จือโหยว :“คุณชาย ข้ากลับรู้สึกว่า ลิ่วเหย่ท่านนี้ไม่ได้มาหาเรื่อง ข้าได้ยินมาว่า ลิ่วเหย่เป็นคนอัธยาศัยดี และชอบผูกมิตรกับผู้แข็งแกร่งในโลกนี้ และเขาก็เคารพและนับถือนักปรุงยาในสังกัดมากเช่นกัน เขาคงได้ยินมาว่ามีราชานักปรุงยาอยู่ที่นี่ จึงอยากเข้ามาดูเท่านั้น”
อู๋เป่ยพูดว่า :“ไม่ว่าเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร ก็ไม่ต้องกังวลไป และทำพิธีเปิดร้านในวันนี้ให้เสร็จสิ้น”
ในขณะนี้เอง อู๋เป่ยก็สังเกตเห็นคนหลายคนรายล้อมอยู่รอบๆเถาหรูเสวี่ย เขาก็เดินเข้าไปทันที และเห็นคุณชายท่านหนึ่งในหมู่คนเหล่านั้นยิ้มให้เถาหรูเสวี่ย แล้วพูดว่า :“แม่นางช่างงดงามจริงๆ ไม่ทราบว่าแต่งงานหรือยัง?”
เถาหรูเสวี่ยพูดด้วยใบหน้าเย็นชาว่า :“คุณชายท่านนี้ สามีของข้าก็คือเจ้าของร้านราชานักปรุงยา โปรดสำรวมกิริยาด้วย!”
“สำรวมกิริยา? ตอนนี้ข้าสำรวมกิริยามาก” ขณะที่พูด เขาก็ยื่นมือมาแล้วกดบนหัวไล่ของเถาหรูเสวี่ย
ใบหน้าของเถาหรูเสวี่ยหมองหม่น และด้วยการโบกมือของเธอ คุณชายท่านนั้นก็กระเด็นออกไปไกลหลายเมตร และกระแทกลงบนพื้น หลายคนที่เดินทางมาด้วยพูดด้วยความโกรธว่า :“ถ้าเจ้ากล้าโจมตีคุณชายติงของเรา ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่อยากจะเปิดร้านยานี้แล้ว!”
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ อู๋เป่ยก็รู้ว่าเป็นอีกคนที่มาก่อกวน เขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า :“ถ้าแขกที่มาวันนี้มาเพื่อแสดงความยินดี ข้าร้านราชานักปรุงยาก็จะต้อนรับขับสู้อย่างดี แต่ถ้าหากว่ามาก่อกวน ก็อย่ากล่าวหาหากข้าลงมือ!”
“โอหังยิ่งนัก! เจ้าลงมือแล้วยังไง?”
ในเวลานี้ ลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ลงมา ผู้แข็งแกร่งระดับมรรคาจารย์ท่านหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดอย่างเย็นชาว่า :“ใครเป็นคนทำร้ายหลานชายของข้า รนหาที่ตาย!”
ทันทีที่สิ้นเสียงพูด พลังเวทขนาดใหญ่ก็รวมตัวกันเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่และกดลงมา ฝ่ามือพลังเวทขนาดใหญ่นั้น ประกอบด้วยอักขระยันต์จำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งประกอบด้วยค่ายกลการสังหารสิบรูปแบบ และค่ายกลการปราบปรามห้ารูปแบบ ทักษะเช่นนี้ไม่ใช่ครรคาจารย์ธรรมดาทั้งไปสามารถใช้ได้อย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าฝ่ามือขนาดใหญ่กำลังกดลงมา อู๋เป่ยก็กำลังจะลงมือ แต่กลับมีดอกบัวขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ดอกบัวเปล่งแสงประกาย สกัดฝ่ามือขนาดใหญ่นั้นไว้กลางอากาศจนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
มรรคาจารย์ท่านนั้น สวมชุดคลุมสีแดง และสวมมงกุฎสีม่วงบนหัว ดูเป็นชายวัยกลางคน ที่มีหนวดเคราขาวยาว เขาหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า :“ใครต้องการต่อต้านและข้ามรรคาจารย์เมี่ยเจวี๋ย?”
“อะไรนะ! เขาคือมรรคาจารย์เมี่ยเจวี๋ย!” มีคนอุทาน
มีบางคนไม่รู้จัก จึงถามว่า :“มรรคาจารย์เมี่ยเจวี๋ยคือใคร?”
“อายุของมรรคาจารย์เมี่ยเจวี๋ยนั้นไม่มาก เขาคือผู้แข็งแกร่งที่เดินออกมาจาก‘สุสานเซียน’ เมื่อตอนที่เขายังเป็นเต้าจวิน ก็ได้สังหารมรรคาจารย์ไปหลายคน ตอนนี้เขาได้เลื่อนขั้นเป็นมรรคาจารย์ ความแข็งแกร่งของเขาก็น่ากลัวยิ่งกว่าตอนนั้น เกรงว่ามรรคาจารย์ทั่วไปก็ไม่ใช่ศัตรูของเขา!”
“สุสานเซียนคือสถานที่ใด คนที่ออกมาจากที่นั่นแข็งแกร่งมากเลยเหรอ?”
“สุสานเซียนคือสถานที่แห่งหนึ่งที่ต้าเทียนจุนใช้ฝึกฝนผู้แข็งแกร่ง แต่อัตราการตายในการเข้าสู่สุสานเซียนนั้นสูงมาก ว่ากันว่านับตั้งแต่มีสุสานเซียน มีคนที่เดินออกมาจากที่นั่นไม่เกินหนึ่งร้อยคน”
ทุกคนที่ได้ยินต่างก็อ้าปากค้าง :“น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ไม่เช่นนั้น คนที่เดินออกมาจากที่นั่นจะถูกเรียกว่าผู้แข็งแกร่งได้อย่างไร?”
ทันใดนั้น ก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังแท่นดอกบัว ซึ่งก็คือไท่ฮวาเต้าจุน ในเวลานี้พลังยุทธ์ของไท่ฮวาเต้าจุนได้ฟื้นคืนแล้ว และขณะนี้เขาคือผู้แข็งแกร่งระดับปรมาจารย์ที่ทรงพลัง!
รูปร่างหน้าตาของไท่ฮวาเต้าจุนนั้นไม่มีใครเทียบได้ ปลดปล่อยรัศมีของมหาจักรพรรดิผู้สูงศักดิ์ ทุกคนต่างก็ตกตะลึงอีกครั้ง
ไท่ฮวาเต้าจุนพูดอย่างใจเย็นว่า :“ไปจากที่นี่ ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องสังหารเจ้า!”
“โอ้พระเจ้า! เต้าจุนมาอีกท่านหนึ่งแล้ว!”
เมื่อมรรคาจารย์เมี่ยเจวี๋ยเห็นไท่ฮวาเต้าจุน เขาก็หรี่ตาลง :“สังหารข้า? เจ้าคิดว่าเป็นเต้าจุนแล้วยิ่งใหญ่หรือ?”
ไท่ฮวาเต้าจุนพูดอย่างใจเย็นว่า :“เจ้าหยิ่งผยองเช่นนี้ เพราะเคยไปสุสานเซียนมาก่อน อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติของเจ้าไม่คู่ควรที่จะเอ่ยต่อหน้าข้า ในตอนนั้น ข้าเคยไปชั้นสองของสุสานเซียน”
เมื่อได้ยินชั้นสองของสุสานเซียน มรรคาจารย์เมี่ยเจวี๋ยสั่นไปทั้งตัว เขาพูดว่า :“เป็นไปไม่ได้! ไม่เคยมีใครมีชีวิตรอดออกมาจากสถานที่แห่งนั้น !”
“แต่ข้าทำได้” ไท่ฮวาเต้าจุนพูดอย่างใจเย็น
เมื่อเอ่ยถึงสุสานเซียน แววตาของหลัวตันหนิงก็แสดงถึงความกลัว และพูดว่า :“สถานที่เลวร้ายนั้น ข้าไม่อยากพูดถึงมันอีกชั่วชีวิต ดังนั้นจึงไม่เคยเอ่ยกับใครมาก่อน”
อู๋เป่ย :“พี่สาวหลัวต้องเจอเรื่องเลวร้ายในสถานที่นั้นแน่ๆ ถ้าเช่นนั้นก็อย่าพูดถึงมันอีกเลย”
หลัวหนิงตัน :“เรื่องนี้ เอาไว้หารือกับเจ้าอย่างละเอียดอีกครั้งเมื่อข้ามีเวลา”
เถาหรูเสวี่ยเข้ามาอย่างรวดเร็ว ยิ้มและพูดว่า :“พี่สาวหลัว ข้าคือเถาหรูเสวี่ย ได้ยินพี่เทียนพูดถึงท่านบ่อยๆ”
หลัวหนิงตัน ยิ้มและพูดว่า :“น้องหรูเสวี่ยนี่เอง งดงามราวกับบุปผชาติ น้องชายข้าช่างโชคดีจริงๆ”
หลังจากเชิญหลัวหนิงตันไปนั่งบนที่นั่งแล้ว เขาก็เห็นผู้บำเพ็ญท่านหนึ่งที่มีรัศมีพลังอันยิ่งใหญ่แต่งกายด้วยชุดธรรมดาปรากฏตัวขึ้น เมื่อเห็นบุคคลนี้ ดวงตาของอู๋เป่ยก็เป็นประกาย และเขาก็ก้าวเข้าไปทักทายอย่างรวดเร็วว่า :“เทียนไซว!”
ร่างอวตารชิงหมิงของเขา ตอนนี้อยู่ใต้บัญชาการของเทียนไซว เรื่องนี้ เทียนไซวรู้มาตั้งนานแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะไม่เหมาะสม เมื่อได้รับบัตรเชิญจากอู๋เป่ย เขาก็ตัดสินใจมาเข้าร่วมพิธีเปิด
“อะไรนะ เทียนไซว!”
ทุกคนต่างตกตะลึง เทียนไซวคือคนที่มีสถานะรองจากต้าเทียนจุนในราชสำนักเซียน เขากลับรู้จักเจ้าของร้านราชานักปรุงยา?
เทียนไซวยิ้มและพูดว่า :“ราชานักปรุงยาท่านนี้ ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องประจบประแจงบ้าง”
อู๋เป่ยรีบพูดว่า :“เทียนไซวล้อเล่นแล้ว หากในอนาคตท่านต้องการความช่วยเหลือจากอู๋เป่ย ขอเพียงท่านเอ่ยปาก ข้าไม่มีความสามารถอื่นใด แต่เรื่องปรุงยานั้นพอมีฝีมืออยู่บ้าง”
เทียนไซวหัวเราะ“ฮ่าๆ”:“นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการจากเจ้า!”
หลังจากจัดแจงที่นั่งให้เทียนไซวเรียบร้อยแล้ว ผู้คนจากลัทธิเซียนไท่ชิงจำนวนหนึ่งก็มาร่วมแสดงความยินดี หนึ่งในนั้นได้แก่ บรรพบุรุษซวินตู เพียวเมี่ยวเต้าจวินและคณะ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...