ยอดคุณหมอสกุลเฉิน ยอดคุณหมอสกุลเฉิน – ตอนที่ 31 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
ตอนที่ 31 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
เมื่อคืนนี้ แม้แต่จางฝูยังข่มตาหลับลงได้อย่างยากเย็นแล้วมีหรือที่จ้าวโจวเฉินจะสามารถนอนหลับได้อย่างเป็นปกติสุข?
เขาเฝ้าครุ่นคิดหาหนทางอยู่ตลอดทั้งคืนว่า จะทําอย่างไรจึงจะสามารถเรียกความรู้สึกประทับใจ และความรู้สึกดีๆ จากหลิวเฟิงเจิ้นที่เคยมีต่อตนเองกลับมาได้?
เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่า จะสามารถแก้ไขสิ่งที่ทําลงไปเมื่อวานได้อย่างไร? จ้าวโจวเฉินเพิ่งจะตระหนักว่า ทั้งคําพูด และการกระทําของตนเองเมื่อวานนี้ ได้ทําลายความน่าเชื่อถือที่หลิวเฟิงเจิ้นเคยมีให้จนหมดสิ้น เวลานี้ ต่อให้เขาไปกระโดดแม่น้ําฮวงเหอ ก็คงไม่อาจล้างความผิดที่ทําลงไปได้
หลังจากครุ่นคิดอยู่ตลอดทั้งคืน จ้าวโจวเฉินก็ไม่เห็นใครที่จะช่วยเขาได้ในเรื่องนี้ นอกจากฉีเลย!
แต่ถึงอย่างไรฉีเล่ยก็เป็นเพียงแค่แพทย์ฝึกหัด ซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ไปนานแค่ไหน? อีกอย่าง เขาเองก็ไม่ได้รู้จักเลยเป็นการส่วนตัว และด้วยเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ชายหนุ่มอาจจะไม่ต้องการพูดคุยกับเขาก็เป็นได้
และในที่สุด จ้าวโจวเฉินก็นึกถึงจางฟูขึ้นมาได้
จางผู้เป็นคนบอกเองว่า ฉีเล่ยเป็นแพทย์ฝึกหัดที่เขารับเข้ามาอยู่ในแผนกด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก่อน หากเขาทําดีกับจาง ย่อมต้องเป็นสะพานเชื่อมไปยังฉีเลยด้วย
ไม่แน่ว่า จับพลัดจับผลูฉีเลยอาจได้รับความไว้วางใจให้รับตําแหน่งสําคัญๆ จางฝูเองก็จะมีโอกาสเติบโตด้วยเช่นกัน และหากเขาทําดีกับจางฝูไว้ ก็ไม่มีอะไรเสียหาย
จ้าวโจวเฉินรู้ตัวว่าพลาด ที่ได้พูดจารุนแรง และแสดงกิริยาไม่เหมาะสมออกไปเมื่อวานนี้ แต่ในเมื่อทุกอย่างก็เกิดขึ้นไปแล้วจะย้อนกลับไปแก้ไขก็ทําไม่ได้ แต่หากอยู่เฉยๆไม่ลงมือทําอะไรสักอย่าง ก็เกรงว่าจะกระทบต่อหน้าที่การงานในวันข้างหน้า ไม่แน่ว่า อนาคตของเขาอาจจะดับ วูบไปเลยก็ได้
ด้วยเหตุนี้ จ้าวโจวเฉินได้แต่เปรียบเทียบว่า ระหว่างเสียหน้า กับสูญเสียความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เขาจะเลือกอะไร?
หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้ว เขาจึงรีบขับรถมาโรงพยาบาลแต่เช้า และมายืนรอจางฝอยู่ที่หน้าตึกด้วยความกระวนกระวายใจ!
เมื่อเปิดประตูห้องผู้ปวยเข้าไป จ้าวโจวเฉิน และจางสู่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะสดใสดังออกมา สีหน้าของหลิวเฟิงเจิ้นกลับมาสดชื่นแจ่มใส และมีสง่าราศีสมกับเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งเช่นเดิม ใบหน้าของเธอเปล่งปลั่งมีน้ํามีนวล ท่าทางการแสดงออกก็สง่างาม ต่างจากสภาพใกล้ตายเมื่อวานนี้ ราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว!
แต่เมื่อเห็นจ้าวโจวเฉันเดินเข้ามาในห้อง ใบหน้ายิ้มแย้มของหลิวเฟิงเจิ้นก็เปลี่ยนเป็นบึงตึงขึ้นมาทันที และได้แต่คิดในใจว่า
“ยังกล้ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกเหรอ? ให้ฉันนอนรักษาตัวอยู่ตั้งนาน แต่กลับไม่มีปัญญารักษาฉันให้หายได้ มิหนําซ้ํายังจะคิดวิธีรักษาบ้าๆ แล้วก็น่าสะอิดสะเอียนนั่นออกมาได้! ต่างกับหมอฉีที่รักษาฉันเพียงแค่ครั้งเดียว ก็ดีขึ้นทันตาเห็น!”
