อู๋เป่ย: “ให้ห้าพันล้านเราก็ไม่ขาดทุน ต้าเทียนจุนไม่ใช่ให้ไปหมื่นล้านหรอกเหรอ? หักก่อนหน้านี้ เรายังทำเงินสี่พันล้าน คนเราอย่าโลภ ต้องรู้วิธีรุกและถอย เข้าใจไหม?”
เสี่ยวชีเกาหัว: “ได้ งั้นฉันจะส่งมันไปทันที”
เมื่อมองดูเสี่ยวชีจากไปอู๋เป่ยถามด้วยรอยยิ้ม: "เซียนเอ๋อล่ะ?"
เถาหรูเสวี่ย: "ไปเที่ยวกับเสี่ยวเหมยแล้ว”
อู๋เหมยมาที่นี่ก็ไม่ได้จากไป ฝึกฝนและร่ำเรียนทุกวัน
อู๋เป่ยมีธุระกับเธอ จึงรีบใช้พลังจิตค้นหาทันที ในไม่ช้า เขาก็ค้นพบว่าอู๋เหมยกำลังนั่งอยู่หน้าหอศิลป์แห่งหนึ่ง กำลังดูภาพวาดของบัณฑิตรุ่นเยาว์
ภาพวาดที่ชายคนนี้วาดนั้นเหมือนจริงและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ คนที่ชมภาพเขียนของเขามีมาก และหลายคนก็ควักเงินซื้อภาพวาดทันที
อู๋เป่ยคิดว่ามันแปลก เสี่ยวเหม่ยชอบภาพเขียนตั้งแต่เมื่อไหร่? เขารีบไปที่หอศิลป์ ยืนข้างหลังอู๋เหม่ยอย่างเงียบๆ แล้วถามขึ้นเบาๆ “คนๆ นี้หล่อไม่เบาเลย”
อู๋เหม่ยดีใจมากจึงหันกลับมาพูดว่า “พี่ มาได้ยังไง?"
อู๋เป่ย: "หาเธอไม่เจอ จึงออกมาตามหาดู"
อู๋เหม่ย: “พี่ พี่ดูสิภาพวาดของเขามีจิตวิญญาณมากเลยใช่ไหม?”
อู๋เป่ยเหลือบมอง “ก็ไม่เลว ภาพวาดของคนๆ นี้เข้าขั้นพื้นฐานแล้ว”
ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ได้ยินอู๋เป่ยพูดเช่นนี้ ก็มองอู๋เป่ยด้วยสายตาอย่างโกรธเคือง
“มาว่าภาพเขียนของคุณชายเยี่ยนแค่เข้าขั้นพื้นฐาน คุณตาบอดหรือไง? ภาพวาดของคุณชายเยี่ยน สามารถพูดได้ว่ายอดเยี่ยม มหัศจรรย์ที่สุดในโลกแล้ว!” หญิงอ้วนดุอู๋เป่ย
“จากน้ำเสียงของคุณ คุณวาดรูปเก่งมากเลยสินะ งั้นแสดงให้ทุกคนเห็นสิ!” ผู้หญิงอีกคนหัวเราะเยาะอู๋เป่ย
อู๋เป่ยไม่คิดว่าแค่พูดออกไปอย่างไม่คิดอะไร จะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมายเช่นนี้ เขาหมดคำพูด ลากอู๋เหม่ยกำลังจะจากไป
อย่างไรก็ตาม กลุ่มหญิงสาวก็เข้ามารุมล้อมสองพี่น้องทันที
“ไปไม่ได้ มาพูดให้ชัดเจน!”
อู๋เหม่ยพูดอย่างโกรธ “พวกเธอทำอะไรหน่ะ?”
“เขากล้าพูดว่าร้ายคุณชายเยี่ยน เราปล่อยเขาไปไม่ได้!"
อู๋เป่ยกำลังจะใช้วิชาหลบหนีเพื่อหลบหนี แต่คุณชายเยี่ยนที่เป็นผู้วาดภาพ จู่ๆ ก็มองมาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "พวกเธออย่าหยาบคายกับแขกสิ"
ขณะที่พูด เขาก็เดินไปทางอู๋เป่ยอย่างช้าๆ กุมมือแล้วพูดว่า "พี่ชายท่านนี้ ฉันต้องขอโทษที่ทำให้คุณต้องลำบากแล้ว"
อู๋เป่ยคิดกับตัวเองว่าคุณชายผู้นี้ค่อนข้างสุภาพนัก จึงพยักหน้าเล็กน้อย: "ไม่เป็นไร"
จากนั้น คุณชายเยี่ยนก็กล่าวเสริมว่า: "เมื่อครู่ได้ยินคุณบอกว่าภาพเขียนของฉันเข้าขั้นพื้นฐานแล้ว ฉันรู้สึกดีใจยิ่งนัก เชื่อว่าทักษะการวาดภาพของพี่ชายคงจะต้องดีเยี่ยมกว่าฉันมาก เป็นโชคชะตาที่พบกันในวันนี้ ต้องขอพี่ชายช่วยชี้แนะให้ด้วย”
อู๋เป่ยรู้ว่าคุณชายเยี่ยนที่ภายนอกดูสุภาพแต่ในหัวใจนั้นไม่พอใจ ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า: "ให้คำชี้แนะได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันจะเอารัดเอาเปรียบคุณไปหน่ะสิ"
จากนั้นเขาก็หยิบพู่กันขึ้นมา แล้ววาดภาพในอากาศ ภาพที่วาดคือหญิงสาวที่ถ่ายทอดแววตาออกมา รูปลักษณ์ที่สวยงามไม่มีใครเทียบได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือ ผู้หญิงคนนั้นมีมิติ เมื่ออู๋เป่ยถอนพู่กันออกไป ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นก็เคลื่อนไหว แล้วก็มีชีวิตชีวา ความงามที่เปล่งประกาย และมีดวงตาที่สวยงาม
เธอก้าวไปข้างหน้าและโค้งคำนับอู๋เป่ย: "คารวะคุณชาย"
ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกใจ "นี่คืออาวุธเวทมนตร์อะไรกัน? ถึงกับว่าออกเป็นมนุษย์ได้!”
