ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1174

จัดการทั้งหมดเสร็จแล้ว ก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว อู๋เป่ยพาหลิงซีและตี้เซียนขั้นซ่อนในถ้ำหนึ่งร้อยเจ็ดคนมาที่สำนักงานหลักของพรรคเทียนหลง

คนที่เบื้องบนส่งมารับช่วงต่อพรรคเทียนหลงจากไปแล้ว พรรคเทียนหลงกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน

ฮวาเจี๋ยหยูพูดด้วยรอยยิ้ม : “ท่านผู้นำ ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”

อู๋เป่ยพยักหน้า เขากวาดมองสมาชิกเก่ากลุ่มนี้ พูดด้วยรอยยิ้ม : “ผมกลับมาแล้ว คนเหล่านี้ ต่อจากนี้ไปก็เป็นเพื่อนร่วมงานใหม่ของพวกคุณ”

แนะนำง่ายๆสักพัก ฮวาเจี๋ยหยู : “ท่านผู้นำ ได้ยินมาว่าพวกเราต้องไปปกป้องมณฑลหลงชิงเหรอ”

อู๋เป่ย : “ใช่แล้ว ดังนั้นภารกิจของพวกเราสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้เต็มไปด้วยอันตราย เลขาฮวา คุณช่วยบอกสถานการณ์ของมณฑลหลงชิงให้ทุกคนฟังหนึ่งรอบ”

ฮวาเจี๋ยหยูพยักหน้า เธอเตรียมการล่วงหน้าแล้ว จึงเปิดสไลด์โชว์ขึ้นมา แนะนำสถานการณ์ทั่วไปของมณฑลหลงชิงให้ทุกคนฟัง

มณฑลหลงชิงล้อมรอบด้วยภูเขาและมีแอ่งเล็กๆ อยู่ตรงกลาง จากประชากรห้าแสนคน มีผู้คนอาศัยอยู่ในแอ่งแห่งนี้สี่แสนกว่าคน

พูดสถานการณ์คร่าวๆของมณฑลหลงชิงเสร็จ อู๋เป่ยถาม : “คู่มือการเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างบน คุณก็ช่วยพูดหน่อย”

ฮวาเจี๋ยหยูพูด : “ความหมายของข้างบนคือ ไม่อนุญาตให้เวทย์ปีศาจและผู้ฝึกฝนปีศาจเข้ามา ผู้ฝึกฝนทั่วไปที่ต้องการเข้ามาในเมืองหลวงต้องลงทะเบียน เขียนจุดประสงค์ของการเข้าเมือง ออกไปตอนไหน ถ้าหากอยู่ในเมืองหลวงเป็นเวลานาน ต้องยื่นขอใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ชั่วคราวด้วย”

อู๋เป่ยขมวดคิ้ว : “ผู้ฝึกฝนเหล่านี้เคยชินกับความป่าเถื่อน เกรงว่าคงไม่ให้ความร่วมมือง่ายๆ”

และในเวลานี้ อู๋เป่ยได้รับโทรศัพท์จากหยวนเค่อเซี่ยว : “ท่านผู้นำอู๋ คุณไปรับเสบียงที่คลังของประเทศเดียวนี้!”

อู๋เป่ย : “รับเสบียงเหรอ”

หยวนเค่อเซี่ยว : “เพราะพรรคเทียนหลงต้องไปปกป้องมณฑลหลงชิง พวกเราเปิดโอกาสให้คุณเข้าไปในคลังของประเทศ เอาสิ่งของไปได้หนึ่งร้อยชิ้น”

อู๋เป่ย : “เอาได้แค่หนึ่งร้อยชิ้นเหรอ”

หยวนเค่อเซี่ยว : “หนึ่งร้อยชิ้นถือว่าไม่น้อยแล้ว คนอื่นๆเอาได้มากสุดสองร้อยชิ้น น้อยสุดเอาได้แค่ไม่กี่สิบชิ้น ท่านผู้นำอู๋ ขอให้คุณรีบไปคลังของประเทศ อีกหนึ่งชั่วโมง คลังของประเทศก็จะเปิดแล้ว”

อู๋เป่ย : “ผมเข้าใจแล้ว”

เขาพูดกับหลิงซี : “หลิงซี พวกเราไปที่คลังของประเทศหนึ่งรอบ”