เมื่อได้เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของหลิวเฟิงเจิ้นจ้าวโจวเฉินก็รู้ดีว่า สถานการณ์ต้องไม่ดีแน่ แต่เขาก็จําเป็นต้องรวบรวมความกล้า และเดินเข้าไปทักทาย
“คุณนายหลิวครับ! วันนี้ผมมีข่าวดีจะมาแจ้งครับ ทางคณะผู้บริหารของโรงพยาบาล ได้พิจารณาตัดสินใจให้คุณหมอฉีเล่ยเข้ารับตําแหน่งแพทย์แผยจีนประจําโรงพยา บาลแล้วครับ!”
หลิวเฟิงเฉินทําเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจ พร้อมตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงเย็นชา “คงไม่ จําเป็นแล้วละผู้อํานวยการจ้าวคุณไม่ต้องห่วงเรื่องขอ งคุณหมอฉีอีกเพราะฉันได้สั่งให้คนของฉันจัดการส่งชื่อขอ งคุณหมอฉีเข้าไปเป็นทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษของกรมอนามัยแล้วพรุ่งนี้เขาก็สามารถเริ่มงานได้เลย!”
หลิวเฟิงเจิ้นนั้น ไม่เพียงเป็นภรรยาของผู้ว่าไต่คุน แต่เธอยังเป็นผู้บริหารระดับสูงของกรมสุขภาพและอนามัยประจํามณฑลอีกด้วย
“ห้ะ?!”
จ้าวโจวเฉินถึงกับร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับอ้าปากค้างอยู่เช่นนั้น!
“ไอ้หนุ่มนั่นทําไมถึงได้ดวงดีแบบนี้? การจะเข้าไปเป็นทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษของกรมอนามัย ไม่ใช่เรื่องที่หมอคนไหนจะเข้าไปเป็นได้ง่ายๆเลย?”
หลี่ฮั่วเฉินนั้นเป็นถึงแพทย์หลวง และมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลรักษาผู้นําระดับสูงของประเทศ ส่วนแพทย์พิเศษของกรมอนามัยประจํามณฑลหนานเจียงนั้น จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลรักษาเจ้าหน้าที่ระดับสูงขอมณฑล
ด้วยเหตุนี้ การที่แพทย์คนหนึ่งจะได้เข้าไปอยู่ในทีมแพทย์พิเศษนี้ เรียกได้ว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถเฉพาะทางที่โดดเด่นอย่างมาก!
แพทย์ทุกคนในมณฑลหนานเจียง หากต้องการที่จะเข้าไปอยู่ในทีมแพทย์พิเศษนี้ นอกจากจะต้องมีความสามารถโดดเด่นแล้ว ยังจะต้องมีสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมอนามัยด้วย ไม่เช่นนั้น อนาคตของพวกเขาจะรุ่งโรจน์โชติช่วงได้อย่างไรกัน?
เพื่อคอยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ฉีเลยจึงต้องอยู่ในห้องผู้ป่วยกับหลิวเฟิงเฉินตลอดทั้งคืน และเมื่อคืนนี้ เขาก็นอนที่เตียงคนไข้อีกเตียงซึ่งอยู่ข้างๆ
การที่เขาต้องทําเช่นนี้ ก็เพราะไต่คุนได้ฝากฝังไว้ก่อนที่จะจากไป และนี่คือภารกิจที่อาวุโสต่งได้ร้องขอให้เขาช่วย!
แต่หลังจากที่ได้ยินคําพูดของหลิวเชิงเฉินเมื่อครู่ ฉีเล่ยถึงกับประหลาดใจอย่างมาก เพราะหลิวเฟิงเจิ้นไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขามาก่อน แต่แล้วจู่ๆ วันนี้กลับบอกว่า เขาเป็นแพทย์พิเศษของกรมอนามัย!
ฉีเล่ยรีบปฏิเสธทันที “เรื่องนี้ไม่น่าจะเหมาะสมนะครับ! ผมอายุยังน้อย และยังขาดประสบการณ์ คงไม่มีคุณสมบัติที่เข้าไปทํางานในทีมแพทย์พิเศษได้ อีกอย่าง ผมไม่สามารถแบกความรับผิดชอบที่หนักหนานี้ไว้ได้”
“เห็นที่จะปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะคุณหมอฉี” หลิวเฟิงเจิ้นพูดขึ้นยิ้มๆ
ความจริงแล้ว ไต่คุนได้ส่งข้อความบอกหลิวเฟิงเจิ้นตั้งแต่เมื่อคืน และนี่เป็นการตัดสินใจของไต่คุนเอง ซึ่งหลิวเฟิงเจิ้นรู้จักนิสัยและอารมณ์ของผู้เป็นสามีดี อีกทั้งเรื่องนี้เธอเองก็เห็นด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน