เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1369

อู๋เป่ยได้วางตราของราชาแห่งศิลปะการต่อสู้ในตำนานเก้าดาวไว้บนโต๊ะแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "คณบดี ฉันมารับรางวัล"

จริงๆ แล้วหลงเซี่ยงเทียนจุนไม่อยากมอบเงินให้กับอู๋เป่ยและไม่อยากให้เขาเป็นที่ปรึกษาห้าดาวด้วย แต่มีผู้คนจำนวนมากที่อยู่ตรงนั้นแถมยังมีการประกาศต่อสาธารณะชนอีก เขาจึงไม่สามารถกลับคำพูดของตัวเองได้

หลงเซี่ยงเทียนจุนเผยรอยยิ้มที่เหมือนโดนบังคับ "ที่ปรึกษาอู๋ คุณนี่เป็นอัจฉริยะตัวจริง มาถึงระดับตำนานเก้าดาวแล้ว ฉันชื่นชมคุณจริงๆ"

อู๋เป่ยตอบ "ในเรื่องรางวัลที่ได้นั้น รอจนกว่าฉันจะไปถึงชั้นประตูมังกรก่อนแล้วจะดูว่าสามารถที่จะเป็นราชาศิลปะการต่อสู้ผู้สูงศักดิ์สิทธิ์ได้หรือเปล่า"

หลงเซี่ยงเทียนจุนกระตุกมุมปากเล็กน้อยแล้วกล่าว "ตามกฎแล้ว สถาบันจะให้รางวัลที่ปรึกษาอู๋เป็นเงิน 340 ล้านเหรียญมังกรและในเวลาเดียวกันก็เลื่อนตำแหน่งคุณเป็นที่ปรึกษาระดับห้าดาวไปด้วย"

ในไม่ช้า อู๋เป่ยก็ได้รับถุงเงินและตราที่ปรึกษาระดับห้าดาว

ท้ายสุดนี้หลงเซี่ยงเทียนจุนยิ้มและกล่าวว่า "ที่ปรึกษาอู๋คุณวุฒิของคุณยอดเยี่ยมมาก และคุณสามารถเข้าสู่สถาบันการศึกษาในตำนานได้อย่างแน่นอน หากคุณต้องการ ฉันจะให้คนลงทะเบียนให้และคุณสามารถมาเข้าร่วมการประเมินสถาบันการศึกษาในตำนานได้ในเดือนถัดไป"

ในขณะที่อู๋เป่ยกำลังจะทำการลงทะเบียนนั้น เขารู้สึกว่าเถี่ยวซวนแตะเขาเบาๆ จากข้างหลัง หัวใจของเขาก็สั่นไหวจากนั้นเขาจึงพูดว่า "ฉันยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง ฉันจะบอกคณบดีในภายหลังละกัน"

หลงเซี่ยงเทียนจุนขมวดคิ้วเล็กน้อย "ถ้าอย่างนั้นคุณต้องรีบหน่อยนะ เวลาลงทะเบียนกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว"

เมื่อรับตรายศและเงินเรียบร้อยแล้ว อู๋เป่ยก็หันหลังและจากไป เมื่อเขามาถึงสถานที่เงียบสงบและไม่มีผู้คนบริเวณนั้น เขาจึงถามเถี่ยวซวนผู้ร่วมเดินทางมากับเขาว่า "สหายเถี่ยว ข้างในมีกลิ่นอะไรตุๆ หรือเปล่า?"

เถี่ยวซวนตอบ "แน่นอนว่ามี หากสมัครในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาของสถาบัน รางวัลจะถูกโอนไปที่วิทยาลัยโดยตรงและคุณจะไม่ได้รับอะไรแม้แต่สลึงเดียว"

อู๋เป่ยอึ้ง "รางวัลอะไรกัน?"

เถี่ยวซวนตอบ "ที่ปรึกษาอู๋ คุณไม่รู้อะไรเลยสินะ สถาบันการศึกษาในตำนานได้ออกประกาศว่าสิบอันดับแรกในการประเมินจะได้รับรางวัลมากมาย ผู้ที่ได้อันดับแรกจะได้รับห้าร้อยล้านเหรียญมังกร และสมบัติทองคำห้าสิบตำลึงของเทพแห่งความโกลาเทียนตี้ ยันต์ซานชิงระดับมรรคาจารย์ รวมถึงถุงสมบัติหยินหยางโดยกำเนิด”

อู๋เป่ยตาลุกวาว "ของดีดีตั้งเยอะแยะ! มอบให้อันดับหนึ่งหมดเลยเหรอ?"

เถี่ยวซวนยิ้มและกล่าวว่า "นั่นไม่ใช่ทั้งหมดนะ นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว คุณยังมีคุณสมบัติในการเข้าร่วม 'อาณาจักรสวรรค์' เพื่อฝึกพลังยุทธ์อีกด้วย"

อู๋เป่ยถามต่อ "อาณาจักรสวรรค์ อาณาจักรสวรรค์ไหน?"

เถี่ยวซวนตอบ "โลกที่เราอาศัยอยู่นั้นแบ่งออกเป็นสามระดับ ชั้นบนสุดคืออาณาจักรสวรรค์ซึ่งเป็นดินแดนมิติสูง ความเร็วในการฝึกพลังยุทธ์นั้นเร็วและมีคุณภาพสูง แต่เราไม่สามารถเข้าไปในโลกพลังยุทธ์นั้นได้ คิดจะเข้าไปอะได้แต่คุณต้องเสียทรัพยากรมหาศาลและต้องมีค่ายกลที่สุดแห่งยุคถึงจะเข้าไปได้”

จู่ๆ อู๋เป่ยก็จำได้ว่าเมื่อตอนที่เขาเข้าสู่จักรวาล เขาเห็นว่าโลกถูกแบ่งออกเป็นสามชั้นจริงๆ

แล้วเขาก็พยักหน้า "ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณสหายเถี่ยวสำหรับคำชี้แนะ"

เถี่ยวซวนยิ้มแล้วพูดว่า "เราเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว เป็นเรื่องที่เพื่อนกันควรช่วยเหลือกันอยู่ละ"

เหลิงหยิน "อาจารย์อู๋ ตอนเย็นคุณพอจะมีเวลาไปดื่มกันหน่อยไหม?"

อู๋เป่ยกล่าว "ฉันมีธุระต่อ ไว้ไปกันวันหลังละกัน เอ้อใช่ ฉันมียาศักดิ์สิทธิ์สามวิเศษสองอันซึ่งจะช่วยส่งเสริมพลังให้คุณทั้งสอง"

เถี่ยวซวนและเหลิงหยินต่างก็ดีใจ "อาจารย์อู๋ ไหนๆ ก็รู้ว่าคุณรู้วิธีกาปรุงยา งั้นเราไม่เกรงใจละนะ!"

หลังจากส่งยาอายุวัฒนะไปแล้ว อู๋เป่ยก็กลับมาที่วัง

เมื่อพวกเขากลับมาที่ห้องโถงหลักอีกครั้ง ขณะนี้เหลือเพียงสี่คนอยู่ในห้องโถง รวมถึงจางเทียนเหิงและติงม่อ

จัวกงกงถามเขาว่า "อุปราชอู๋ ทำสำเร็จหรือเปล่า"

อู๋เป่ยหยิบตรายศออกมาแล้วพูด "นี่ ตำนานเก้าดาว"

จัวกงกงรับตรามาดูด้วยมือที่สั่นเทาและเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ตำนานเก้าดาว! พระเจ้า นี่มันเกินไปแล้ว ฝ่าบาทจะต้องแปลกใจถ้าเขารู้เรื่องนี้"

ติงม่อหัวเราะใหญ่ "ฮ่าฮ่า" "สหายสาม นายนี่มันร้ายกาจ! ตำนานเก้าดาวเลยเหรอวะ ในประวัติศาสตร์มีน้อยมากเลยหนิ?"

จัวกงกงกล่าว "แม้ว่าในประวัติศาสตร์จะมีเก้าดาวอยู่บ้าง แต่พวกเขาอยู่ที่ดินแดนถ้ำศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ก็วัดผลลัพธ์ได้หลังจากกลายเป็นโต้วเทียนเซียนจุน อุปราชอู๋ในปัจจุบันเป็นเพียงเซียนทัณฑ์สายฟ้าเท่านั้นเอง หากให้เวลาสักหน่อยก็จะกลายเป็นราชาศิลปะการต่อสู้ผู้สูงศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน!”

ติงม่อหัวใจเต้นแรง ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนขึ้น "ราชาศิลปะการต่อสู้ผู้สูงศักดิ์สิทธิ์! ฉันเคยอ่านนิทานเรื่องราชาศิลปะการต่อสู้ผู้สูงศักดิ์สิทธิ์แล้ว เขาสามารถสังหารเซียนเทพในอาณาจักรเซียนและท้าทายผู้เที่ยงแท้ได้!"

จัวกงกง "ถูกต้อง"

จัวกงกงส่งอู๋เป่ยออกนอกพระราชวังและบอกลาด้วยรอยยิ้ม "อู๋ผู้ยิ่งใหญ่ ตำแหน่งผู้ฝึกสอนของกองทัพต้องห้ามมีความสำคัญอย่างมาก ฝ่าบาทมอบตำแหน่งนี้ให้แก่ท่านแสดงถึงความไว้วางใจที่ฝ่าบาทมีให้"

อู๋เป่ย "อืม ฉันจะทำมันให้ดี และจะไม่ทำให้ฝ่าพระบาทผิดหวัง"

จัวกงกงกล่าว "อู๋ผู้ยิ่งใหญ่ โปรดทำธุระของท่านให้เสร็จก่อนและมาหาฉันเมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะพาคุณไปดำเนินเรื่องที่กองทัพต้องห้ามให้เสร็จสิ้น"

อู๋เป่ยกล่าว "ลำบากจัวกงกงแล้วสินะ"

หลังจากออกจากวังแล้ว อู๋เป่ยก็รออยู่แถวบริเวณนั้น ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาติงม่อก็มา เขาตรงมาหาอู๋เป่ยแล้วพูดว่า "สหายสาม ไปกันเถอะ ฉันจะพานายไปพบพี่ใหญ่"

เมื่อทั้งสองกลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานแล้วนั้น โจวหยวนทงพี่ใหญ่ร่วมสาบานคนก่อนของติงม่อก็ได้ร่วมสาบานด้วย

อู๋เป่ยถาม "พี่ใหญ่ อยู่แถวนี้เหรอ?"

ติงม่อพยักหน้า "ใช่แล้ว ตอนนี้เขาเป็นเซียนผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพหลงจิง ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้มีอำนาจอันสูงส่ง"

หลังจากพูดจบ เขาก็พูดกระซิบ "ฉันเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนว่าจริงๆ แล้วพี่ใหญ่คือต้าหลัวจินเซียนที่กลับชาติมาเกิด!"

อู๋เป่ยสะเทือนใจ เป็นการเกิดใหม่อีกครั้ง! เขารีบถาม "ใครคือตัวตนที่แท้จริงของพี่ใหญ่?"

ติงม่อตอบ "หลงฮัวเต้าจวิน!"

อู๋เป่ยกล่าว "ฉันจำได้ว่าพี่ใหญ่อยู่ในวังอวี้ซีไม่ใช่เหรอ?"

ติงม่อกล่าว "ไม่อยู่มานานแล้ว หลังจากที่พี่ใหญ่เป็นเซียนสวรรค์ เขาก็มีที่อยู่เป็นของตัวเอง"

เมื่อพูดจบ ทั้งสองก็เหาะไปที่คฤหาสน์ของเขา

ที่หน้าประตูคฤหาสน์ มีสัตว์ป่าโบราณสองตัวนั่งอยู่ ตัวแรกคือปี่เซี๊ยะและอีกตัวคือกิเลน ทั้งสองมีออร่าอันน่าสะพรึงกลัว

ทันทีที่ทั้งสองมาถึงประตูคฤหาสน์ก็เปิดออก มีเสียงร่าเริงดังมาแต่ไกล "พี่สหายสอง สหายสาม!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