ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 160

อู๋เป่ยขับรถไปที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง จอดรถไว้ด้านใน จากนั้นก็เรียกรถกลับไปยังหยุนติงวิลล่า

หยุนติงวิลล่า เวลานี้ถังจื่อยี่รอย่างกระวนกระวายใจ เมื่อเห็นเขากลับมาอย่างปลอดภัย เธอก็รีบถามออกไปทันทีว่า “ทำไมถึงได้ไปนานขนาดนี้?”

อู๋เป่ยเล่าเหตุการณ์คร่าว ๆ ให้อีกฝ่ายฟัง เมื่อได้ยินว่าเฉินหย่งเจิ้นและสองเทพอมตะแห่งหลิงหนานตายแล้ว ถังจื่อยี่รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เธอพึมพำออกมาว่า “มันอันตรายมากเลย ฉันไม่ควรปล่อยให้พี่ทำแบบนั้น”

อู๋เป่ยตอบกลับมา “ต่อให้ฉันไม่ไป สองเทพอมตะแห่งหลิงหนานก็ลงมือกับฉันอยู่ดี และตอนนี้ปัญหาทั้งหมดก็ถูกคลี่คลาย”

ถังจื่อยี่สั่งให้คนรับใช้ไปเตรียมอาหารเย็น และกินข้าวร่วมกับเขา

เมื่อรับประทานอาหารจนอิ่ม อู๋เป่ยก็เริ่มฝึกวิชาหมัดและการดูดซับพลัง เขารู้สึกว่าพลังยุทธ์ของเขายังต่ำเกินไป ในอนาคตหากมีใครคิดจะเข้ามาแย่งพลังปราณมังกรม่วง เขาก็จำเป็นต้องเข้าไปเผชิญหน้ากับอันตรายเหล่านั้น!

จนกระทั่งถึงเวลาตีสี่ เขาถึงจะหยุดและทำการพักผ่อน

เวลานี้เขานำหยกทั้งสามก้อนออกมา ลองสังเกตดูสิ่งที่อยู่ด้านในอย่างละเอียด

มองผ่านชิ้นหยกบางเฉียบบนหินหยกที่มีคำและรูปภาพเขียนไว้อย่างฉะฉาน มีอักษรและรูปภาพสลักไว้ด้านในเป็นล้านคำ

ตัวอักษรบนหินหยกนี้ไม่ได้มาจากยุคนี้ แต่เขารู้จักมันเป็นอย่างดี เนื่องจากสิ่งที่สืบทอดมาจากจี้หยกก็มีอักษรที่เกี่ยวข้องกับอักษรเหล่านี้ เขาไม่เพียงอ่านออกเขียนได้เท่านั้น แต่เขายังรู้จักความหมายของมันด้วย

อักษรโบราณประเภทนี้มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก อักษรเพียงไม่กี่ตัวสามารถสร้างข้อความที่ซับซ้อนจนยากจะเข้าใจ ตัวอย่างเช่นอักษรที่เขียนอยู่ไม่กี่สิบตัวในหนึ่งประโยค หากแปลความหมายและเปลี่ยนเป็นยุคปัจจุบัน มันอาจจะต้องใช้คำมากกว่าร้อยคำถึงสามารถอธิบายจนเข้าใจได้

ยิ่งไปกว่านั้น ภาษานี้มีความก้าวหน้ามาก มันสามารถแสดงแนวคิดทางศิลปะบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายในภาษาสมัยใหม่ได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง

อักษรช่วงแรกของหินหยกถือเป็นการแนะนำ โดยระบุว่าหินหยกพวกนี้เป็นสารานุกรมขนาดใหญ่ที่รวบรวมโดยปรมาจารย์แห่งโลกเซียนจากทั่วทุกแขนง และบันทึกไว้ด้วยภาษาชั้นสูง รวบรวมตำรามาเขียนไว้มากกว่าร้อยเล่ม มันมีนามว่า “พงศาวดารว่านเซิงเซินโจว”

พงศาวดารว่านเซิงเซินโจวมีทั้งหมดเจ็ดส่วน และหินหยกที่อยู่ในมือเขาสามก้อนก็คือสามในเจ็ดส่วน หลังจากเปิดมันดูก็พบว่ามีเนื้อหาจำนวนมหาศาลถูกบันทึกไว้ด้านใน

สามส่วนที่อยู่ในมือของอู๋เป่ย แบ่งเป็นส่วนเซียน ส่วนพิเศษ ส่วนผสม ในส่วนของเซียน มันเป็นข้อมูลที่บันทึกเกี่ยวกับการบ่มเพาะของคนที่ชื่อเสียง วิชาเฉพาะตัว วรยุทธ์ต้านสวรรค์ คาถาอันทรงพลัง ฯลฯ มีแม้กระทั่งบางตำนานที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน มีอักษรมากมายเขียนอธิบายพร้อมภาพประกอบ

หากนำอักษรเหล่านี้มาแปลเป็นภาษาปัจจุบัน เกรงว่าอย่างน้อยคงต้องเพิ่มเข้าไปอีกสิบเท่าจึงจะสามารถอธิบายออกมาให้เข้าใจได้อย่างชัดเจน

อู๋เป่ยรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก โลกแห่งเซียนว่านเซิงเป็นโลกแบบไหนกันแน่? ตำนานที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงได้หายไปจากประวัติศาสตร์อันยาวนาน?

ส่วนที่ของคือส่วนพิเศษ มันเป็นการแนะนำเกี่ยวกับปีศาจ ความชั่วร้าย มาร สิ่งแปลกปลอม ร่วมถึงภาพลวงตาที่มองเห็น ตัวอักษรที่อธิบายก็มีจำนวนมาก รูปภาพก็มีประมาณหนึ่งล้านห้าแสนรูป

หินหยกชิ้นที่สามคือส่วนของการผสม มันเป็นสิ่งที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง มีเหตุผลของฟ้าดิน ดูดวง โหราศาสตร์และอื่น ๆ อีกมากมาย เขียนไว้อย่างไม่เป็นระเบียบ แต่สิ่งนี้สำหรับมรดกที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้ ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด

การสืบทอดของจี้หยกนั้นหลากหลายจนไร้ขอบเขต แต่ละเรื่องมีข้อมูลค่อนข้างจำกัด ตัวอย่างเช่นวิชาแพทย์ วรยุทธ์ และวรยุทธ์ก็อยู่ในขอบเขตของเคล็ดวิชาเทียนตี้ซวนหวง และวิชาแพทย์ก็ดูเหมือนจะสร้างขึ้นมาจากผู้อาวุโสจำนวนไม่กี่คน

เมื่อเทียบกันแล้ว พงศาวดารว่านเซิงเซินโจวพวกนี้มีความละเอียดและซับซ้อนมากกว่า สำหรับเขาแล้วมันมีประโยชน์เป็นอย่างมาก

เช่นในเรื่องของ ศิลปะการต่อสู้วิชาเซียนเป็นต้น มีบันทึกมากมายเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ตัวอย่างเช่นวิชาการสืบทอดทางร่างกายของหยางมู่ไป๋ มีบันทึกที่คล้ายกันในส่วนของเซียน และมีมากถึงเจ็ดประเภท ซึ่งแต่ละประเภทล้วนก้าวหน้าและแข็งแกร่งว่าที่เขาเคยร่ำเรียน!

แต่หินหยกแต่ละก้อนมีจำนวนตัวอักษรที่มากเกินไป เขาไม่สามารถอ่านมันหมดได้ในระยะเวลาอันสั่น ทำได้เพียงศึกษาอ่านดูคร่าว ๆ เพื่อทำความเข้าใจว่ามันเขียนถึงอะไร

เขาสาละวนอยู่กับการศึกษาหินหยก เพียงพริบตาเดียว ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นจากขอบฟ้า

เขาขยี้ตา บิดขี้เกียจ ลุกขึ้นและเดินออกไปด้านนอก

ในสวนดอกไม้ ถังจื่อยี่กำลังออกกำลังกาย เธอสวมชุดกีฬากางเกงขาสั้นสีชมพูและรองเท้ากีฬาสีขาว รูปร่างของเธอสมบูรณ์ เนินอกชัดเจน มัดผมหางม้าไว้ด้านหลัง

ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน ถังจื่อยี่ถอดหูฟังของเธอออก ยิ้มพร้อมพูดว่า “สวัสดียามเช้า”

อู๋เป่ยจับมือของเธอ ยิ้มพร้อมกับตอบกลับไปว่า “วิ่งไปก็ไม่เกิดประโยชน์สักเท่าไหร่ ฉันจะสอนเธอเองว่าควรออกกำลังกายอย่างไร ผลลัพธ์ของมันดีกว่าวิ่งเป็นร้อยเท่า”

ดวงตาของถังจื่อยี่เป็นประกาย “จริงเหรอ? พี่รีบสอนฉันเร็ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