ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1279

สรุปบท บทที่ 1279 แกล้งตายเพื่อเอาตัวรอด: ยอดคุณหมอตาวิเศษ

ตอน บทที่ 1279 แกล้งตายเพื่อเอาตัวรอด จาก ยอดคุณหมอตาวิเศษ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1279 แกล้งตายเพื่อเอาตัวรอด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายความสามารถแปลก ยอดคุณหมอตาวิเศษ ที่เขียนโดย เสี่ยวเยา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

อู๋เป่ยรู้สึกแปลกใจ : "ทำไมบรรพบุรุษอู๋เซิงถึงได้กำหนดกฎเกณฑ์นี้ขึ้นมา? พวกคุณต่อสู้กันเอง มันจะมีประโยชน์อะไรต่อเขาใช่ไหม?"

ชายชรา : "กฎเกณฑ์ของบรรพบุรุษอู๋เซิงเป็นเช่นนี้มาตลอด ส่วนเป็นเพราะอะไรนั้น พวกเราไม่มีทางที่จะทราบได้เลย"

อู๋เป่ย : "พื้นที่นี้มีคนกี่คน? และมีคนรอดชีวิตกี่คน?"

ชายชรา : "ตามที่ทราบมา ก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 150 คน โดยทั่วไปแล้วหากมีคนลดลงไปกว่าสิบห้าคน บรรพบุรุษอู๋เซิงจึงจะประกาศให้หยุดการสังหาร"

อู๋เป่ยส่ายหัว เขารู้สึกว่าเรื่องประเภทนี้มันช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน เขาเอ่ยถามว่า : "สามารถถอนตัวออกมาได้ไหม?"

ชายชรากล่าวว่า : "ไม่สามารถถอนตัวออกไปได้ บริเวณโดยรอบได้วางค่ายกลสังหารเอาไว้แล้ว คนที่เข้ามาจะไม่เป็นไร แต่ถ้าใครคิดที่จะออกไปก่อนที่การสังหารจะจบสิ้นลง ก็จะถูกข้อจำกัดนี้จู่โจมสังหารทันที"

อู๋เป่ยมีสีหน้าย่ำแย่ พูดแบบนี้ แสดงว่าเขาถูกปิดล้อมอยู่ในสถานที่บ้าๆ แห่งนี้แล้วสิ!

"เช่นนั้นถ้าฉันไม่ฆ่าคน ไม่เข้าร่วมการสังหารล่ะ?" ชายชรามองเขาด้วยท่าทางแปลกใจ พร้อมกล่าวว่า "คุณไม่ฆ่าคนอื่น คนอื่นก็ต้องฆ่าคุณอยู่ดี มันหนีไม่พ้นหรอก"

อู๋เป่ย : "พูดอย่างนี้ แสดงว่าฉันก็จำเป็นจะต้องเข้าร่วมกันกับเขาด้วย"

ชายชรา : "สหาย คุณปล่อยฉันไปสักครั้งเถอะนะ ที่ฉันลงมือกับคุณก็เพราะว่ากฎเกณฑ์การสังหารของสถานที่แห่งนี้"

อู๋เป่ยหัวเราะเยาะ : "เช่นนั้นตอนนี้ฉันจะต้องฆ่าคุณแล้วไม่ใช่เหรอ?"

ชายชรามีสีหน้าทุกข์ใจ : "ฉันยังไม่อยากตาย ขอเพียงแค่สหายสงบสติอารมณ์ลง ฉันจะมอบทรัพย์สมบัติที่มีให้หมดเลย"

อู๋เป่ยสนใจคำว่า"ทรัพย์สมบัติ"ที่เขาพูดอย่างมาก จึงเอ่ยถามว่า : "คุณมีอะไร เอามาให้ฉันดูหน่อย"

ชายชรานำถุงเก็บสิ่งของออกมามอบให้อู๋เป่ย เขาเปิดออกดู ก็พบว่าในถุงนั้นมีเหรียญสมบัติกับหินเซียนเก็บซ่อนอยู่ในนั้น ราคาโดยรวมไม่น่าจะต่ำกว่า 200 ล้าน

ระดับพลังยุทธ์ของชายชราไม่ได้ต้อยต่ำเลยจริงๆ เขาได้ก้าวเข้าไปสู่เซียนสุญญตาแล้วครึ่งก้าว ดังนั้นจึงมีทรัพย์สินติดตัวค่อนข้างมาก

อู๋เป่ยเก็บของเหล่านั้น และถามว่า : "คุณชื่ออะไร มาจากสำนักไหน?"

ชายชรากล่าวว่า : "ฉันชื่อติงเชียนชิว เป็นนักพรตของแคว้นอูหลงอยู่ทางตอนเหนือของป่ามรณะ"

อู๋เป่ย : "พวกคุณเหล่านี้ ล้วนเป็นนักพรตทางตอนเหนือของป่ามรณะเหรอ?"

"ติงเชียนชิวพยักหน้า : "ใช่แล้ว ทางตอนเหนือมีแคว้นอีกนับไม่ถ้วนเลย"

อู๋เป่ยพยักหน้า : "เอาล่ะ ฉันจะไว้ชีวิตคุณก็ได้ แต่ทรัพย์สมบัติของคุณ ฉันจะยึดเอาไว้"

ติงเชียนชิวดีใจมาก : "ขอบคุณสหายเป็นอย่างยิ่ง!"

เมื่อเขากำลังจะจากไป ในสองคนนั้นที่ต่อสู้กันอยู่ก่อนหน้านี้ ชายคนนั้นได้เดินเข้ามา พร้อมกับถือศีรษะมนุษย์เอาไว้ในมือ

แววตาของชายคนนั้นเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร และกล่าวว่า : "พวกคณสองคน จะฆ่าตัวตายหรือรอให้ฉันลงมือดีล่ะ?"

