ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 182

ทั้งสองเดินมาถึงห้องโถงชั้นหนึ่ง ชายรูปร่างใหญ่สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีฟ้ายืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ข้างกายของเขามียอดฝีมือชั้นพรสวรรค์ยืนอยู่หนึ่งคน

ถูกต้อง อู๋เป่ยระบุตำแหน่งยอดฝีมือชั้นพรสวรรค์ให้แก่เขา แต่ไม่ใช่ปรมาจารย์ชั้นพรสวรรค์ ตอนนี้เขามีพลังยุทธ์ขั้นสูงแล้ว เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับเสินจิ้นอย่างถ่องแท้ เขาเชื่อว่ามีแค่คนที่มีวิทยายุทธ์และมีทุนพอที่จะก่อตั้งสำนักได้เท่านั้น ถึงจะเหมาะสมที่จะได้รับคำขนานนามว่า ปรมาจารย์

ชายหนุ่มยอดฝีมือชั้นพรสวรรค์ที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตเดินพุ่งเข้ามาหาอู๋เป่ย และถามอย่างเย้ยหยันว่า “แกใจกล้ามากเลยนะ ที่กล้าชิงตัวคนไปจากพวกเรา...”

ชายคนนั้นพูดจาครึ่งๆ กลางๆ แล้วจู่ๆ อู๋เป่ยก็หายตัวไป เขาตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นสหายที่อยู่ด้านหลังเขาก็ตะโกนเตือนขึ้นว่า “ระวัง!”

อู๋เป่ยเหมือนผีอย่างไรอย่างนั้น ชั่วพริบตาเดียวก็มาอยู่ด้านข้างของเขาแล้ว จากนั้นก็เตะเขาจนกระเด็น มันรวดเร็วมาก! ยอดฝีมือชั้นพรสวรรค์ผู้นั้นมีเวลาเพียงแค่หันข้างได้เล็กน้อยเท่านั้น บริเวณช่วงเอวของเขาถูกถีบเข้าอย่างจัง

เขารู้สึกราวกับถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเข้าอย่างเต็มเปา ลูกถีบลูกนั้นเล่นเอาตัวเขากระเด็นออกไปไกลหลายสิบเมตร และกระแทกเข้ากับเสาอย่างแรง จนพื้นสั่นสะเทือนไปทั่ว

“เฮ้อ”

ชายหนุ่มแจ๊คเก็ตผู้นั้นถอนหายใจและพูดว่า “คิดไม่ถึงเลยว่า แกเองก็เป็นปรมาจารย์ชั้นพรสวรรค์ด้วยเหมือนกัน เฉินหลิงซวงมีผู้ช่วยอย่างแก พวกฉันไม่กล้าลงมือหรอก สหาย แกนำคนของแกกลับไปได้เลย พวกเราหยุดการต่อสู้กันเพียงเท่านี้ดีไหม?”

อู๋เป่ยจ้องมองชายหนุ่มแจ๊คแก็ตผู้นั้น และจู่ๆ เขาก็หัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา เพราะเขามองเห็นควันที่ไม่มีสีไม่มีรูปโชยออกมาจากชายเสื้อของอีกฝ่าย และลอยตรงมาทางเขา

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นตัวยาชนิดหนึ่ง เขากำลังใช้ตัวยานั้นจัดการกับเขา!

ทันใดนั้นเขาก็เป่าลมออกจากปาก ทำให้ควันเหล่านั้นลอยย้อนกลับไปตกบนใบหน้าของชายแจ๊คเก็ตผู้นั้น เขาร้องตะโกนเสียงดัง และรีบกลั้นหายใจทันที

อู๋เป่ยเดินเข้าไปใกล้จนแทบจะชิดกับหน้าเขา ชายผู้นั้นตกใจกลัวและทำการสูดหายใจเอาตัวยานั้นเข้าไปทันที จากนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เขาไม่สามารถขยับตัวได้ เนื่องจากมือของอู๋เป่ย ได้กดทับที่ร่างของเขาไว้แล้ว!

ภายในเวลาไม่กี่วินาที รูม่านตาของเขาก็ขยายออก และมีท่าทางซึมเล็กน้อย

เพียงเท่านี้อู๋เป่ยก็เข้าใจทันทีว่า ตัวยาชนิดนี้ไว้ใช้สำหรับควบคุมคน บุคคลผู้นี้สามารถใช้ยาเพื่อควบคุมคนอื่น เมื่อนึกถึงวิธีการสะกดจิตจากคำบันทึกในแท่นอิฐหยก เขายื่นมือออกไปตรงหน้าของชายผู้นี้และทำท่าทางแปลกๆ บางอย่าง

ทันใดนั้น สีหน้าของชายผู้นั้นก็กลับคืนฟื้นเป็นปกติ

อู๋เป่ย “นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จงเชื่อฟังคำสั่งของฉัน ฉันเป็นนายของแก”

“ครับ นายท่าน” อีกฝ่ายให้ความร่วมมือแต่โดยดี และเรียกเขาว่านายท่านทันที

อู๋เป่ย “แกใช้ตัวยานี้ควบคุมคนอื่นได้อย่างนั้นหรือ?”

“ครับนายท่าน คนในยุทธภพต่างขนานนามผมว่า ‘หมอยา’ ” เขาตอบ

“ส่งยามาให้ฉัน” เขาสั่ง

ชายผู้นั้นหยิบขวดยาและถุงหูรูดออกมา พร้อมกับพูดว่า “สูตรยานี้ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ บรรพบุรุษของผมมีเก้ารุ่น ล้วนแต่เป็นหมอยาด้วยกันทั้งนั้น ในขวดนี้เป็นผงยาที่ฉันผสมขึ้นมาเอง แค่แตะเพียงเล็กน้อยก็สามารถควบคุมคนคนหนึ่งได้แล้ว”

อู๋เป่ยเก็บทั้งขวดและถุงหูรูดนั้นเอาไว้ และถามว่า “ลู่จิ้นปัวส่งพวกแกมาใช่ไหม?”

“ใช่ครับ” ชายผู้นั้นตอบ “ลู่จิ้นปัวจ้างฉันมาในราคาที่สูงลิ่ว ให้ฉันใช้ตัวยานี้ควบคุมเฉินหลิงซวงและบังคับให้เธอกลับมาเข้าร่วมกับบริษัทหวาอิ่ง”

อู๋เป่ย “ลู่จิ้นปัวทำเช่นนี้ ไม่กลัวถูกเปิดโปงอย่างนั้นหรือ?”

ชายผู้นั้นกล่าวต่อ “สภาพเงินทุนของลู่จิ้นหัวในตอนนี้ฝืดเคืองมาก เขานำเงินทุนลงไปกับเว็บไซด์วิดีโอมากจนเกินไป เขาลงทุนไปห้าหมื่นล้านหยวนภายในระยะเวลาเพียงสามปี”

“หากเฉินหลิงซวงกลับมาอยู่ที่หวาอิ่ง มันจะสามารถยกราคาหุ้นให้สูงขึ้นได้ และเมื่อรวมกับเงินมหาศาลนั้น เขาก็จะสามารถลงทุนในเว็บไซด์วิดีโอต่อเนื่องไปได้อีก”

อู๋เป่ยคิดไม่ถึงเลยว่า คนอย่างลู่จิ้นปัวจะสามารถขาดเงินได้ เขาส่ายหน้าและพูดว่า “แกกลับไปบอกลู่จิ้นปัวด้วยว่า หากเขายังกล้ามาเล่นงานเฉินหลิงซวงอีกหล่ะก็ ฉันจะฆ่าเขาทิ้งซะ!”

พูดจบ เขาก็เรียกให้เฉินหลิงซวงออกจากโรงแรม รถของกว่างไห่จอดรออยู่ด้านนอก

เมื่อเห็นว่าอู๋เป่ยออกมาอย่างปลอดภัย กว่างไห่ก็ถอนใจด้วยความโล่งอก ถ้าอู๋เป่ยยังไม่ออกมาอีกหล่ะก็ เขาจะบุกเข้าไปเอง อู๋เป่ยเป็นอาจารย์ลุงของเขา หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่ อาจารย์คงไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆ

“อาจารย์ลุง จัดการคนข้างในเรียบร้อยแล้วหรือ?” เขาถาม

อู๋เป่ยพยักหน้า “ออกรถเถอะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