พาหลิงซี ทั้งสองคนเดินทางไปที่คลังของประเทศ

สิ่งที่เรียกว่าคลังของประเทศ ไม่ใช่คลังของประเทศในความหมายที่นิยมสิ่งที่เรียกว่าคลังของประเทศนี้มีตัวตนมาหลายพันปีแล้ว มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน วิทยากรจากทุกราชวงศ์จะถูกเก็บไว้ในคลังของประเทศ ก่อนหน้านั้น เฉพาะผู้ฝึกฝนที่ดำรงตำแหน่งราชการเท่านั้นจึงจะเข้าคลังของประเทศได้

ต่อมาอู๋เป่ยเพิ่งรู้ว่า ในความเป็นจริงตลอดราชวงศ์คลังของประเทศ สิทธิ์การใช้งานเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ไม่มีสิทธิ์ในการจัดการ คลังของประเทศได้รับการจัดการโดยตระกูลโบราณ เฉพาะในกรณีที่มีเหตุการณ์พิเศษเท่านั้น ประเทศถึงจะสามารถดึงเสบียงจำนวนมากจากคลังของประเทศได้

คลังของประเทศไม่มีตำแหน่งที่แน่นอน ตัวของมันอยู่ในถ้ำสวรรค์แห่งหนึ่ง ถูกตระกูลหนึ่งควบคุม ในเวลานี้ ทางเข้าคลังของประเทศตั้งอยู่ริมทะเลสาบของมหาวิทยาลัยหวาชิง

ขณะนี้มีคนมารวมตัวกันที่ริมทะเลสาบร้อยกว่าคน พลังยุทธ์ในท่ามกลางของพวกเขาอ่อนแอที่สุดก็เป็นตี้เซียนขั้นแรกเกิด!

ตอนนี้อู๋เป่ยเป็นตี้เซียนขั้นสาม ขั้นเปลี่ยนเทพ ตามชื่อเรียกในโลกมนุษย์ปัจจุบัน สามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้เที่ยงแท้

ขั้นเปลี่ยนเทพสามารถเรียกผู้เที่ยงแท้ เป็นเพราะระหว่างกระบวนการขั้นเปลี่ยนเทพ ผู้ฝึกฝนจะได้รับความสามารถบางอย่าง เช่น วิชาเวทย์มนต์ ความสามารถพิเศษ

อู๋เป่ยกลายเป็นขั้นเปลี่ยนเทพได้อย่างราบรื่นในเตาหลอมศักดิ์สิทธิ์ฮาวเทียน ได้รับความสามารถอันทรงพลังอย่างมาก พันธนาการแห่งจิตวิญญาณทั้งสามถูกเปิดออก ครอบครองวิธีการที่ทรงพลังสามแบบ!

แม้ว่าอู๋เป่ยเพิ่งกลายเป็นขั้นเปลี่ยนเทพ แต่เขาสามารถฝึกฝนเก้าเปลี่ยนแปลงเทพปีศาจได้ในอนาคต เขายังสามารถครอบครองวิธีการที่มากขึ้น ส่งเหล่านี้ล้วนแล้วไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกฝนทั่วไปสามารถเทียบได้

อู๋เป่ยและหลิงซีร่อนลงที่ทะเลสาบ ด้านข้างมีผู้ฝึกฝนกษัตริย์เที่ยงแท้คนหนึ่งพูดอย่างเย็นชา : “ไปข้างๆเลย!”

อู๋เป่ยมองอีกฝ่ายหนึ่งที พูด : “ให้ผมไปด้านข้าง คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร”

พลังยุทธ์ของคนผู้นี้ไม่ต่ำ เป็นตี้เซียนขั้นสายฟ้า วิญญาณแรกเกิดของเขาผ่านการขัดเกลาจากสายฟ้าแล้ว พลังแข็งแกร่งอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่ออู๋เป่ยอยู่ต่อหน้าเขา เขาไม่คู่ควรแก่การพูดถึง เหมือนกับมดตัวหนึ่งเท่านั้น สามารถบดขยี้เขาตายได้อย่างง่ายดาย!

เมื่อเห็นว่าทันทีที่เข้ามาอีกฝ่ายก็ใช้ท่าที่โหดเหี้ยม สีหน้าของอู๋เป่ยไม่เปลี่ยน เขาไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ ใช้ความสามารถที่ได้รับอย่างลับๆ หลังจากเปิดพันธนาการจิตวิญญาณดวงแรก สนามพลังจิตวิญญาณ!