สีหน้าของติงเชียนชิวเปลี่ยนไป และกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ : "จบเห่แล้ว เขาเป็นมือเลือดเหลิ่งเฟย!"

อู๋เฟยมองออกนานแล้ว ว่ามือเลือดเหลิ่งเฟยท่านนี้เป็นสุญญตาเซียนท่านนี้ มีศักยภาพแข็งแกร่งมาก และแม้แต่ติงเชียนชิวก็ไม่มีความกล้าที่จะลงมือกับเขา

"หลีกไปเถอะ ไม่อย่างนั้นคนที่ตายจะต้องเป็นคุณ"

เหลิ่งเฟยยิ้มอย่างชั่วร้าย : "เจ้าหนุ่ม ตี้เซียนตัวเล็กๆ อย่างคุณ เอาความกล้ามาจากไหนกัน กล้ามาหาเรื่องเซียนสวรรค์อย่างนั้นเหรอ?"

อู๋เป่ยถอนหายใจเบาๆ และกล่าวว่า : "ถ้าฉันจะฆ่าคุณ แม้แต่กระบวนท่าเดียวคุณก็ต้านทานไม่ได้"

เหลิ่งเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา : "งั้นเหรอ? เช่นนั้นฉันจะสังหารคุณก่อนก็แล้วกัน!"

ฉับพลันเขาก็คว้าเข้ามาด้วยมือใหญ่ ที่ฝ่ามือปรากฏด้ายไหมสีขาว และต้องการทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อหนังของอู๋เป่ย

ฉากนี้ทำให้อู๋เป่ยรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก คนคนนี้มีการกระทำที่หยิ่งยโส แต่ถ้าหากลงมือขึ้นมา กลับมีเคล็ดลับอันชั่วร้าย เห็นได้ชัดว่าด้ายไหมนี้เป็นกลอุบายควบคุมจิตใจของคน!

ติงเชียนชิว : "เราก็เคยสงสัยมาก่อน แต่ก็นึกเหตุผลไม่ออกเลยจริงๆ อีกทั้งเรื่องนี้ก็มีมาตลอด ดังนั้นจึงไม่ซักถามถึงข้อสงสัยอีก"

อู๋เป่ย : "เรื่องนี้จะต้องมีมูลเหตุ เพียงแต่ว่าพวกคุณไม่รู้ก็เท่านั้นเอง"

ติงเชียนชิว : "ท่านคิดว่า ทำไมบรรพบุรุษอู๋เซิงถึงได้ทำอย่างนี้ล่ะ?"

อู๋เป่ย : "บนโลกใบนี้ไม่มีของดีตกลงมาจากฟ้าหรอก ดังนั้นดินแดนลับห้าธาตุไม่สามารถเข้าได้ เราจำเป็นจะต้องคิดหาวิธีออกไปให้ได้"

ติงเชียนชิวตะลึงงัน : "แต่ถ้าไม่สามารถฆ่าคนได้มากพอ เกรงว่าเราอาจจะไม่มีทางออกไปได้?"

อู๋เป่ย : "คุณไม่ลองแกล้งตายล่ะ?" พูดจบ เขาก็ยื่นมือออกไปตบที่หน้าผากของติงเชียนชิว ร่างกายของติงเชียนชิวแข็งทื่อ และล้มลงบนพื้นโดยตรง

และในเวลาเดียวกัน อู๋เป่ยก็ล้มลงบนพื้น ลมปราณทั้งร่างกายหายไปจนหมดสิ้น จิตวิญญาณหายไป ราวกับว่าได้กลายเป็นศพจริงๆ เขาในตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับท่อนไม้ และก้อนหินก้อนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีคนใช้พลังจิตในการดู ก็ไม่สามารถพบการมีอยู่ของเขาได้!

ทั้งสองคนแกล้งตาย จึงไม่ดึงดูดความสนใจของคนอื่นได้ตามที่คาดเอาไว้ ผ่านไปประมาณ 7 ชั่วโมง ในที่สุดบริเวณโดยรอบก็เงียบสงบลง เพราะว่าคนที่เหลือ แต่ละฆ่าคนไปไม่ต่ำกว่าสามคนแล้ว อีกทั้งจำนวนคนทั้งหมดก็ไม่เกิน 15 คนแล้ว การสังหารจึงได้ยุติลง!

เวลานี้ ประตูแสงห้าสีได้ปรากฏขึ้นในอากาศ สิบห้าคนนี้ดีใจอย่างมาก ต่างพากันเข้าสู่ประตูแสงและหายไป

ประมาณห้านาที ประตูแสงนั้นก็ได้หายไป และพื้นที่ทั้งหมดก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ

เมื่อผ่านไปสิบกว่านาที อู๋เป่ยจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เขาเตะๆ ติงเชียนชิว คนคนนั้นก็ฟื้นกลับคืนมาทันที เขาเอ่ยถามอย่างตกตะลึง : "ยุติแล้วเหรอ?"

อู๋เป่ย : "การสังหารยุติลง คนเหล่านั้นก็เข้าสู่ประตูแสงห้าสี น่าจะเป็นสถานที่ที่เรียกว่าดินแดนลับห้าธาตุ"

ติงเชียนชิวถอนหายใจเบาๆ ดูเหมือนว่าค่อนข้างเสียดาย

อู๋เป่ยจึงเอ่ยถาม : "ทำไม คุณรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบเหรอ?"

ติงเชียนชิวรีบกล่าวว่า : "เปล่าหรอก ฉันเพียงแค่รู้สึกว่ากลอุบายของคุณชายช่างปราดเปรื่องจริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะใช้การแกล้งตายมาหลอกบรรพบุรุษอู๋เซิงได้"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