ตอนที่305 ดักรอ
เวลานี้ ฮัวโหล่วไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าอาการของฉีเล่ยเลย
เดิมทีฉีเล่ยเองก็คิดว่าตนเองกำลังจะตาย แต่แล้วจู่ๆ พลังที่แข็งแกร่งก็ปะทุขึ้นภายในร่างกาย และสามารถลุกขึ้นมาจัดการกับกลุ่มชายชั่วร้ายตรงหน้าได้อย่างน่าอัศจรรย์
ฮัวโหล่วที่เห็นฉีเล่ยต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ก็ได้แต่รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
“ผมไม่เป็นอะไร”
ฉีเล่ยกระพริบตาถี่ และหลังจากนิ่งพักไปครู่หนึ่ง เขาก็รู้สึกว่า เปลือกตาของตนเองนั้นเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแทบจะไม่สามารถลืมตาขึ้นได้อีก
ราวกับว่ามีแรงกดดันอันมาหาศาลบีบให้ฉีเล่ยต้องหลับตาลง หูก็แว่วได้ยินเสียงของใครบางคนกำลังร้องเรียกไม่หยุด
“มานี่ มาทางนี้ มาทางนี้…”
ฉีเล่ยหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว แต่แล้วจู่ๆเมื่อรู้ตัว เขาก็สะดุ้งและฝืนเปิดเปลือกตาขึ้นได้อีกครั้ง
บางที หากเขาหลับตาลงในตอนนี้ เขาอาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกตลอดชีวิตเลยก็เป็นได้
ฉีเล่ยไมรู้ว่าเสียงที่กำลังร้องตะโกนเรียกเขาอยู่นั้นเป็นเสียงของใคร? แต่เขาเข้าใจว่า มันน่าจะเป็นเสียงเพรียกหาจากขุมนรก!
“รีบไปกันเถอะ! ไม่เป็นไร ผมยังพอทนได้!”
เวลานี้ พลังหยินและหยางในร่างกายของเขาค่อยๆฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างช้าๆ ในขณะที่หลิงตันซึ่งทำให้ฉีเล่ยมีพลังขึ้นอย่างมหาศาลเมื่อครู่นั้น ก็ค่อยๆอ่อนกำลังลงกว่าเดิมมาก
หากพลังหยินและหยางฟื้นคืนกลับมาเมื่อไหร่ อย่างน้อยที่สุด มันก็จะทำให้ฉีเล่ยสามารถเอาตัวรอดจากอันตราย ที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกผู้อื่นโจมตีได้
“รีบไปจากที่นี่กันดีกว่า!”
ฉีเล่ยไม่กล้าแม้แต่จะชะลอฝีเท้า เขาปล่อยให้เจ้าลิงน้อยนอนเกาะอยู่บนไหล่ของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่ยังพอมีเหลืออยู่ในตอนนี้ คว้าร่างของฮวาโหล่ววิ่งลงเขาไปอย่างรวดเร็ว
ตราบใดที่เขาสามารถลงไปถึงตีนเขาได้ ทุกอย่างก็จะกลับสู่ความปลอดภัย
แต่สภาพตอนนี้ต่างหากที่นับเป็นความยากลำบากอย่างที่สุด!
หลังจากวิ่งลงไปได้ครู่หนึ่งแล้ว ฉีเล่ยก็หมดแรงจนไม่สามารถวิ่งต่อไปได้อีก แต่เมื่อเห็นว่า ตนเองได้วิ่งลงมาจากยอดเขาไกลมากแล้ว และอีกไม่นานนักก็จะถึงตีนเขา ฉีเล่ยที่รู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก จึงได้หยุดวิ่ง และเริ่มหายใจเหนื่อยหอบ
เขาวางร่างของฮวาโหล่วลง ส่วนตัวเองก็ไปหาหินก้อนใหญ่นั่งพักเอาแรง
ฉีเล่ยถอนหายใจยาวขณะจ้องมองเสื้อผาที่ฉีกขาดของฮวาโหล่ว ก่อนจะถอดเสื้อแจ็คเก็ตของตนเองออกมาห่มให้เธออย่างอ่อนโยน
“นี่ก็เริ่มมืดแล้ว อากาศบนนี้ค่อนข้างเย็น คุณสวมเสื้อของผมไว้ก่อน จะได้ไม่หนาวมาก”
ฉีเล่ยเอ่ยบอกยิ้มๆ ในขณะที่สายลมบางเบาพัดโชยมา ทำให้ทั้งคู่ถึงกับสั่นสะท้านไปด้วยความหนาวเย็นพร้อมๆกัน
“แล้วคุณจะไม่หนาวเหรอ?”
