เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1861

อู๋เป่ย “ฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าจดหมายนั่นเป็นของปลอม แต่ปัญหามันอยู่ที่ทำไมถึงมีคนต้องการจะขุดหลุมพรางคุณ ทั้งๆ ที่แกก็เป็นท่านอ๋องธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่เพียงแค่มีเงินเดือนที่สูงหน่อยก็เท่านั้น ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะต้องลงมือกับแกเลย”

เมื่อได้ฟังจนจบ สมองของหลี่หงเทาก็แล่นอย่างรวดเร็วทันที ถึงเขาจะไม่ได้เรียนอะไรมา แต่เขาก็กินยาอายุวัฒนะของอู๋เป่ยไปไม่น้อย ทำให้เขามีร่างกายและสมองของเขามีสมรรถนะที่ดี จึงสามารถคิดอะไรๆขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

“พี่ ผมคิดออกแล้ว เมื่อประมาณสองเดือนก่อน จู่ๆ ก็มีลูกค้าคนหนึ่งมาพูดกับผมว่าผมมีความคล้ายคลึงกับองค์จักรพรรดิ ผมก็คิดว่าเขาแค่ชมเลยไม่ได้คิดอะไร คิดไม่ถึงว่าหลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาจะส่งผ้าคลุมจักรพรรดิที่ทำขึ้นเองมาให้ผม ตอนนั้นผมถึงคิดได้ว่าเขาไม่น่าไว้ใจ ก็เลยให้คนมาลากเขาออกไป ตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว ผมว่าทั้งสองเรื่องนี้อาจจะมีความเกี่ยวข้องกัน”

อู๋เป่ย “หลังจากที่แกมาที่พื้นที่พระราชทาน ได้ไปขัดแข้งขัดขาใครมาหรือเปล่า?”

หลี่หงเทายิ้มเจื่อน “พี่ มีหญิงสาวมากมายที่ไปเที่ยวกับผม แล้วผมจะเอาเวลาไหนไปทำเรื่องไม่ดี?แล้วยิ่งไปขัดแข้งขัดขาคนอื่นยิ่งแล้วใหญ่”

ในตอนนี้เอง ก็มีสาวใช้คนหนึ่งนำชามาวางบนโต๊ะสองถ้วย

เมื่อเห็นถ้วยชา อู๋เป่ยก็นิ่งไปชั่วครู่ ลวดลายบนถ้วยชารวมถึงเนื้อสัมผัสนั้นมันช่างเหมือนกันกับที่ใช้ที่วังของเขา เขารู้ว่าจื่อยี่เคยส่งสิ่งของของตระกูลมากมาย ก็เป็นไปได้ว่าถ้วยชานี้เธอจะส่งคนเอามาให้ “ถ้วยชานี้ไม่เลวเลย”

หลี่หงเทายิ้ม “ใช่ไหมล่ะ?อวี้หรงเป็นคนซื้อให้ผมเองแหละ ของในตำหนักเกือบทั้งหมดก็มีอวี้หรงเป็นคนจัดการนี่แหละ”

อู๋เป่ย “อ๋อ อวี้เป็นผู้หญิงในตำหนักแกเหรอ?”

หลี่หงเทาพยักหน้า “ใช่แล้วพี่ อวี้หรงน่ะดีมากเลยนะ ทั้งสวยทั้งอ่อนโยน ผมก็กำลังจะปรึกษาพี่อยู่พอดี อยากจะแต่งเธอให้เข้ามาเป็นพระชายาอย่างเป็นทางการ”

อู๋เป่ยกล่าว “อืม แค่แกชอบ ฉันก็ต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว”

หลี่หงเทาดีใจเป็นอย่างมาก “พี่ เดี๋ยวผมจะพาเธอพาพบพี่เดี๋ยวนี้เลย!”

ไม่นาน หญิงสาวในชุดสีแดงระหงส์ก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับหันไปทำความเคารพอู๋เป่ย “หม่อมฉันขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพคะ!”

อู๋เป่ยมองหญิงสาวพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ “เธอชื่ออวี้หรง?”

หญิงสาวตอบกลับเสียงเบา “ใช่เพคะ หม่อมฉันอวี้หรง”

อู๋เป่ยยิ้มเย็น “เวทย์ปีศาจ!จดหมายนั่นเป็นเธอที่ปลอมขึ้นมาใช่ไหม?”

อวี้หรงคุกเข่าลงไปเสียงดัง “หม่อมฉันไม่รู้ว่าฝ่าบาทกำลังตรัสถึงเรื่องอะไรเพคะ!”

หลี่หงเทาตกใจมาก “พี่จะบอกว่าเธอเป็นเวทย์ปีศาจเหรอ?”

ถึงเขาจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็รู้เรื่องของเวทย์ปีศาจ ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องมากมายใหญ่หลวง ผู้คนล้มตายไปมากมาย

อู๋เป่ย “หงเทา อวี้หรงคนนี้เข้ามาอยู่ในตำหนักแกตั้งแต่เมื่อไหร่?”

หลี่หงเทาคิดอยู่ชั่วครู่และตอบกลับ “น่าจะประมาณครึ่งปีก่อน”

อู๋เป่ย “ในระหว่างครึ่งปีที่ผ่านมา มีตอนไหนที่นิสัยใจคอเธอดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนไหม?”

