เพียงมีขั้นจิตศักดิ์สิทธิ์ อู่เป่ยยังคงรักษาสถานะนี้ให้มั่นคงนี้ไว้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดวิหารศักดิ์สิทธิ์ในภายหลัง
อู๋เป่ยรู้สึกได้ว่าการเปิดวิหารศักดิ์สิทธิ์และการเปิดดินแดนหลิงไท่นั้น แท้ที่จริงแล้วก็มีผลลัพธ์แบบเดียวกัน ต่างไปก็แค่วิธีการ เพียงเล็กน้อย จากนี้เมื่อเขาเปิดวิหารก็จะอิงตามรากฐานของถ้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วย
ฉันสามารถเปิดวิหารศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนแห่งการเริ่มต้นหรือไม่? ในใจของเขาเริ่มคิดถึงการผสมผสานที่เหมาะสมที่สุดของวิธีการฝึกฝนทั้งสองวิธี
ถึงอย่างไร ทันทีที่เขารวมเอาความเป็นขั้นจิตศักดิ์สิทธิ์เข้าด้วยกัน ในใจของเขาก็รู้สึกตึงเครียด หัวใจเต้นระรัว และเขาก็พูดกับตัวเองว่า: "ด่านเคราะห์สวรรค์ครั้งยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึงแล้ว!"
ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางการฝึกฝนแบบไหน ยิ่งความแข็งแกร่งของคุณมากขึ้น วิธีการไม่เป็นธรรมชาติมากเท่าไร ภัยพิบัติที่คุณจะต้องเผชิญก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น ด่านเคราะห์สวรรค์ที่อู๋เป่ยกำลังจะเผชิญอยู่ตอนนี้ น่ากลัวยิ่งกว่าด่านเคราะห์สวรรค์ครั้งใหญ่ที่หลัวจวินเผชิญเสียอีก
“ด่านเคราะห์สวรรค์กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ ฉันไม่รู้ว่ามันจะรุนแรงขนาดไหน ฉันจะต้องเตรียมตัวล่วงหน้า!”
แม้ว่าคุณสมบัติของเขาจะน่าทึ่งขนาดไหน แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็เทียบเท่ากับความแข็งแกร่งของราชาเทพเจ้า! ยิ่งเรื่องนี้เกิดขึ้น ด่านเคราะห์สวรรค์ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้น แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาจะเผชิญกับด่านเคราะห์แบบไหน
“ด่านเคราะห์สวรรค์อาจทำให้ฉันสูญเสียความทรงจำชั่วคราว หรือแม้แต่การฝึกฝน กระบวนการนี้อันตรายกว่าด่านเคราะห์สวรรค์ในสังสารวัฏครั้งก่อนเสียอีก ” เขาพูดกับตัวเองว่า “ฉันต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ ”
สถานการณ์ในปัจจุบัน จักรวรรดิเทียนหวู่ขาดเขาไปไม่ได้ หากเขาหายไปช่วงหนึ่ง หรือความแข็งแกร่งของเขาลดลง จักรวรรดิเทียนหวู่จะเผชิญกับปัญหาทั้งภายในและภายนอก เขาจำเป็นต้องวางแผนล่วงหน้า แม้ว่าเขาจะโดนภัยพิบัติจนสลายเป็นเถ้าถ่าน แต่ครอบครัวของเขาก็ยังต้องสามารถอยู่อย่างสงบสุขโดยไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากเขาได้
“ดูท่าแล้ว คงต้องปรับความแข็งแกร่งของผู้คนรอบข้างให้ได้เณ้วที่สุด” เขาพูดกับตัวเอง
เขาพบเถาหรูเสวี่ย เถาหรูเสวี่ยเป็นนางสนมของจักรพรรดิในพระราชวัง อู๋เป่ยยังไม่ถึง เจ้าหน้าที่วังจึงมาแจ้งก่อน
เถาหรูเสวี่ยกำลังฝึกซ้อม เมื่อเธอได้ยินว่าอู๋เป่ยกำลังมา เธอก็รีบทักทายเขาที่ประตู เมื่อเธอเห็นเขา เธอก็พูดด้วยความโกรธเคียงว่า : "การจะพบคุณตอนนี้ ยากกว่าการพบจักรพรรดิเสียอีก"
อู๋เป่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ: "ฉันไม่ใช่จักรพรรดิงั้นหรือ?"
เมื่อมาถึงพระราชวัง อู๋เป่ยก็กล่าวว่า: "หรูเสวี่ย หลังจากนี้ไม่นาน ฉันอาจต้องประสบกับด่านเคราะห์สวรรค์ที่อันตราย ฉันก็ไม่สามารถคาดเดาถึงผลที่จะตามมาได้"
เถาหรูเสวี่ยตกใจ: "งั้นทำอย่างไรดี? คุณต้องการให้ฉันทำอะไร?"
อู๋เป่ยยิ้มแล้วกล่าวว่า "เธอไม่ต้องกลัวกลัว ฉันมาที่นี่ก็เพื่อเอาของบางอย่างให้กับเธอ" หลังจากกล่าวเช่นนั้น เขาก็หยิบชุดเกราะเซียนนิรันดร์ออกมาชิ้นหนึ่ง
เมื่อเห็นชุดเกราะเซียนนิรันดร์อันสง่างาม เถาหรูเสวี่ยก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า "ชุดเกราะชุดนี้มีกลิ่นอายแข็งแกร่งมาก ให้ฉันงั้นหรือ?"
อู๋เป่ยกล่าวว่า : "เมื่อสวมมัน เธอจะมีความแข็งแกร่งระดับมรรคาจารย์ หากมีปัญหาในจักรวรรดิเทียนหวู่ตอนที่ฉันไม่อยู่เธอก็สวมชุดเกราะนี้เพื่อจัดการปัญหาได้"
รอยยิ้มของเถาหรูเสวี่ยค่อย ๆ จางหายไป: "ซวนเป่ย มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?"
อู๋เป่ย : "เตรียมตัวเพื่อรับเรื่องที่เลวร้ายที่สุด ยิ่งกว่านั้น ฉันจะมอบแมลงชีวิตให้เธอด้วย ปล่อยให้มันเป็นจุดเปลี่ยนเก้าชีวิตเพื่อปรับปรุงศักยภาพของเธอ"
เถาหรูเสวี่ยดีใจมาก: "เสี่ยวเสิน หลังจากจุดเปลี่ยนเก้าชีวิตแล้ว คุณจะเปลี่ยนเป็นอะไร?"
เสี่ยวเสิน: "ข้ารู้สึกว่าข้าจะเปลี่ยนไปมีร่างกายที่ทรงพลัง จากนั้นก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้านายของข้า"
อู๋เป่ย: "จากการสังเกตของฉันแล้ว หลังจากจุดเปลี่ยนเก้าชีวิตแล้ว อย่างน้อยเสี่ยวเสินก็สามารถพัฒนาการฝึกฝนของเธอให้เป็นระดับระดับเต้าจวิน ยิ่งกว่านั้น ความแข็งแกร่งของเธฮจะเกินจากระดับระดับเต้าจวินทั่ว ๆ ไปมาก แม้ว่า เธอจะพบกับระดับมรรคาจารย์ แต่เธอก็จะปะมือกับเขาได้"
เถาหรูเสวี่ย: "สุดยอดไปเลย!"
วินาทีต่อมา เสี่ยวเสินก็เข้าไปในร่างของเถาหรูเสวี่ย
เถาหรูเสวี่ยกอดอู๋เป่ยไว้ด้วยความกังวล: "คุณฉลาดมาก คุณคิดวิธีรับมือกับผลกระทบไม่ได้อย่างงั้นหรือ?"
หงส์เพลิงน้อยยิ้มและพูดว่า "คุณพ่อคิดถึงลูกไหม?"
อู๋เป่ยพูดอย่างจริงจัง: "หงส์เพลิงน้อย พ่ออาจประสบปัญหาไปซักระยะหนึ่ง และเมื่อถึงเวลานั้น พ่ออาจไม่สามารถดูแลครอบครัวของพ่อได้ หวังว่าเมื่อพ่อไม่อยู่ ลูกจะสามารถปกป้องครอบครัวของพ่อและรักษาธรรมเนียมของจักรวรรดิเทียนหวู่ได้”
ทันใดนั้นเอง ใบหน้าเล็ก ๆ ของหงส์เพลิงน้อยก็จริงจังขึ้น : "คุณพ่อ งั้นลูกจะต้องเชื่อฟังใคร?"
อู๋เป่ย: "ฟังเจ้ใหญ่ของลูกนะ"
เจ้ใหญ่ที่เรียกว่าหมายถึงถังจื่อยี่
หงส์เพลิงน้อยยิ้มและพูดว่า "ได้ ลูกจะฟังที่เจ้ใหญ่พูด!"
หลังจากเตรียมการหงส์เพลิงน้อยแล้ว อู๋เป่ยก็มาพบเทพเจ้าแห่งหิมะอีกครั้ง และแน่นอนว่ามีการเตรียมการอื่นเกิดขึ้นอีก
จากนั้นเขาก็มองไปในระยะไกลแล้วพูดกับตัวเองว่า: "ไม่รู้ว่าสี๋เป่าเป็นอย่างไรบ้าง จะได้รับการถ่ายทอดมาบ้างแล้วยังนะ"
ในที่สุดหลี่เหมยก็คลอด เธอให้กำเนิดลูกสาวคนหนึ่งกับอู๋เป่ย ตอนที่เพิ่งคลอดเธอกอดลูกท้อและแทะมันด้วย ชื่อเล่นของเธอคือซิงเอ๋อร์ และชื่อจริงของเธอคือหลี่ฉุนฉุน
ทันทีที่เจ้าตัวเล็กเกิดออกมา เธอก็กลายเป็นที่รักของทุกคน แม้แต่ติงเอ่อร์, เขอเอ่อร์ สุ่ยเซิง พี่สาวพี่ชายเหล่านี้ก็รายล้อมเจ้าตัวน้อยเอาไว้
ลูกสาวของจักรพรรดิกำเนิด ทุกคนก็เฉลิมฉลอง อู๋เป่ยให้การนิรโทษกรรมแก่ทั่วหล้า และสั่งให้จัดงานเลี้ยงสายน้ำในโรงแรมทุกแห่ง ผู้คนในทั่วหล้าต่างก็ท่องเที่ยวกันตามสบายอารมณ์ทั้งสามวันสามคืน
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ละครอบครัวยังได้รับเงินวิญญาณสิบก้อน ผ้าเนื้อดีสี่ชิ้น ทั่วหหล้าต่างก็พากันชื่นชมยินดีในพระมหากรุณาธิคุณขององค์จักรพรรดิ์
หลังจากที่ซิงเอ๋อร์เกิด อู๋เป่ยก็เรียกฉยงฉี มังกรเหลืองน้อย กิเลนดำ และ จูหลงมาอยู่ข้างกาย และบอกให้พวกมันให้ดูแลทารกให้ดี ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม ดูแลความปลอดภัยของนายน้อยให้ดี!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...