พลังลึกลับปกคลุมทั่วทั้งสถานที่ อยู่ในสนามพลังจิตวิญญาณของเขา วิชาอาคม แห่งความรอบรู้ทั้งหมดล้วนแล้วอยู่ในการควบคุมของเขา!

ดังนั้น จู่ๆมือใหญ่แสงเลือดก็หยุดลง หลังจากนั้นหันกลับไปจับชายวัยกลางคน

ชายวัยกลางคนไม่สามารถควบคุมวิชาของตัวเองโดยสิ้นเชิง ในสายตาของเขาเผยให้เห็นความสิ้นหวัง ตะโกน : “ไว้ชีวิตด้วย!”

อย่างไรก็ตาม สายเกินไปแล้ว มือใหญ่จับไปที่ตัวของเขาโดยตรง เสียงดังที่คมชัด เขาถูกทำให้กลายเป็นโคลนเนื้อด้วยวิชาเวทย์ของตัวเอง! แตกสลายพร้อมกับวิญญาณแรกเกิด ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณถูกทำลาย!

ทันทีที่ชายวัยกลางคนตาย อู๋เป่ยปรบมือ เมื่อสายตาของเขามองออกไป ทุกคนต่างก้มหน้าทีละคน

คนผู้นี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว! ตกลงเขามาจากไหน

ในเวลานี้มีชายคนหนึ่งในชุดสีเขียว เดินเข้ามา มองดูแล้วสง่างามอย่างมาก เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ระหว่างคิ้วของเขา มียันต์อักษรไพตัวหนึ่ง ชัดเจนอย่างมาก

ชายในชุดสีเขียวผสานมือทำความเคารพ : “เพื่อน ข้าน้อยสำนักเปลวไฟ ชางหมิงกู่”

อู๋เป่ยทำความเคารพกลับ : “ยินดีที่ได้รู้จัก ผู้นำพรรคเทียนหลง อู๋เป่ย”

ทุกคนตระหนักได้ในทันใด ที่แท้เขาก็คืออู๋เป่ย! ตามข่าวลือ ถ้าหากไม่ใช่เพราะคนผู้นี้ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันบู๊ลิ้มขั้นสูงสุด อย่างนั้นตำแหน่งบู๊ลิ้มขั้นสูงสุดจะต้องกลายเป็นของเขาอย่างแน่นอน!

ชางหมิงกู่พูดด้วยรอยยิ้ม : “ท่านผู้นำอู๋ ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว”

อู๋เป่ย : “คุยกันได้”

ชางหมิงกู่ : “เหมือนกับท่านผู้นำอู๋แบบนี้ ถึงจะมีคุณสมบัติเรียกผู้เที่ยงแท้”

อู๋เป่ย : “อ้อ หมายความว่ายังไงเหรอ”

ชางหมิงกู่ : “ในโลกแห่งเซียน มีตี้เซียนน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่สามารถเรียกตัวเองว่าผู้เที่ยงแท้ได้ คำเรียกผู้เที่ยงแท้นั้นมีข้อจำกัดที่เข้มงวดอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ถึงเงื่อนไขที่กำหนด ก็ไม่สามารถเรียกตัวเองว่าผู้เที่ยงแท้ได้ เมื่อก่อนในโลกเบื้องล่างมีผู้ฝึกฝนน้อยอย่างมาก การฝึกฝนก็ไม่เป็นระบบ สิ่งนี้ทำให้เกิดความสับสนในแง่ของคำเรียก อะไรผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเทพ ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นราชันย์ กษัตริย์เที่ยงแท้ และเซียนกษัตริย์พวกนั้น คนบางคนทะลวงถึงแค่ตี้เซียนขั้นสามเท่านั้น ก็กล้าเรียกตัวเองว่าผู้เที่ยงแท้ ถ้าหากอยู่ในโลกแห่งเซียน ตี้เซียนขั้นสามก็คือผู้ฝึกฝนตี้เซียนขั้นสาม เรียกว่าตี้เซียนขั้นเปลี่ยนเทพ ใครก็ตามที่ยังไม่ถึงมาตรฐานของผู้เที่ยงแท้ ล้วนแล้วไม่มีใครกล้าเรียกตัวเองว่าผู้เที่ยงแท้”