ยอดคุณหมอสกุลเฉิน นิยาย บท 8

ตอนที่ 8 ต่งซีหยุน

ต่งซีหยุนเป็นผู้ก่อตั้ง และเป็นประธานใหญ่ของกลุ่มบริษัทฮัวหยุนในกรุงปักกิ่ง อีกทั้งยังเป็นนักธุรกิจอันดับหนึ่งของประเทศจีนอีกด้วย

ต่งซีหยุนรู้เรื่องที่เฉินเทียนกรุ๊ปกำลังเผชิญวิกฤติด้านการเงินอยู่ และหวู่เฉิงเฟิงเองก็เป็นรุ่นน้องของเขา และได้เข้าไปขอให้ต่งซีหยุนช่วยยื่นมือประคับประคองเฉินเทียนกรุ๊ป เพื่อให้เฉินเทียนกรุ๊ปสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้

แต่เวลานี้ ฉีเล่ยกลับบอกว่า ภาพอักษรของหวังซีจีที่สองพ่อลูกสกุลหวู่ได้เตรียมไว้เป็นของขวัญ เพื่อมอบให้กับต่งซีหยุนนั้นเป็นของปลอม ทำให้ทั้งคู่ถึงกับตกอยู่สถานการณ์ที่ยากลำบากใจอย่างมาก ..

และหากหวู่เฉิงเฟิงไม่นำภาพอักษรล้ำค่านี้ มามอบให้เป็นของขวัญสำหรับเพื่อนรุ่นพี่อย่างต่งซีหยุน ก็คงจะดูเหมือนเขาไร้ซึ่งความจริงใจในความสัมพันธ์

แต่ถ้าเขานำออกมามอบให้ และต่งซีหยุนพบว่าเป็นภาพอักษรเป็นของปลอม ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากยิ่งขึ้น

แต่หากจะเปลี่ยนเป็นของขวัญชิ้นอื่นในวินาทีสุดท้าย ก็คงจะไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะต่งซีหยุนนั้นร่ำรวยมหาศาล ของขวัญธรรมดาทั่วไปคงไม่อาจสร้างความประทับใจให้กับชายชราผู้นี้ได้

และด้วยเหตุผลนี้ ทำให้หวู่เฉินเทียนต้องทุ่มเทความพยายามอย่างมาก ในการที่จะเสาะหาของขวัญล้ำค่าที่คิดว่าต่งซีหยุนจะต้องถูกใจเป็นอย่างมากมา ..

แต่ในระหว่างที่สองคนพ่อลูกกำลังครุ่นคิดหาทางออกกันอยู่นั้น เลขานุการของหวู่เฉินเทียนก็ได้เดินเข้ามาเคาะประตูห้อง พร้อมกับรายงานว่า

“ท่านประธานหวู่คะ เครื่องของอาวุโสต่งจะมาถึงในอีกราวหนึ่งชั่วโมงแล้ว เวลานี้รถที่เตรียมไว้สำหรับไปรับอาวุโสต่งพร้อมแล้วค่ะ ”

หวู่เฉินเทียนยกมือทั้งสองข้างขึ้นลูบใบหน้าด้วยความเหนื่อยล้า พร้อมกับหันไปบอกผู้เป็นพ่อว่า

“ไปกันเถอะครับพ่อ ! ในเมื่อเราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว ผมเองไม่เชื่อว่า อาวุโสต่งจะไม่เห็นความจริงใจของพวกเราสองพ่อลูก ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ ผมยินดีที่จะปฏิบัติต่ออาวุโสต่งเหมือพ่อคนหนึ่งเลยทีเดียว !”

หวู่เฉิงเฟิงลุกขึ้นยืน พร้อมกับพยักหน้าเงียบๆ ก่อนจะเดินตามหลังลูกชายไปทันที และภายในใจได้แต่แอบคิดว่า

‘เจ้าลูกคนนี้นับว่าแปลกไม่น้อยทีเดียว ! ยิ่งเผชิญหน้ากับอันตรายมากเท่าไหร่ กลับยิ่งสงบนิ่ง และเยือกเย็นพร้อมที่จะเผชิญปัญหา ไม่ว่าปัญหานั้นจะใหญ่โตแค่ไหน ..’

………..

ในเวลาที่เครื่องบินส่วนตัวของต่งซีหยุนมาถึงสนามบินนั้น พ่อลูกสกุลหวู่พร้อมด้วยพนักงานต้อนรับกลุ่มหนึ่งของเฉินเทียนกรุ๊ป ก็ได้มายืนรอต้อนรับต่งซีหยุนอย่างพร้อมเพรียงกัน

แทบไม่ต้องพูดถึงราคาเครื่องบินส่วนตัวที่มีราคาแพงมาก เพียงแค่ค่าบำรุงรักษา ค่าใช้จ่ายต่างๆในการบินแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเช่าเส้นทางการบิน ค่ากัปตัน ค่าลูกเรือง ค่าน้ำมัน ค่านำครื่องลงจอดในสนามบินต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่า ค่าใช้จ่ายในปีหนึ่งๆ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเครื่องส่วนตัวลำนี้ ก็มีมูลค่าเกินร้อยล้านแล้ว

แม้หวู่เฉินเทียนจะจัดว่าเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในหนานหยาง แต่เขาก็ยังไม่สามารถใช้ชีวิตหรูหราอย่างเช่นอาวุโสต่งได้

หลังจากที่เครื่องบินส่วนตัวของต่งซีหยุนลงจอด เจ้าหน้าที่ในสนามบินก็ได้นำบันไดมาเทียบหน้าประตูเครื่องให้ จากนั้น ต่งซีหยุนก็ได้ก้าวลงบันไดมาด้วยขาที่สั่นเทาเล็กน้อย

และในขณะที่เดินลงมานั้น จู่ๆ ชายชราก็เดินเซจนเกือบล้มตกบันไดลงมา แต่นับว่าโชคดีที่บอดี้การ์ดของเขาได้เข้าไปพยุงร่างของต่งซีหยุนไว้ได้ทันท่วงที

หลังจากเดินลงบันไดมาได้แล้ว ต่งซีหยุนถึงกับต้องทรุดลงนั่งยองๆกับพื้นอยู่ครู่ใหญ่ พร้อมกับเหงื่อเม็ดโตที่หยดลงมาจากหน้าผากของเขา

เมื่อเห็นต่งซีหยุนมีอาการเช่นนั้น หวู่เฉิงเฟิงถึงกับรับรู้ได้ทันทีว่า มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับชายชราผู้นี้

นั่นเพราะในความเป็นจริง แม้ว่าอาวุโสต่งจะอยู่ในวัยเจ็ดสิบปี แต่ก็ยังหูตาดีมาก อีทั้งสุขภาพร่างกายของเขายังแข็งแรงยิ่งกว่าชายในวัยห้าสิบปีเสียอีก

และที่สำคัญ รอบตัวต่งซีหยุนนั้นยังมีทีมแพทย์ส่วนตัว ที่คอยติดตามเขาไปไหนต่อไหนด้วยตลอดเวลา และทุกคนต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องสุขภาพด้านต่างๆ ทั้งหมดมีหน้าที่คอยดูแลสุขภาพให้กับต่งซีหยุนเป็นการส่วนตัว

แต่จากเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เกิดขึ้น อาวุโสต่งก้าวลงบันไดได้เพียงแค่สองสามก้าว ก็เกือบจะล้มลงตกบันไดเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่า มีบางอย่างที่ไม่ปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอสกุลเฉิน