ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 175

บนกระดานหมากรุก มีหมากสีดำและสีขาววางอยู่สองฝั่ง ตำแหน่งการจัดวางของหมาก เหมือนกับกระดานหมากล้อม แต่ก็ไม่เหมือนกันเลยซะทีเดียว

หยางมู่ไป๋หัวเราะและพูดว่า “กาน้ำชานี้สวยจัง...”

เขาเอื้อมมือจะไปหยิบ แต่ถูกอู๋เป่ยห้ามปรามเอาไว้ “ศิษย์พี่ อย่าจับ!”

หยางมู่ไป๋ตกใจ “ศิษย์น้อง มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรือ?”

อู๋เป่ยหยิบหมากสีขาวออกมาจากกล่องหมากรุกที่อยู่ข้างๆ และวางลงบนกระดานหมากรุก ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียง “แก๊ก” จากนั้นกระดานหมากรุกก็แยกออกจากกัน ทำให้เห็นกระปุกเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามืออยู่ที่ด้านล่าง กระปุกนั้นถูกปิดฝาเอาไว้ แต่เขาก็ยังเห็นว่า ในกระปุกนั้นมีก้อนหินโปร่งแสงห้าก้อน และพวกมันกำลังปล่อยคลื่นพลังงานประหลาดบางอย่างออกมา

เขาใช้มือทั้งสองโอบกระปุกใบนั้นออกมา และวางไว้ในอ้อมแขน จากนั้นจึงกดที่กระดานหมากรุกอีกครั้ง กระดานหมากรุกนั้นก็ค่อยๆ เคลื่อนประกบเข้าหากันดังเดิม

หยางมู่ไป๋ยกนิ้วโป้งให้ “ศิษย์น้อง สมกับที่เป็นปรมาจารย์เสียจริงๆ”

อู๋เป่ยหัวเราะ “ศิษย์พี่ ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ”

หยางมู่ไป๋พยักหน้า พร้อมกับเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเข้ามา และให้พวกเขาตรวจนับและทำการถ่ายรูปที่เกิดเหตุ ส่วนเขาก็ลากอู๋เป่ยออกไปด้านนอก

เขาพูดว่า “ศิษย์น้อง ของพวกนี้พวกเรามาแบ่งกันคนละครึ่ง เธอเลือกก่อนเลย”

อู๋เป่ยตอบ “ดูเหมือนท่านอาจารย์จะชอบร่มคันนั้น จริงๆ แล้วแผ่นหยกด้านบนมันดูมีค่ามากกว่า มันน่าจะเป็นแผ่นชนวนชนิดหนึ่ง เพื่อใช้ในการสร้างพละกำลังอันร้ายกาจ”

แววตาของหยางมู่ไป๋ดูเป็นประกาย “จริงหรือ? งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ ร่มกับแผ่นหยกฉันขอ ส่วนที่เหลือ ยกให้เป็นของศิษย์น้องทั้งหมด”

อู๋เป่ยตอบ “ตกลง”

เขาหยิบยาอายุวัฒนะไปหนึ่งเม็ด พร้อมกับกระปุกเล็กๆ อีกหนึ่งใบ ซึ่งของที่อยู่ด้านในนั้นชัดเจนอยู่แล้วว่ามันไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไป

หลังจากถ่ายรูปเสร็จ อู๋เป่ยกับหยางมู่ไป๋ก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง และหยิบร่มกับแผ่นหยกออกมา ส่วนที่เหลือนั้นจะทำการส่งมอบทั้งหมด

ในเวลานี้ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็เดินทางมาถึง และทำการตรวจนับรายการสิ่งของ ส่วนหยางมู่ไป๋กับอู๋เป่ยทั้งคู่เดินทางออกจากที่แห่งนั้นไป

