จากนั้นเขาได้นำวิชาฝ่ามือแยกสวรรค์และวิชายุหวังที่ได้ฝึกฝนมาก่อนหน้ามาฝึกจนถึงขอบเขตที่สมบูรณ์แบบ
วันนี้ผู้บัญชาการได้ส่งคนมาสอบถามถึงที่นี่เสียก่อนว่าเขาได้กำจัดเวทย์ปีศาจไปได้แล้วหรือยัง อู๋เป่ยได้ตอบกลับไปว่าเวทย์ปีศาจจะถูกกำจัดไปอย่างสิ้นซากแน่นอน ท่านผู้บัญชาการวางใจได้เลย
เมื่อได้ตอบรับคำสั่งแล้ว เขาก็เข้าไปข้างในถ้ำเวทย์ปีศาจอีกครั้ง ครั้งนี้เขาตรงเข้าไปที่ตาข่ายคริสตัลห้องเดียวกันกับครั้งก่อน จากนั้นเขาก็ได้ปล่อยลมปราณแผ่ออกไปรอบตัว โดยลมปราณที่ปล่อยออกไปนั้นเขาตั้งใจให้ต่างกับครั้งที่
ซึ่งนั่นก็ทำให้รังเวทย์ปีศาจนี้รู้สึกตัวได้ในทันที มันได้ปล่อยเส้นใยนับไม่ถ้วนออกมาสำรวจตัวเขา เพื่อป้องกันการเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ดี
ในยามที่เส้นใยพวกนี้เข้าไปในตัวของเขา เขาก็ใช้วิชาอำนาจสูงสุดแห่งหมื่นอาณาจักรขั้นที่ห้าในการควบคุมทุกสรรพสิ่งทันที!
ด้วยพลังของเขาที่เชื่อมกับเส้นใยนี้อยู่ จึงทำให้เขาสามารถเชื่อมต่อกับปราชญ์จิตสำนักของรังเวทย์ปีศาจได้โดยตรง!ปราชญ์จิตสำนึกนี้ถือว่าปัญญาที่สูงมาก แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับอู๋เป่ยได้เลย และยิ่งไม่มีทางที่จะต่อกรกับการควบคุมทุกสรรพสิ่งด้วยเกาหมิงเช่นนี้ได้เลย!
อู๋เป่ยทำการใช้ร่างอวตารของตนเองเชื่อมกับรังเวทย์ปีศาจทันที ปราชญ์จิตสำนึกของรังนี้ก็ยังมีการขัดขืนอยู่ แต่ไม่นานก็ได้ทำตามแต่โดยดี
หลังจากทดลองผ่านไปครี่งชั่วโมง อู๋เป่ยก็พอเข้าใจถึงกลไกการทำงานของถ้ำเวทย์ปีศาจแล้ว มันคล้ายคลึงกันกับเครื่องฟักไข่และในขณะเดียวกันก็มีถ่ายทอดข้อมูลและพลังงานอีกด้วย ดังนั้นมันก็จะสามารถปลูกฝังเวทย์ปีศาจให้เติบโตขึ้นมาและใช้งานมันได้
เวทย์ปีศาจมีระดับชั้นของมัน พวกที่ไม่มีร่างกายหรือร่างกายเป็นสิ่งมีชีวิตอื่น จะถือเป็นเวทย์ปีศาจระดับที่ต่ำที่สุด ส่วนเวทย์ปีศาจระดับกลางนั้นไม่จำเป็นมีร่างที่แท้จริง เพราะพวกมันมีร่างมากมาย และยังสามารถสลับสับเปลี่ยนร่างไปได้เรื่อยๆ ระดับสุดท้ายก็คือเวทย์ปีศาจระดับสูง เวทย์ปีศาจระดับสูงนั้นมีทั้งร่างกายและจิตวิญญาณที่เป็นหนึ่งเดียวกัน เพียงแต่ว่าการจะดูแลพวกมันนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก ปัจจุบันทั้งรังนี้กำลังดูแลเวทย์ปีศาจเพียงยี่สิบตัวเท่านั้น ท้ายที่สุดเวทย์ปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบันมีเพียงตัวเดียว อีกทั้งยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาแค่ไหนถึงจะสามารถใช้งานได้
นอกจากนี้ รังเวทย์ปีศาจยังมีการแบ่งระดับชั้นด้วยเช่นกัน ดังเช่นที่อู๋เป่ยอยู่ตรงนี้ถือเป็นรังระดับกลางนั่นก็คือระดับสี่ ส่วนระดับที่สูงขึ้นไปอีกก็จะมีระดับห้าและหกตามลำดับ
หลังจากที่ได้ควบคุมรังเวทย์ปีศาจ เขาก็ใช้วิชามหาเทพทันทีเพื่อเปิดทางในการส่งต่อข้อมูลให้กับเวทย์ปีศาจที่อยู่ในถ้ำแห่งนี้ทุกตัว
ถึงอย่างไรถ้ำเวทย์ปีศาจก็ไม่ใช่นักปรุงยาที่เป็นระดับปรามาจารย์ สารอาหารที่ให้ไปจึงค่อนข้างหยาบกระด้าง ซึ่งไม่เหมือนกับอู๋เป่ยที่เป็นปรามาจารย์ในการปรุงชั้นยอด และสามารถมอบสารอาหารที่มีประสิทธิภาพได้มากกว่า
ดังนั้นเขาจึงรับส่วนผสมของยามาจำนวนมาก และทำการปรุงใหม่ทั้งหมดเพื่อดูแลเวทย์ปีศาจพวกนี้ ด้วยความที่เวทย์ปีศาจได้รับหลักคำสอนและเจตจำนงอันศักดิ์สิทธิ์ จึงทำให้สูญเสียความเป็นปีศาจไป และค่อยๆ กลายเป็นนักรบอันศักดิ์สิทธิ์
รังเวทย์ปีศาจนี้ถูกเขานำเข้าไปด้านในถ้ำ ภายหลังเขายังสามารถใช้สำหรับฝึกพลทหารได้และพัฒนากำลังของพลทหาร
หลังจากได้จัดการกับรังเวทย์ปีศาจแล้ว อู๋เป่ยก็กลับมาที่ค่ายและรายงานต่อผู้บัญชาการว่าเขาได้กำจัดรังของเวทย์ปีศาจแล้ว อีกทั้งภายในรังยังมีเวทย์ปีศาจอีกจำนวนเกือบสิบล้านตัว
ผู้บัญชาการที่ได้รับข่าวเช่นนี้ก็ดีใจมากพร้อมกับมอบรางวัลให้เขา อีกทั้งคนจากที่ราชสำนักเซียนส่งไปตรวจสอบก็ได้พบว่าใต้แม่น้ำแม่ถ้ำขนาดใหญ่อยู่ ภายในมีเวทย์ปีศาจจำนวนมากอยู่
แต่ทว่าเรื่องมันก็ยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น ในวันที่เขาพากองทัพกลับ ก็มีคนจากสำนักเซียนมาอีกคนนั่นก็คือต้าเทียนจุน เขาต้องการพบอู๋เป่ย
อู๋เป่ยมาพบกับพวกเขาที่ในตำหนัก เขาเป็นมรรคาจารย์ที่แข็งแกร่งและยอดเยี่ยมของราชสำนึกเซียน
เมื่อมาได้พบหน้ากัน เขาก็ถามขึ้นเสียงดังทันที “ท่านนายพลแห่งจตุรเทพ คุณบอกว่าได้ทำลายรังเวทย์ปีศาจไปแล้ว แต่พวกผมคิดว่าคุณโกหกนะ คุณได้เก็บรังของเวทย์ปีศาจไว้ใช่ไหม?”
อู๋เป่ยมองไปที่พวกเขา และกล่าวเสียงเรียบ “บอกว่าผมเก็บรังของเวทย์ปีศาจไว้ มีหลักฐานงั้นเหรอ?”
เขาสบถออกมา “คุณรู้ถึงประโยชน์จากรังเวทย์ปีศาจนั่นอยู่แล้ว ผมไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะทำลายมันไป หรือถึงจะทำลายไปแต่ก็ต้องหลงเหลือเศษซากไว้บ้างอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ?”
อู๋เป่ยจ้องไปที่เขา “คุณไม่เชื่อ?คุณคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน คุณจะเชื่อหรือไม่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมด้วยเหรอ?”
“แก!” เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนดวงตาของเขาแทบจะพ่นไฟออกมา
อู๋เป่ยเลิกคิ้ว มิน่าล่ะคนผู้นี้ถึงได้ต้องการรังเวทย์ปีศาจ ที่แท้ตระกูลเหยียนก็รู้เรื่องของรังนี้นี่เอง!
เขาหัวเราะอย่างเย็นชา “ถ้างั้นตอนนี้คุณก็แจ้งให้ตระกูลเหยียนมารับคุณไปเสีย ถ้าเกินวันนี้ก็บอกให้พวกเขามารับศพได้เลย!”
เขาคนนี้โกรธมากและกล่าวว่า “แกกล้าทำกับฉันขนาดนี้เลยเหรอ!แกรู้ไหมว่าตอนนี้ตระกูลเหยียนเป็นหนึ่งในราชสำนักเซียนที่แข็งแกร่งที่สุด?”
อู๋เป่ยพูดเสียงเรียบ “ผมรู้แค่ว่าถ้าคุณไม่ฟังผม วันนี้คุณต้องตาย” เมื่อพูดจบเขาก็ให้คนพาตัวออกไป
ซือคงอวี่กล่าวกับเขาอีกครั้ง “ฝ่าบาท ตอนนี้ตระกูลเหยียนแข็งแกร่งมาก การล่มสลายของโลกเซียนทำให้ตระกูลเหยียนย้ายตัวออกไป คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้จะกลายเป็นหนึ่งในราชสำนักเซียนที่แข็งแกร่งที่สุด”
อู๋เป่ย “ฉันไม่สนว่าตระกูลเหยียนจะแข็งแกร่งแค่ไหน เพียงแค่ไม่ใช่ต้าเทียนจุน พวกเราก็ล้วนรับมือได้ แล้วก็พอดีเลยที่ฉันจะอยากจะถามทางตระกูลเหยียนให้ชัดเจนถึงเรื่องที่มาที่ไปของเวทย์ปีศาจ”
ไม่นานก็มีคนเข้ามารายงาน บอกว่านายคนนั้นได้ส่งข่าวไปแล้ว และตระกูลเหยียนก็ได้ตอบกลับมาว่าจะไม่มาช่วย
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว ตระกูลเหยียนนี่จะปล่อยมรรคาจารย์คนหนึ่งไปง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ?
ในยามนี้เขาก็ได้รับจดหมายบินจากผู้บัญชาการ ในจดหมายได้บอกว่าหวังว่าเขาจะปล่อยตัวมรรคาจารย์คนนั้น อีกทั้งยังได้รับความสนใจและความเมตตาจากต้าเทียนจุนอีกด้วย
ยังไงเขาก็ต้องไว้หน้าผู้บัญชาการ อู๋เป่ยสั่งให้คนไปปล่อยตัวมรรคาจารย์คนนั้น แน่นอนว่าก่อนที่จะปล่อยไปก็ได้ส่งคนไปซ้อมเขาอย่างสาหัสถึงขนาดที่ไม่สามารถฟื้นตัวได้ภายในสามเดือน
เมื่อมรรคาจารย์คนนั้นออกไปแล้ว ก็มีคนมารายงานอีกว่ามีคนเหยียนซิงมาขอพบ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...