หลี่หงเทาคิดอยู่สักพัก และก็เริ่มมีสีหน้าลำบากใจ “ใช่แล้ว ช่วงแรกที่อวี้หรงเข้ามาในตำหนัก เธอไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากผมเลย และผมก็ไม่ได้สนใจเธอ แต่อยู่มาวันหนึ่ง เธอก็เปลี่ยนไปจนทำให้ผมสนใจ เธอเปลี่ยนไปมากจริงๆ พี่ เธอคงไม่ใช่เวทย์ปีศาจจริงๆหรอกใช่ไหม?”

อู๋เป่ยยื่นมือออกมา ทันใดนั้นร่างกายของอวี้หรงก็สั่นไปทั้งตัวพร้อมกับมีควันจางๆลอยออกมาจากบนหัว ควันนี้นี้ค่อยๆควบรวมกันกลายเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง เธอหมอบกราบลงไปพร้อมกับเอ่ยขึ้น “ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตด้วย!”

คำขอร้องของเธอทำให้อู๋เป่ยประหลาดใจ เขาจึงถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น “เจ้าเวทย์ปีศาจนี่กล้ามากนะ ใครส่งเธอมา?”

เวทย์ปีศาจสาวตอบกลับ “ท่านอ๋องจั่วเสียนส่งหม่อมฉันมาทำภารกิจเพคะ”

อู๋เป่ย “อ้อ แล้วอ๋องจั่วเสียนเป็นใครล่ะ?แล้วภารกิจของเธอคืออะไร?”

เวทย์ปีศาจสาว “ท่านอ๋องจั่วเสียนเป็นขุนนางคนสำคัญภายใต้สำนักปีศาจ เขาส่งหม่อมฉันมาที่นี่เพื่อทำเสน่ห์ให้อ๋องเสี่ยวเหยาเป็นปฏิปักษ์กับจักรวรรดิเทียนหวู่”

อู๋เป่ย “งั้นก็เท่ากับว่าภารกิจของเธอไม่สำเร็จสิ?”

อู๋เป่ยไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาสะบัดมือหนึ่งครั้งเวทย์ปีศาจสาวตัวนี้ก็ถูกเผาไหม้เป็นเถ้าธุลีทันที

หลี่หงเทาถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ “พ...พี่ เวทย์ปีศาจมันตายแล้วเหรอ?”

อู๋เป่ยตอบกลับ “หงเทา ทุกเรื่องล้วนมีระดับของมัน แกจะชอบแบบนึกสนุกมันก็ไม่ผิดหรอก แต่ต้องไม่หลงไหลมัวเมาไปกันมันจนเกินไป แกยังต้องหาอะไรทำ”

เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้นับว่าส่งผลกระทบกระเทือนต่อหลี่หงเทาเป็นอย่างมาก เขาพยักหน้าอย่างแรง “พี่ หาอะไรให้ผมทำเถอะ”

อู๋เป่ย “ใส่ใจผู้คนบนพื้นที่พระราชทานแล้วกัน”

“ครับ ผมต้องทำได้แน่”

ยามนี้ หญิงสาวที่มีนามว่าอวี้หรงตัวจริงก็ได้ฟื้นขึ้นมา เพียงแต่จิตวิญญาณของเธออ่อนแอนัก อู๋เป่ยวางมือลงไปบนตัวเธอ เพื่อให้ร่างกายของเธอได้ฟื้นฟูขึ้นมาในเบื้องต้น และไม่ให้หลงเหลืออาการใดๆ

เมื่อพูดคุยกันจบ อู๋เป่ยก็กลับมาที่วังหลวง และเริ่มเข้าใจถึงหม้อเก้าใบ

หม้อเก้าใบในตอนนี้ผสานกับเป็นหนึ่ง ซึ่งในฐานะที่เขาเป็นถึงจักรพรรดิและมหาเทพ แน่นอนว่าระดับสติปัญญาของเขาทำให้เข้าใจเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ไม่นานเขาก็พบว่าหม้อเก้าใบนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์ และใช้มันในการเปิดประตูมิติแห่งห้วงเวลา

แต่ทว่าเมื่อได้ศึกษาอย่างละเอียดแล้ว ก็จะยิ่งพบว่าในหม้อเก้าใบนี้ ล้วนมีการแบ่งช่องว่างอันลึกลับเก็บซ่อนไว้ อีกทั้งช่องพวกนี้ยังไม่เคยมีใครเปิดมันมาก่อนเลย

หม้อเก้าใบนี้ถูกสร้างมาจากอาณาจักรสวรรค์ หม้อแต่ละใบจะเป็นตัวแทนของแต่ละยุคสมัย พวกมันแบ่งออกเป็นหม้ออวู หม้อเซียน หม้อหมิง หมอเซิน หม้อเยา หม้อฮวง หม้อโจ้ว หม้อโม๋ว และหม้อซวู หม้อทั้งเก้าใบนี้ถูกค้นพบในสมัยเซี่ย แต่ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ในสมัยเซี่ยหรือชาง ก็ไม่มีใครสามารถถอดรหัสหม้อทั้งเก้าใบนี้ได้เลย

มีการกล่าวไว้ว่า เพียงแค่เก็บรวบรวมหม้อทั้งเก้าใบได้และมีความสามารถรวมทั้งคุณสมบัติที่ครบถ้วน ถึงจะสามารถเปิดหม้อนี้ได้ และจะได้รับไปเป้นมรดกตกทอด

เขาอาศัยดวงตามิติ และทำการตรวสอบก็พบว่าการเปิดหม้อทั้งเก้าใบนี้จะต้องเปิดตามลำดับ และหม้อที่ต้องเปิดใบแรกคือหม้อซวู

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