“ศิษย์น้อง พี่จะต้องกลับปักกิ่งในเช้านี้ ได้ยินท่านอาจารย์บอกมาว่า เธอเองก็จะไปเทียนจิงอย่างนั้นหรือ?” เขาถามอู๋เป่ย

“ครับ ศิษย์พี่ ถ้าสะดวกหล่ะก็ ให้ฉันไปด้วยได้ไหม”

“ได้สิ เที่ยวบินเก้าโมงเช้า ฉันจะส่งคนไปรับเธอนะ”

อู๋เป่ยเดินทางกลับบ้านไปก่อน เขาเปิดกระปุกนั้นออก และพบว่ามีหินผลึกใสห้าก้อน สามก้อนเป็นสีแดง และอีกสองก้อนเป็นสีเขียว

“หินวิเศษ!” เขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

มีคำแนะนำเกี่ยวกับอิฐหยกที่เกี่ยวข้องว่า หินแห่งจิตวิญญาณนี้ถูกกลั่นโดยนักพรตเทวดา มันจึงมีพลังเซียนแฝงอยู่ในตัว แต่อย่างไรซะ หินวิเศษก้อนนี้จะดูดซับพลังเซียนได้เฉพาะในเขตสวรรค์เท่านั้น มิเช่นนั้นมันจะระเบิดและแตกสลายหายไป

“ของสิ่งนี้เป็นสิ่งของสำหรับบนสรวงสวรรค์เท่านั้น เป็นของล้ำค่าในปฐพีนี้!” อู๋เป่ยทั้งรู้สึกประหลาดใจและดีใจ

เขาเปิดขวดออก ในขวดมียาอายุวัฒนะสีเหลืองนวลขนาดเท่าองุ่นอยู่หนึ่งเม็ด มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกมา เขาดมดู และพูดว่า “เหมือนว่าจะเป็น...ยาปลามังกร?”

เรื่องยาอายุวัฒนะ เขาเห็นมาจากอิฐหยก ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรนัก เพียงแค่รู้สึกว่ามันคล้ายกับยาอายุวัฒนะเท่านั้น

“ช่างเหอะ กลับมาแล้วค่อยศึกษาอีกทีก็แล้วกัน” เขานำยาอายุวัฒนะ พร้อมกับกระปุกวางไว้ภายในบ้าน จากนั้นจึงเตรียมคางคกสามขา และเซว้จือ ติดตัวไปเทียนจิงเพื่อช่วยชีวิตเง็กเซียนผู้นั้น

เซว้จือนี้มีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลังวังชา ส่วนคางคกสามขานั้นเป็นยาเทวดารักษาสารพัดโรค เมื่อมีตัวยาทั้งสองชนิดนี้แล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายจะบาดเจ็บสาหัสขนาดไหน เขาก็มั่นใจว่าจะสามารถรักษาให้หายดีจนได้

หลังจากนั้นไม่นาน รถที่หยางมู่ไป๋จัดเตรียมไว้ก็มาถึง เขานั่งรถจนมาถึงลานจอดเครื่องบิน จากนั้นก็โดยสารเครื่องบินลำเล็ก บินตรงสู่เทียนจิง

บนเครื่องบิน อู๋เป่ยถามชื่อของเง็กเซียนผู้นั้น หยางมู่ไป๋บอกว่า อีกฝ่ายมีนามว่า จ้าวหวังซุน เป็นเง็กเซียนในสมัยราชวงศ์ชิง

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวจ้าวหวังซุนมีความคิดที่หนักแน่นมาก เพื่อดูแลครอบครัวของเขา เขาหลบหนีจากทางโลกไป จนกระทั่งลูกเมียของเขาตาย เขาถึงยอมออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นรุกรานเข้ามานั้น จ้าวหวังซุนใช้ดาบเพียงเล่มเดียวแต่สังหารทหารญี่ปุ่นไปจำนวนนับไม่ถ้วน สร้างความตกตะลึงให้กับทั้งสองประเทศเป็นอย่างมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