กลับกลายเป็นว่า เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นคุณภาพของภาพวาดของอู๋เป่ย แต่พู่กันที่เขาใช้นั้นไม่ธรรมดา เป็นอาวุธเวทมนตร์ชิ้นหนึ่ง
อู๋เป่ยพูดเบาๆ ว่า "เพราะในใจของฉันตัวละครนั้นมีชีวิตอยู่จริง ดังนั้น ตัวละครที่ฉันวาดจึงมีชีวิต"
คุณายเยี่ยนยิ้มแล้วพูดว่า "ชื่นชมพี่ชายนัก ยังไม่ได้ถามชื่อพี่ชายเลย"
อู๋เป่ย: “ฉันชื่อหลี่เป่ย”
คุณชายเยี่ยน: “ที่แม้คือพี่หลี่ วันนี้เป็นเกียรติของฉันอย่างยิ่งที่ได้พบกับพี่ลี่ ไม่ไกลจากนี่คือจวนของฉัน ขอเชิญพี่หลี่ไปที่จวนพูดคุยกัน"
คุณชายยเยี่ยนคนนี้หล่อและสุภาพมาก อู๋เหม่ยมีความประทับใจในตัวเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "พี่ชาย งั้นเราไปนั่งเล่นที่จวนคุณชายเยี่ยนกัน?”
อู๋เป่ยลุกขึ้นยืน เผยกลิ่นอายของจักรพรรดิเซียนออกมา มีพลังที่คล้ายคลึงกันเซียนเทพทั้งสอง ทั้งสองถูกพลังอันน่าสะพรึงกลัวของอู๋เป่ยปราบปรามทันที
ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมากและต่างก็คุกเข่าลงกับพื้น พูดอย่างสั่นเทา: "คารวะจักรพรรดิเซียน!"
คุณชายเยี่บนตะลึง: "อะไรนะ เขาคือจักรพรรดิเซียน?”
อู๋เป่ยเดินไปหาคุณชายเยี่ยนแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่ฃสงบ: “คุณยังต้องการพู่กันของฉันอีกไหม?”
ใบหน้าของคุณชายเยี่ยนเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง เขาก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า: "ฉันมีตาหามีแวว!
อู๋เป่ยถาม: "คุณไม่ใช่คนที่นี่ใช่ไหม?"
คุณชายเยี่ยน: "ใช่ ฉันมาจากทวีปแม่มดแห่งสวรรค์”
อู๋เป่ยไม่ค่อยรู้เรื่องสถานการณ์ภายนอก เขาจึงถามว่า “ทวีปแม่มดแห่งสวรรค์อยู่ที่ใด เทียบกับทวีปรกร้างแล้วเป็นอย่างไร?”
คุณชายเยี่ยน: “ทั้งสองทวีปมีขนาดเท่ากัน แต่มีเพียงอำนาจเดียวเท่านั้น ลัทธิแม่มด"
อู๋เป่ย: "โอ้ มีเพียงลัทธิแม่มดเดียวเท่านั้นเหรอ?”
คุณชายเยี่ยน: “ใช่ ลัทธิแม่มดมีผู้แข็งแกร่งแห่งยุคดูแล ดังนั้นตำแหน่งของมันจึงมั่นคงและมีเพียงกองกำลังเล็กๆ เท่านั้นที่อยู่ภายใต้มัน ตระกูลเยี่ยนของฉันจึงค่อนข้างมีอำนาจในลัทธิแม่มด ปู่ของฉัน ก็คือผู้อาวุโสที่สวมชุดแดงของลัทธิแม่มด”
ในเมื่อคุณเป็นศิษย์ของลัทธิแม่มด ทำไมคุณถึงมีเซียนเทพอยู่ข้างกายได้ล่ะ?”
คุณชายเยี่ยน: “ก่อนหน้านี้ ค้นพบว่า วิถีอาคมนั้นไม่เป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลก ดังนั้นเมื่อก่อนจึงฝึกเซียนเทพให้มากขึ้น รอจนแข็งแกร่งขึ้นแล้วจึงเรียนรู้วิถีอาคม วิชายุทธ์"
อู๋เป่ย “ดังนั้น ผู้ฝึกเวทย์ในทวีปเทียนแม่มดจึงมีไม่มากนัก แต่กลับมีเซียนเทพมากกว่า?”
คุณชายเยี่ยน: “มากที่สุด ก็ยังเป็นวิถีเซียน นักพรตเซียนนั่นเอง ท้ายที่สุดไม่ใช่ทุกคนที่สามารถฝึกฝนเทพเซียนได้ ผู้บำเพ็ญวิถีอาคมนั้นมีน้อยมาก พวกเขาล้วนแต่เป็นหัวกะทิและเป็นอัจฉริยะของลัทธิแม่มด สำหรับฉันทำได้แต่ฝึกฝนวิถีเซียนเทพเท่านั้น ณ ตอนนี้ยังไม่อาจฝึกวิถีอาคมได้"
อู๋เป่ยถามกลับว่า “เช่นนั้น คุณที่เป็นผู้บำเพ็ญเทพเซียนจากลัทธิลัทธิแม่มด การมาโลกแห่งเซียนในครั้งนี้ มีเป้าหมายอะไร?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...