ฮวาโหล่วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และเริ่มเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกฉีเล่ยหลังจากที่ได้ล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของเขา และไม่รู้ว่า ชายหนุ่มที่ดูไม่เอาไหนในตอนแรกคนนี้ ได้ค่อยๆคืบคลานเข้าไปอยู่ในใจของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
‘ตอนที่อยู่ด้วยกันด้านล่าง หรือเพิ่งจะรู้สึกเมื่อก่อนหน้านี้กันนะ?’
ในระหว่างที่ฮวาโหล่วกำลังจมอยู่ในห้วงภวังค์ความคิดนั้น ฉีเล่ยเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นั่งเหม่อ จึงได้ร้องตะโกนถามออกไปว่า
“นี่! ถ้าหายเหนื่อยแล้วก็ออกเดินต่อได้แล้ว หรือคุณอยากจะนั่งฝันกลางวันอยู่แบบนี้?”
อารมณ์สวยงามของฮวาโหล่วพลันถูกคำพูดของฉีเล่ยทำให้พังทลายลงในพริบตา เธอจึงได้แต่ร้องตะโกนตอบกลับไปด้วยความโมโห
“ไปก็ได้ เจ้างั่ง!”
ทักษะทางการแพทย์นั้นเป็นจุดเด่นของฉีเล่ยก็จริง แต่เรื่องอ่านจิตใจของผู้หญิงนั้น นับเป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆสำหรับเขา
ฉีเล่ยที่เห็นฮวาโหล่วจู่ๆก็ลุกขึ้นเดินผลุนผันออกไปแบบนั้น ก็ได้แต่ยืนงุนงงพร้อมกับถอนหายใจออมาอย่างไม่เข้าใจ
หลังจากได้พักผ่อนอยู่ราวครึ่งชั่วโมง ฉีเล่ยก็เริ่มหายเหนื่อย พลังหยินและหยางในร่างก็ฟื้นกลับคืนมาได้ค่อนข้างมาก และเวลานี้เขาก็พร้อมที่จะออกเดินทางต่อแล้ว
ส่วนเจ้าลิงน้อยก็ยังคงนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่ไหล่ของเขาเช่นเดิม ราวกับไม่สนใจว่าเขาจะไปไหน หรือทำอะไรต่อไป?
ฉีเล่ยเห็นว่าฮวาโหล่วเองก็ดูดีขึ้นมากแล้ว จึงได้เตรียมตัวที่จะแบกเธอกับเจ้าลิงน้อยลงเขาต่อไป
“ไม่ต้อง! ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องให้คุณแบก”
ฮวาโหล่วยกมือขึ้นผลักฉีเล่ย และเตรียมตัวที่จะเดินลงเขาด้วยตัวเอง
ฉีเล่ยยืนมองหญิงสาวที่เดินกระเผลกไปได้ไม่กี่ก้าว ในที่สุด หญิงสาวก็หันมาบอกกับฉีเล่ยด้วยใบหน้าบึ้งตึงว่า
“ยังจะยืนเฉยอยู่ทำไมอีกล่ะ? ไม่เห็นรึไงว่าขาฉันเจ็บ ยังไม่มาแบกฉันอีกเหรอ?”
น้ำเสียงและท่าทางของฮวาโหล่วในตอนนี้ กระทั่งสาวๆรอบตัวเขาอย่างถงเซียวเซียวกับหลินชูวโม่ ยังไม่มีใครกล้าทำกิริยาแบบนี้เลย
ฉีเล่ยเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี
ฮวาโหล่วไม่ใช่หญิงสาวหน้าโง่ แม้เบื้องหน้าจะทำสีหน้าบูดบึ้งเหมือนไม่พอใจ แต่ริมฝีปากกลับแอบเผยอยิ้มออกมา
และในที่สุดทั้งคู่ก็เดินลงมาถึงตีนเขาได้อย่างปลอดภัย
ทั้งเขาและเธอต่างก็ไม่มีใครคาดคิดว่า การเดินทางครั้งนี้จะต้องพบเจอกับความยากลำบาก และเรื่องท้าทายแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เดินกลับลงเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน