลับทําให้หลิวเฟิงเจิ้นสัมผัสได้ถึงกระแสไออุ่น ที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งบริเวณท้องน้อยของเธอ
หลังจากได้เห็นสีหน้า และได้ยินน้ําเสียงตื่นเต้นดีใจของหลิวเฟิงเจิ้น ฉีเล่ยก็เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันไปกวักมือเรียกคุณหมอวัยกลางคนที่ชื่อจางผู้
“คุณหมอฝูครับ รบกวนมาช่วยผมที่! คุณไปยืนด้านขวามือของคนไข้ แล้วช่วยกดจุดแบบเดียวกับที่ผมทําเมื่อครู่”
จางผู้ยืนลังเลครู่หนึ่ง แต่แล้วก็รวบรวมความกล้า สงบสติอารมณ์ไม่ให้ตื่นเต้น ก่อนจะเดินไปยืนข้างขวามือของหลิวเฟิงเจิ้นพร้อมกับจับมือขวาของคนไข้ไว้
เวลานี้ แพทย์คนอื่นๆในห้อง ต่างก็หันไปมองจางฝูด้วยสีหน้าแววตาอิจฉาริษยาและได้แต่คิดในใจว่า
ทําไมโอกาสดีๆแบบนี้ ถึงได้ตกไปเป็นของเขาได้?
และทําไมจางผู้ต้องเป็นคนที่รู้จักกับหมอฝึกหัดที่เก่งกาจคนนี้ด้วย?
ฉีเลยไม่สนใจสายตา และความคิดของแพทย์คนอื่นๆ เขาก้มหน้าก้มตากดจุดตั้งแต่ปลายนิ้ว ไล่ไปจนถึงท่อนแขนของคนไข้แบบเดิม และทําซ้ําๆเช่นนั้นอีกสองสามครั้ง โดยมีจางทําหน้าที่กดตามอยู่ทางด้านขวามือ
นี่คือการกดจุดเพื่อช่วยลดความเจ็บปวดให้กับคนไข้และเป็นเพียงขั้นตอนแรกของการรักษาเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าคนไข้มีสีหน้าดีขึ้น อาการเจ็บปวดลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ฉีเล่ยจึงหยุดการกดจุดไว้เพียงเท่านั้น และเริ่มสอบถามหลิวเฟิงเจิ้นต่อ
“เมื่อครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ คุณรู้สึกหนาวคล้ายคนเป็นไข้หวัดใช่มั้ยครับ? ในตอนนั้น แม้จะรู้สึกหนาวเย็น แต่กลับมีเหงอออกตามตัว ปวดศรีษะ แล้วก็เจ็บคอ แต่กลับไม่มีไข้ใช่มั้ยครับ?”
“ตลกสิ้นดี!” จ้าวโจวเฉินได้แต่แอบเย้ยหยันอยู่ในใจ
“แค่แตะข้อมือคนไข้ ก็ถึงกับบรรยายอาการออกมาได้เป็นวรรคเป็นเวร!”
จ้าวโจวเฉินเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน และไม่เคยเชื่อถือการแพทย์แผนจีนเลยแม้แต่น้อย สําหรับเขาการแพทย์แผนจีนเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระหลอกลวงและด้วยความเชื่อนี้ทําให้โรงพยาบาลทหารแห่งนี้มีแพทย์แผนจีนเหลืออยู่เพียงแค่ห้าคนเท่านั้น
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า หลิวเฟิงเจิ้นจะร้องอุทานว่า”ห้ะ?!”ออกมาด้วยความตกใจ และเวลานี้ สีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ใบหน้าของจ้าวโจวเฉินเองก็ถบกับเปลี่ยนไปทันทีเช่นกันเมื่อหันไปเห็นสีหน้าท่าทางของหลิวเฟิงเจิ้น เขารู้ได้ทันทีว่าข้อสันนิษฐานของแพทย์ฝึกหัดหนุ่มนั้นคงจะถูกต้อง!
แล้วก็เป็นดังเช่นที่ฉีเลยบรรยายออกมาจริงๆ!
เมื่อครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ในระหว่างที่ออกไปตรวจงานนั้นหลิวเฟิงเจิ้นเริ่มรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว และอาการของเธอในตอนนั้น ก็ตรงกับที่นี่เลยพูดมาทั้งหมด
แต่เป็นเพราะไม่มีไข้ เธอจึงคิดว่าไม่ได้ไปหาหมอรักษาเพียงแค่กินยาแก้ปวด หลังจากนั้นอาการทั้งหมดก็หายไปเธอจึงไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้กับใครฟัง แม้แต่ไต่คุนผู้เป็นสามีก็ไม่รู้
“คุณหมอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอาการปวยครั้งนั้นของฉันเหรอ?
หลิวเฟิงเจิ้นอดที่จะถามออกไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้เธอยังมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อนายแพทย์หนุ่มคนนี้นัก อีกทั้งยังไม่ค่อยเชื่อถืออีกด้วย แต่ตอนนี้ เธอกลับเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่าเขาจะสามารถรักษาอาการป่วยของเธอให้หายได้อย่างแน่นอน
นี่เลยจึงได้อธิบายให้ฟังว่า “โรคของคุณมีต้นเหตุมาจากหานเสีย ซึ่งเป็นปัจจัยก่อโรคที่เกิดจากความเย็น และหานเสียนี้ก็ได้ทําลายสมดุลของหยินและหยางในร่างกาย หากผมคาดการไม่ผิดช่วงนั้นคุณน่าจะตากลมเย็นมากจนเกินไป!”
หลิวเฟิงเจิ้นได้แต่พยักหน้า และคิดว่าช่วงนั้นเธอเองออกไปตรวจงานข้างนอกบ่อยๆ ทําให้ต้องปะทะกับสายลมเย็นหลายต่อหลายครั้ง
ฉีเลยยังคงอธิบายต่อ “อาการเริ่มต้นของหยินหยางไม่สมดุลนั้น จะแสดงออกมาคล้ายกับคนเป็นหวัดแต่ไม่มีไข้นั่นเพราะพลังเย็นจะไปอยู่ด้านนอก ในขณะที่พลังร้อนถูกกักไว้ภายในระหว่างนั้น พิษของพลังร้อนจะเข้าแทรกแซงการทํางานของลําไส้ทําให้ลําไส้ไม่มีกําลัง ผลก็คือ คนไข้จะมีอาการอุจจาระแข็งถ่ายไม่ออก”
“ห้ะ?!”
หลิวเฟิงเจิ้นถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความประหลาดใจ แต่เป็นเพราะนึกเสียใจที่ไม่เล่าเรื่องไข้หวัดให้ทีมแพทย์ฟังตั้งแต่แรก!
แต่แรก!
หลิวเฟิงเจิ้นคิดไม่ถึงว่า แค่มีอาการหนาวเย็นแต่ไม่มีไข้จะทําให้เกิดอาการท้องผูกได้ ไม่อย่างนั้น เธอคงจะบอกเล่าอาการก่อนหน้านี้ให้กับหมอฟังอย่างแน่นอน แล้วเธอก็คงจะไม่ต้องมาทุกข์ทรมานอยู่นานกว่าครึ่งเดือนแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน