อู๋เป่ย “คุณลองพูดรายละเอียดให้ผมฟังได้ไหมว่าพรุ่งนี้จะเเข่งอะไร”
ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์บอกกับอู๋เป่ย การประชุมวิถีทางแพทย์ในวันพรุ่งนี้จะแบ่งออกทั้งหมดเป็นสี่ขั้นตอน อันดับแรกจะเป็นตอบคำถาม โดยมีหมอเทวดาทั้งสี่เป็นผู้ตั้งคำถาม เเละผู้เข้าร่วมประชุมต้องตอบคำถามการประชุมวิถีทางการแพทย์ คะแนนเต็มหนึ่งร้อยคะแนน และคะแนนจะนับรวมเป็นคะแนนสุดท้าย
อันดับที่สองคือเภสัชศาสตร์และขั้นตอนการทำโอสถจริงๆ เงื่อนไขคือต้องจัดยา ปรุงยาในสถานที่แข่งขันเท่านั้น หลังจากนั้นเหล่าบรรดาปรมาจารย์โอสถเป็นผู้ให้คะแนน
ในขั้นตอนนี้คะแนนจะสูงมาก การจัดยาสามารถคว้าคะแนนได้สูงสุดถึงสองร้อยคะแนน การปรุงยาคะแนนสูงสุดได้ถึงห้าร้อยคะแนน คะแนนสูงที่สุดมีเจ็ดร้อยคะแนน!
และอันดับที่สาม ช่วยเหลือผู้ป่วยในสนามแข่ง การประชุมวิถีทางการแพทย์จะจัดสรรผู้ป่วยมาทั้งหมดสิบสองคน อาการของผู้ป่วยจะมีทั้งง่ายจนถึงอาการป่วยที่ซับซ้อน และใส่ลำดับหมายเลขที่แตกต่างกัน เลขที่หนึ่งเป็นการรักษาที่ง่ายที่สุด เลขที่สิบสองการรักษาจะยากที่สุด เช่นนั้น ผู้ป่วยเลขที่หนึ่งมีสำหรับทุกคน ความยากง่ายในการรักษาก็ต่างกันไม่มาก ผู้ป่วยเลขที่สองมีแค่สามสิบท่าน ถ้าหากว่าใครสามารถรักษาผู้ป่วยเลขที่หนึ่งได้ก่อนก็จะสามารถรักษาผู้ป่วยหมายเลขที่สองได้ก่อน
และในเหตุผลเดียวกัน ผู้ป่วยเลขที่สามมีเพียงยี่สิบห้าท่าน ลดปริมาณผู้ป่วยลงอีก ดังนั้นคนที่ทำการรักษาได้ช้าก็จะเสียโอกาสในการรักษา และที่ยากที่สุดคือการรักษาผู้ป่วยเลขที่สิบสอง มีเพียงท่านเดียวเท่านั้น หากรักษาผู้ป่วยเลขที่สิบสองได้ก็จะได้รับคะแนนห้าร้อยคะแนน!
และในอันดับสุดท้าย คือการแย่งกันตอบ โดยมีการแบ่งหมอเทวดาเป็นผู้ออกโจทย์ทั้งหมดสอบข้อ จากนั้นให้ทุกคนแย่งกันตอบ ตอบถูกหนึ่งข้อจะได้สิบคะแนน ถ้าหากแย่งคำถามได้แต่ไม่สามารถตอบได้จะโดนหักห้าคะแนน
สรุปคะแนนอันดับที่สี่ก็จะได้ผลออกมาและเรียงรายชื่อตามลำดับคะแนน ใครที่มีคะแนนสูงสุดสามอันดับแรกจะได้เข้าทะเลซวนหวงและจะได้รับมรดกสูงสุดของซวนหวงไป
หลังจากที่ฟังซ่างกวนหลิงเอ๋อร์อธิบายเสร็จอู๋เป่ยจึงเอ่ยถาม “ถ้าหากว่าผมสามารถคว้าอันดับหนึ่งมาได้ การเตรียมการทั้งหมดของโม่เหลียนเฟิงจะล้มเหลว เขาคงจะไม่ก่อความวุ่นวายหรอกนะ?”
ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์ “ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธมากแค่ไหนก็ไม่มีทาง เพราะว่าการประชุมวิถีการแพทย์มีหลายหน่วยที่คอยจับตาดูอยู่ ถึงแม้ว่าโม่เหลียนเฟิงจะไม่เห็นแก่หน้าของตัวเองแล้ว ก็คงไม่กล้าที่จะทำอะไรมาก เเต่ว่า เขาคงทำอะไรสักอย่างแน่นอน เขาจะทำอะไรนั้นพวกเราเองก็ไม่สามารถที่จะเดาได้”
อู๋เป่ย “ดูท่าว่าอันดับหนึ่งคงได้มายากแน่นอน ที่แน่ๆต้องคอยระวังแผนการของคนอื่นๆ”
เมื่อสนทนากันได้สักพัก อู๋เป่ยได้สอนการเผาเมล็ดแตงโมให้กับซ่างกวนหลิงเอ๋อร์ ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์นั้นค่อนข้างที่จะมีพรสวรรค์ เเละหลังจากที่ได้เรียนมาทั้งบ่าย การเผาใบชาอกมาได้ก็ถือว่าไม่เลว
ตกเย็น ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์รีบกลับและพูดว่า “หลิงเอ๋อร์ คุณชายจาง คืนนี้พวกคุณก็เริ่มการใช้ชีวิตแบบสามาีภรรยากันอย่างสมบูรณ์แบบเถอะ”
อู๋เป่ยงง “คืนนี้?”
