ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1097

สีหน้าของจั่วหลิงเฟิงจมลง พูด : “เพื่อนอู๋ ตระกูลจั่วของผมอยู่ในคุนหลุนก็เป็นกองกำลังใหญ่เหมือนกัน คำพูดของคุณ ขู่ฉันไม่ได้หรอก!”

“ตุ้ม!”

เขายังพูดไม่จบ ทันใดนั้นหนามหินก็พุ่งออกมาจากพื้น แทงทะลุขาข้างหนึ่งของเขาโดยตรง

จั่วหลิงเฟิงส่งเสียงกรีดร้องหนึ่งที พร้อมกับกระโดดขึ้น

อู๋เป่ย : “นี่เป็นการเตือน ถ้าหากยังไม่ไปอีก ครั้งหน้าฉันจะฆ่าแก!”

จั่วหลิงเฟิงจ้องอู๋เป่ยอย่างดุร้าย รู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ ลากขาที่บาดเจ็บ ออกจากสถานที่ทันที

โตวหลานคนนั้นก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้เช่นกัน ไปนั่งอยู่ข้างกองไฟ แต่เธอยังคงยื่นหูเข้ามา แอบฟังอู๋เป่ยและเย่ชิงหวู่คุยกัน

อู๋เป่ย : “ทำไมจู่ๆแม่นางเย่ถึงมาเรียนหนังสือล่ะ”

เย่ชิงหวู่ : “ตระกูลของฉันได้รับข่าว มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้จะรับสมัครกลุ่มนักศึกษาโดยตรงจากมหาวิทยาลัยหวาชิงและมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในฐานะนักศึกษารุ่นแรกของพวกเขา”

อู๋เป่ย : “ดังนั้นคุณเลยอยากมาเสี่ยงดวงดูเหรอ”

เย่ชิงหวู่พยักหน้า : “คุณสมบัติของฉันไม่ค่อยดี สามารถทำได้แค่คว้าโอกาสเอาไว้ หวังว่าจะสามารถเข้าสู่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ได้”

อู๋เป่ย : “ตระกูลของคุณอยู่คุนหลุน น่าจะมีอำนาจอยู่บ้าง ทำไมถึงอยากเข้าร่วมมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ล่ะ”

เย่ชิงหวู่ถอนหายใจหนึ่งที พูด : “คุณไม่เคยได้ยินเหรอ ผู้บริหารระดับสูงของเหยียนหลง มีการทำข้อตกลงกับกองกำลังใหญ่หลายแห่งในโลกแห่งเซียนแล้ว กองกำลังใหญ่หลายแห่ง ล้วนแล้วส่งยอดฝีมือออกมา เข้ามาดำรงตำแหน่งของเหยียนหลงอย่างเป็นทางการ ถึงเวลานั้น กองกำลังเล็กๆอย่างพวกเราจะสามารถทำอะไรได้ ฉันอยากเข้าร่วมมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ก็แค่อยากได้งานของราชการหน่วยใดหน่วยหนึ่ง ทิ้งทางออกข้างหลังไว้บ้าง”

หัวใจของอู๋เป่ยเต้นแรง : “อ้อ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย!”

เย่ชิงหวู่ : “ดูเหมือนว่า กองกำลังในโลกแห่งเซียนเหล่านั้นให้ความสำคัญกับโลกเบื้องล่างอย่างมาก คนที่ลงมาล้วนเป็นคนที่ร้ายกาจอย่างมาก เมื่อพลังวิญญาณฟื้นคืนมาอย่างสมบูรณ์ ก็จะมีเซียนสวรรค์มานั่งตำแหน่งเหยียนหลง”

อู๋เป่ย : “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง”

เขาถาม : “แต่ว่าเพียงแค่เข้ามหาวิทยาลัยหวชิง เกรงว่าคุณไม่สามารถกลายเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ได้”

เย่ชิงหวู่ : “ฉันก็รู้ว่าความหวังนั้นริบหรี่ แต่ยังไงสะก็ขอลองดูสักตั้ง ใช่ไหมล่ะ”

