ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 163

ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างตื่นตระหนกตกใจกันเป็นแถว อะไรนะ? หยุดการจัดส่งสินค้าให้ตระกูลจินอย่างนั้นหรือ?

จินหย่งลี่ยืนมึนอยู่ในที่เกิดเหตุ พอเขานึกถึงผลที่จะตามมา สีหน้าของเขาก็ซีดเผือดขึ้นมาทันที เขาพูดว่า “นายท่านหู่ คุณอย่าพึ่งโกรธ ผมแค่….”

“ไสหัวไป! กูไม่อยากเห็นหน้ามึง” เซียไท่หู่ตวาดด่าต่อ

จินหย่งลี่ปล่อยโฮทันที ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? นี่คือฝันร้ายใช่ไหม?

เขารู้ได้อย่างไรว่า เซียไท่หู่กับอู๋เป่ยไม่ถูกกัน และเขายังจะไปพม่าเพื่อหาวัตถุดิบอีกด้วย แถมยังจะให้เซียนพนันแร่อย่างอู๋เป่ยช่วยเหลืออีก เมื่อเทียบกันแล้ว ตระกูลจินไม่มีค่าพอที่จะกล่าวถึงเลยสักนิด! จะว่าไป หากเขาทำให้อู๋เป่ยไม่พอใจ เขาคงต้องทุกข์ทรมานในรูปแบบที่ตายเสียดีกว่าอยู่ซะอีกนะ

และที่สำคัญที่สุดคือ เซียไท่หู่เป็นคนที่รู้ข่าวคราวดีที่สุด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาคอยสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับอู๋เป่ยมาโดยตลอด เพื่อนของเขาคนหนึ่งเผอิญว่าเป็นคนใกล้ชิดของหยางมู่ไป๋ มีโอกาสได้พบเจอกับอู๋เป่ยอยู่สองครั้ง ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าอู๋เป่ยเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกันกับหยางมู่ไป๋!

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ คนของเฉินเทียนเจียวล่วงเกินอู๋เป่ยจนได้รับความเดือดร้อน ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายถูกฆ่าตาย และมีปรมาจารย์จำนวนไม่น้อยที่ต้องตายอยู่ในเมืองหมิงหยาง ว่ากันว่าแม้แต่หัวหน้าอย่างเฉินเทียนเจียวยังได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องหนีตายไปเลยด้วยซ้ำ

เรื่องนี้ ทำให้เขารู้สึกหวาดวิตกเป็นอย่างมาก เขาเองเป็นคนฉลาด แน่นอนว่าคงไม่กล้าที่จะล่วงเกินอู๋เป่ย แม้จะต้องยอมแลกกับการมองหน้าตระกูลจินไม่ติดก็ตาม

“พี่ไท่หู่ ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้ วันหลังผมจะไปชายแดนใต้ แล้วพวกเราค่อยคุยละเอียดเรื่องนี้กันอีกที” อู๋เป่ยกล่าว

เซียไท่หู่รีบตอบกลับไปว่า “ตกลง ผมจะรอคอยการมาของนายท่านอู๋ครับ”

อู๋เป่ยวางสายวิดีโอคอลลง และมองไปที่จินหย่งลี่ที่กำลังยืนบื้ออยู่ พร้อมกับพูดอย่างเรียบเฉยว่า “จินหย่งลี่ คุณแพ้แล้ว”

จินหย่งลี่จ้องมองอู๋เป่ยด้วยความแค้น และพูดว่า “เด็กน้อย ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกใช้วิธีอะไรหลอกล่อให้เซียไท่หู่เกิดความสับสน แต่ฉันรับรองว่าเรื่องนี้มันจบไม่สวยแน่นอน!”

อู๋เป่ยเลิ่กคิ้วและตอบไปว่า “ถ้าคุณคิดจะสู้ ฉันก็จะสู้เป็นเพื่อน แต่คุณต้องโอนหุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของคุณออกมาก่อน”

จินหย่งลี่ถอนใจใส่ “โอนหุ้นให้แกรึ? ฉันต้องทำตามที่แกบอกอย่างนั้นด้วยหรือ?”

บรรดาผู้คนต่างพากันส่ายหัว จินหย่งลี่ผู้นี้ เชื่อถือคำพูดไม่ได้เลยสักนิด ทำให้ทุกคนต่างพากันผิดหวังและรู้สึกว่าเขานิสัยแย่เกินไปแล้วจริงๆ

อู๋เป่ยพูดอย่างเย็นชาไปว่า “คุณไม่โอนก็ไม่เป็นไร แต่นับจากนี้เป็นต้นไป เซียไท่หู่จะไม่ส่งมอบมรกตให้กับตระกูลจินของเธออีกแม้แต่เพียงชิ้นเดียว นอกจากนี้ ผมยังสามารถสั่งให้เขาแบนตระกูลจินได้อีกด้วย ใครก็ตามที่กล้าซื้อมรกตจากตระกูลจิน ก็อย่าหวังจะได้สินค้าจากชายแดนใต้อีก”

“แก...” จินหย่งลี่โกรธจนตัวสั่น ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ หล่ะก็ ตระกูลจินคงต้องถึงจุดอวสานแน่ๆ!

อู๋เป่ยจ้องมองเขา “ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองดู เมื่อถึงเวลานั้น หากคุณคิดจะกลับมาอ้อนวอนผมอีกหล่ะก็ สิ่งที่คุณต้องจ่ายให้ผม มันจะไม่ใช่แค่ราคาหุ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้นแน่”

จินหย่งลี่เริ่มลนลาน เมื่อดูจากท่าทีที่เซียไท่หู่มีต่ออู๋เป่ยแล้ว ดูเหมือนว่าอู๋เป่ยจะไม่ได้โกหกเขา แต่สิทธิหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของผู้ถือหุ้นนั้น มันมีมูลค่าหลายหมื่นล้านเชียวนะ แล้วจะไปยกให้เขาเปล่าๆ ได้ยังไงเล่า?

อู๋เป่ยพูดต่ออย่างเรียบเฉยว่า “คุณออกไปคิดให้ดีๆ ก่อนจบการประชุมหากคุณยังไม่ยอมโอนหุ้นอีกหล่ะก็ ผมรับรองว่าคุณจะต้องเสียใจแน่นอน”

ตอนนี้จินหย่งลี่ตกใจกลัวจนสติไม่อยู่กับตัว เขาเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยท่าทางขวัญหนีดีฝ่อ เขาต้องการติดต่อกับคนในครอบครัวของเขา เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาตัดสินใจด้วยตัวเองคนเดียวไม่ได้!

เมื่อจินหย่งลี่เดินออกไปแล้ว การประชุมก็ดำเนินต่อไป

ในเวลานี้ สายตาของทุกคนที่จับจ้องไปที่อู๋เป่ยนั้น แตกต่างจากเดิมไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาล้วนรู้สึกว่าอู๋เป่ยเป็นคนลึกลับแถมยังทรงพลัง เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน!

ถังหมิงฮุยหัวเราะ “ฮ่าฮ่า” เขาดูอารมณ์ดีเป็นที่สุดและพูดว่า “เรื่องมรกต ตอนนี้ขอให้ทุกท่านร่วมกันโหวตด้วยครับ หากใครคิดเห็นว่าสามารถทำได้ ขอให้ยกมือขึ้น”

ทันใดนั้น กรรมการสิบคนนอกจากตระกูลถังกับอู๋เป่ยแล้ว ล้วนต่างพากันยกมือโหวต ถือว่ามติข้อที่หนึ่งความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์

จากนั้น ทุกคนต่างเริ่มการโหวตในหัวข้อมติที่สอง เสนอการสร้างศูนย์กลางการค้าอักษรภาพ และนั้นก็ได้รับการอนุมัติด้วยเช่นกัน

ถังฉือลู่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากจนยิ้มไม่หุบ เช่นนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกชอบพออู๋เป่ยมากขึ้นไปอีก

ช่วงครึ่งหลังของการประชุม ผู้คนต่างกรูกันเข้ามาให้อู๋เป่ยช่วยตรวจดูสุขภาพร่างกายของตนว่าปกติดีหรือไม่ แค่ดูเฉยๆ ไม่ซีเรียส ผู้คนที่นั่งอยู่สิบกว่าคนนั้น มากกว่าครึ่งต่างมีปัญหาด้านสุขภาพมากน้อยแตกต่างกันออกไป ส่วนคนที่เหลือมีบ้างที่มีปัญหาสุขภาพเล็กๆ น้อยๆ อู๋เป่ยเองได้ทำการชี้แนะและให้คำแนะนำไปแล้ว

เขาพูดได้อย่างถูกต้อง ผู้คนต่างพากันตื่นเต้นประหลาดใจและต่างพากันเลื่อมใส พวกเขาแลกข้อมูลการติดต่อกันไว้ และหวังว่าจะได้พูดคุยกับอู๋เป่ยอีกในอนาคต

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