ซ่างกวนจี้เซิงพยักหน้า “ทางด้านโม่เหลียนเฟิงได้รับข้อมูลแล้ว เขาอาจจะไม่ยอมรับฐานะของนาย ดังนั้น เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่านายคือลูกเขยของฉัน คืนนี้นายต้องทำหน้าที่ลูกเขยของฉัน”
ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์ก้มหน้างุด “พ่อคะ ไม่มีทางอื่นแล้วเหรอคะ?”
ซ่างกวนจี้เซิง “วิธีนี้ไม่ดีตรงไหน? ไหนๆพวกเธอก็จะเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว จะเป็นก่อนไม่กี่วันก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหนหนิ”
หลังพูดจบก็หัวเาะออกมา “เอาล่ะ ฉันยังมีธุระที่ต้องไปทำต่อ ไว้พรุ่งนี้จะมาแต่เช้านะ”
หลังจากที่ซ่างกวนจี้เซิงจากไป บรรยากาศก็เริ่มอึมครึมขึ้นมาเล็กน้อย ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์พูดแก้เขินว่า “คุณชายคะ คุณหิวหรือยัง พวกเรามาดื่มกันสักแก้วดีไหม?”
อู๋เป่ย “อื้ม ก็ดีเหมือนกัน”
ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์เตรียมกับแกล้มและสุราเรียบร้อย หลังจากที่ดื่มสุราไปสามแก้วทั้งคู่ก็ปิดประตูเข้านอน
แต่ฟ้ายังไม่ทันสว่างอู๋เป่ยก็ตื่นแล้ว ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์เปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “คุณชายคะ ขอให้วันนี้คุณชายโชว์ฝีมือจนทำให้ทุกคนตะลึงกันไปเลยนะคะ และขอให้มีชื่อเสียงโด่งดัง”
อู๋เป่ยยิ้มแล้วพูดว่า “หลิงเอ๋อร์ เรียกผมว่าซวนเป่ยก็ได้”
ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์พยักหน้าเบาๆ “ซวนเป่ย เดี๋ยวฉันจะให้คนรับใช้มาพบคุณ นับจากวันนี้ไปคุณคือลูกเขยของตระกูลซ่างกวน”
อู๋เป่ย “อืม ก็ได้”
เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “หลิงเอ๋อร์ เจ้าสำนักซวนหวงมีศิษย์กี่คนกันแน่?”
ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์กล่าว “ศิษย์ของศาลหวงน่ะมีไม่เยอะ ประมาณหนึ่งหมื่นคนได้ ศิษย์ของสำนักซวนน่ะมีค่อนข้างเยอะ ถ้าหากรวมกันก็มีไม่ต่ำกว่าเจ็ดหมื่น และยังมีผู้อาวุโสอีกเป็นพันคน และมีช่างซ่อมบำรุงอีกหลายล้านคน”
อู๋เป่ย “ศาลหวงเป็นวิถีทางการเเพทย์ ส่วนทางด้านสำนักซวนเหมือนจะเป็นค่ายกลไหม?”
ซ่างกวนหลิงเอ๋อร์ “อืม ทักษะการต่อสู้ของสำนักซวนนั้นมีลักษณะเด่น มีความชำนาญด้านการวางค่ายกล และในเวลาเดียวกันวิชายันต์ของพวกเขาก็เก่งเหมือนกัน”
ทันทีที่ซ่างกวนจี้เซิงปรากฏตัวขึ้น ทุกคนต่าวก็เริ่มสนทนากัน
“หมอเทวดาอันดับหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเเล้ว คนที่อยู่ข้างๆเขาเป็นใครกัน?”
“นี่คุณยังไม่รู้เหรอ? เขาคือลูกเขยของหมอเทวดาซ่างกวน เป็นสามีของซ่างกวนหลิงเอ๋อร์”
“อะไรนะ? สามีของซ่างกวนหลิงเอ๋อร์อย่างนั้นเหรอ? เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่ใช่ว่าเธอจะแต่งงานกับเซียวเหวยฉีหรอกเหรอ?”
“แล้วใครว่าไม่ใช่ล่ะ เพราะฉะนั้นพวกเราก็เลยตกใจไง จู่ๆหมอเทวดาอันดับหนึ่งก็พูดมาแบบนี้ บางทีเขามาที่นี่ก็เพื่อการประชุมวิถีทางการแพทย์ เพราะอย่างไรซะเขาก็เป็นลูกเขย คนๆนี้ก็สามารถเข้าร่วมได้”
“สามารถเข้าตาหมอเทวดาอันดับหนึ่งได้ เเสดงว่าทักษะทางการแพทย์คงต้องน่าทึ่งมากแน่ๆ” มีคนกล่าว
เเละเมื่อมาถึงที่นั่ง ซ่างกวนจี้เซิงก็คำนับเจ้าสำนักซวนหวงด้วยท่าทางที่เคารพ “เจ้าสำนัก!”
เจ้าสำนักซนหวงเป็นชายหนุ่ม ที่สวมเสื้อคลุมสีดำ ในมือถือฝูเฉิน ที่เอวของเขาคาดด้วยเข็มขัดหยก และด้านหลังของเขาคือทหารคุ้มกัน เขาพยักหน้าเบาๆแล้วพูดว่า “ไม่ต้องมากพิธีก็ได้หมอเทวดาซ่างกวน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...