อู๋เป่ยคิดสักพัก พูด : “ผ่านไปอีกสักพัก ผมต้องไปเป็นที่ปรึกษาที่เป่ยหยวนของสถาบันศิลปะการต่อสู้ ในฐานะที่ปรึกษา ผมสามารถช่วยคุณเขียนจดหมายแนะนำตัวได้ เอาจดหมายแนะนำตัวของผม คุณสามารถไปหาครูที่คุณชื่นชอบคนหนึ่งได้ หลังจากนั้นกลายเป็นนักเรียนของเขา”

เย่ชิงหวู่ตกตะลึงอย่างมาก : “คุณชายอู๋เป็นที่ปรึกษาของสถาบันศิลปะการต่อสู้เหรอ”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา โตวหลานเกือบจะกระโดดขึ้นมา อะไรนะ! คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นที่ปรึกษาของสถาบันศิลปะการต่อสู้

อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม : “ผมไม่เหมือนที่ปรึกษาเหรอ”

“ไม่ไม่ อาจารย์อู๋คุณเป็นเทพแห่งกษัตริย์ แข็งแกร่งอย่างมาก การเป็นที่ปรึกษาถือว่าเป็นเรื่องปกติ” เย่ชิงหวู่รีบพูด แม้แต่คำเรียกล้วนแล้วเปลี่ยนเป็นอาจารย์อู๋

อู๋เหมยกะพริบตา พูด : “คุณไปเป็นอาจารย์แล้วเหรอ”

เย่ชิงหวู่พูดอย่างจริงจัง : “ไม่ใช่อาจารย์ แต่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา! ทั่วทั้งเป่ยหยวนของสถาบันศิลปะการต่อสู้ มีอาจารย์ที่ปรึกษาแค่ห้าสิบกว่าคนเอง”

หลังจากนั้นเธอถามอย่างเคารพ : “ไม่ทราบว่า อาจารย์อู๋เป็นที่ปรึกษากี่ดาวเหรอ”

อู๋เป่ยพูด : “ตอนนี้น่าจะสี่ดาวมั้ง”

สี่ดาวเหรอ

เย่ชิงหวู่อึ้งไปเลย ตามที่เธอรู้ ที่ปรึกษาของสถาบันศิลปะการต่อสู้สูงสุดก็แค่สามดาวไม่ใช่เหรอ

สูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งที เย่ชิงหวู่พูด : “นักศึกษาเย่ชิงหวู่ เข้าพบอาจารย์อู๋!” ในเวลานี้ นี่เป็นแค่วิธีเดียว เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่ออู๋เป่ย

อู๋เป่ยพูดอย่างไม่แยแส : “ไม่ต้องมากพิธี คุณมาจากโลกไหนของคุนหลุน”

เย่ชิงหวู่ : “ฉันเป็นคนของตระกูลเย่จากดินแดนเทพโอสถ”

หัวใจของอู๋เป่ยเต้นแรง : “ดินแดนเทพโอสถเหรอ ผมได้ยินมาว่า ดินแดนเทพโอสถอุดมไปด้วยสมุนไพร”

เย่ชิงหวู่ : “เป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตามหลังจากมีคนมาเก็บเกี่ยวนับไม่ถ้วน ดินแดนเทพโอสถมีสมุนไพรเหลืออยู่ไม่มากแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ต้องห้ามบางส่วนเท่านั้น เพียงแต่ว่าพื้นที่ต้องห้ามเหล่านั้นอันตรายอย่างยิ่ง ปรมาจารย์นับไม่ถ้วนตายอยู่ที่นั่น ตอนนี้ไม่มีใครกล้าไปที่นั่น”

อู๋เป่ยพูด : “ใช่ไหม ไว้มีโอกาส ผมจะไปดูแน่นอน”

เย่ชิงหวู่รีบพูด : “ถ้าหากอาจารย์อู๋ไป เย่ชิงหวู่จะนำทางให้”

อู๋เป่ยพูดด้วยรอยยิ้ม : “ได้ ถึงเวลาต้องรบกวนแม่นางเย่แล้ว”

โต้วหลานในเวลานี้ เรียกได้ว่ามีกรงเล็บนับร้อยกำลังเกาหัวใจ รู้สึกเสียใจอย่างมาก เธอกัดฟันแน่น เดินมาหาอู๋เป่ย โค้งคำนับลึกๆหนึ่งที : “เข้าพบอาจารย์อู๋”

อู๋เหมยรำคาญเธออย่างมาก พูด : “ร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ พี่ของฉันไม่มีทางช่วยเธอ ฮึ!”

เย่ชิงหวู่ทนดูไม่ไหวเล็กน้อย แต่ตัวเธอเองนั้นก็เป็นเพราะโชคดีที่ได้รับจดหมายแนะนำตัว แน่นอนไม่สามารถช่วยเธอพูดได้

ในเวลานี้อู๋เป่ยนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ถาม : “แคมป์ปิ้งของวันนี้ ใครเป็นคนจัดเหรอ”

อู๋เหมย : “หยินเสี่ยวเหนียนเป็นคนจัด ใช่แล้ว หยินเสี่ยวเหนียนล่ะ”

คนอื่นๆก็มองซ้ายมองขวาเช่นกัน ไม่มีใครพบเงาของหยินเสี่ยวเหนียน

อู๋เป่ย : “ไม่ต้องหาแล้ว หยินเสี่ยวเหนียนคนนี้ น่าจะเป็นพรรคพวกของนรกภูมิเหล่านั้น เขาตั้งใจจัดแคมป์ปิ้งนี้ขึ้นมา จุดประสงค์คือเพื่อจับพวกเธอทั้งหมดในคราวเดียว”

อู๋เหมยพูดด้วยความโกรธ : “สารเลวคนนี้ เสียแรงเปล่าๆที่พวกเราเชื่อใจเขาขนาดนี้!”

เย่ชิงหวู่ : “เป็นเพราะพวกเราประมาทเกินไป”

ระหว่างที่พูด เงาของคนหลายคนตกลงมา ผู้ที่มาก็คือองครักษ์หลงเว่ย

อู๋เป่ย : “พวกคุณมาทำอะไร”

องครักษ์หลงเว่ยคนหนึ่งพูด : “ท่านผู้นำ เลขาฮัวเป็นคนให้พวกเรา”

อู๋เป่ยหรี่ตาลง : “เกิดเรื่องเหรอ”

องครักษ์หลงเว่ยพูด : “บุคลากรระดับรากหญ้าของพรรคเทียนหลง กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทุกคนจะถูกเปลี่ยน โดยไม่มีข้อยกเว้น”

อู๋เป่ย : “หมายความว่า ระดับการจัดการก็กำลังเปลี่ยนเหรอ”

องครักษ์หลงเว่ย : “ใช่แล้ว ระดับของสมาชิก ถูกเปลี่ยนไปครึ่งหนึ่งแล้ว ต่อจากนี้ อาจจะเปลี่ยนระดับสูง”

ระดับสูง แน่นอนก็คือท่านผู้นำอย่างอู๋เป่ยคนนี้

เขาพูดอย่างไม่แยแส : “ตามที่คาด เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องจะมาได้เร็วขนาดนี้”

องครักษ์หลงเว่ย : “ท่านผู้นำ พวกเราควรทำยังไงดี”

อู๋เป่ยพูดอย่างไม่แยแส : “แน่นอนทำตามคำสั่ง ใช่แล้ว คุณไปบอกพี่น้องเหล่านั้นที่ถูกสับเปลี่ยน บอกไปว่าผมต้องการก่อตั้งสำนักนอกเขาสู่ ปัจจุบันขาดแคลนกำลังคน ถ้าหากพวกเขายินดี สามารถมานอกเขาสู่ได้ สวัสดีการยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้การทำงานสบายกว่าก่อนหน้านี้”