เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1894

อู๋เป่ย :“ข้าชื่อหลี่ซวนเป่ จุยเตี้ยน พิบัติการของที่นี่มาจากคนละยุคกัน นั่นแสดงว่ามีเผ่าพันธุ์มากมายอยู่ร่วมกันใช่ไหม? ”

จุยเตี้ยนอุทาน แล้วพูดว่า :“แน่นอนอยู่แล้ว เผ่าพันธุ์มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ แต่ความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้ด้อยเลย และก็ถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งที่นี่ อย่างไรก็ตาม เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน อาศัยอยู่ในดินแดนที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นดินแดนที่เราอาศัยอยู่ ก็คือดินแดนของเผ่าพันธุ์มนุษย์”

อู๋เป่ย :“เจ้าคือเทพอาชา ทำไมถึงมาอยู่ในดินแดนของมนุษย์ล่ะ? ”

จุยเตี้ยน :“ไม่มีทางเลือก ดินแดนของเผ่าปีศาจอันตรายเกินไป ข้ารอดตายจากที่นั่นได้อย่างหวุดหวิด จึงได้แต่หนีไปยังเผ่าพันธุ์มนุษย์และแสร้งทำเป็นม้าที่ดี”

อู๋เป่ย :“ที่แท้เจ้ากลัวตาย”

จุยเตี้ยนเยาะเย้ย :“เจ้าไม่กลัวตายเหรอ? เจ้าในตอนนี้ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ ผู้แข็งแกร่งแค่ผายลมก็สามารถฆ่าเจ้าได้!”

อู๋เป่ย :“อย่างน้อยตอนนี้ข้าก็ปลอดภัย”

จุยเตี้ยน :“นั่นเป็นเพราะว่าเจ้ายังไม่ได้สัมผัสกับผู้แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ขอโทษที่ข้าต้องพูดตรงๆ ถ้าเจ้าสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกสองเดือนก็ถือว่าเป็นปาฎิหารย์แล้ว”

อู๋เป่ยตกตะลึง :“สองเดือนเหรอ? ทำไมล่ะ? ”

จุยเตี้ยน :“จากที่ข้าสังเกต พวกเราที่มาใหม่ เดือนแรกค่อนข้างจะปลอดภัย หลังจากหนึ่งเดือน กฎเกณฑ์ของโลกนี้จะกลายเป็นอันตรายต่อเจ้า และใช้ความลำบากต่างๆมาจัดการกับเจ้า”

อู๋เป่ยครุ่นคิด แล้วถามว่า :“เจ้าไม่ได้บอกว่า เจ้าเปลี่ยนนายท่านมาหลายคนแล้ว ซึ่งหมายความว่าเจ้ามีชีวิตอยู่มานานแล้ว แล้วเจ้าทำได้อย่างไร? ”

จุยเตี้ยน :“มีอยู่หลายครั้ง ที่ข้าเองก็เกือบตาย อย่างไรก็ตาม ข้าก็ค้นพบความลับบางอย่าง จึงสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป”

อู๋เป่ย :“ความลับอะไร? ”

จุยเตี้ยน :“ความลับของข้า จะบอกเจ้าฟรีๆได้อย่างไร”

อู๋เป่ยยิ้มแล้วพูดว่า :“เมื่อไปถึงเมืองจาง ข้าจะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่เจ้าเอง”

จุยเตี้ยน :“ข้าอยากกินเนื้อ”

แม้ว่าเขาจะรู้สึกแปลกที่ม้ากินเนื้อ แต่อู๋เป่ยก็รับปากเขา แล้วพูดว่า :“เจ้าอยากกินมากเท่าไหร่ก็ได้”

จุยเตี้ยนพอใจและพูดว่า :“ข้าค้นพบว่า ขอเพียงพลังยุทธ์ไม่พัฒนาขึ้น กฎเกณฑ์ของที่นี่ก็จะเพิกเฉยต่อเจ้า”

อู๋เป่ยหรี่ตาลง :“แล้วถ้าหากพลังยุทธ์พัฒนาขึ้นเรื่อยๆล่ะ? ”

จุยเตี้ยน :“พลังยุทธ์ยิ่งพัฒนามากขึ้นเร็วเท่าไหร่ โลกนี้ก็จะมุ่งร้ายกับเจ้ามากขึ้นเท่านั้น ข้าเคยติดตามนายท่านคนหนึ่ง เขาคือเทียนเจียวแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ ภายในระยะเวลาสามวันสั้นๆเขาก็บรรลุถึงระดับที่สูงสุด อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาบรรลุระดับขั้นได้ไม่นาน เขาก็ถูกสังหารโดยผู้แข็งแกร่งเผ่าหวู่ ถ้าไม่ใช่เพราะข้าหลบหนีได้เร็ว ก็ตายตามเขาไปอย่างอนาถแล้ว”

อู๋เป่ย :“ถ้าเช่นนี้ หากอยากแข็งแกร่งขึ้น ก็ต้องเผชิญหน้ากับความอาฆาตพยาบาทจากโลกนี้เหรอ? ”

จุยเตี้ยน :“ใช่แล้ว คนที่ยิ่งเก่ง ก็จะถูกฆ่าได้ง่าย คนที่ยิ่งธรรมดา กลับสามารถมีชีวิตอยู่รอด เหมือนเจ้ากับข้า หลายปีที่ผ่านมาไม่มีการพัฒนา หรือว่าแค่พัฒนาขึ้นบ้างเล็กน้อย ดังนั้นข้าจึงเจอพิบัติที่เล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ อู๋เป่ยก็พูดเบาๆว่า :“หากให้ชีวิตแบบธรรมดาไปเรื่อยๆ แล้วมันจะแตกต่างอะไรกับการตาย? ”

จุยเตี้ยนอึ้งไป จากนั้นก็เยาะเย้ย :“มีชีวิตแบบธรรมดา? แต่ถ้าหากแค่มีชีวิตอยู่ก็ไม่สามารถทำได้ แล้วจะพยายามไปเพื่ออะไร? ”

อู๋เป่ยพูดเบาๆว่า :“ก็อาจจะใช่ ก่อนมาที่นี่ข้าเคยเจอคนคนหนึ่ง เขาก็เคยมาที่นี่เพื่อผ่านพิบัติการมหาเทพ เขาบอกข้าว่าต้องหาจุดสมดุลให้เจอ”

จุยเตี้ยนถามว่า :“อะไรคือจุดสมดุล? ”

อู๋เป่ย :“เดิมทีข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านี้ของเจ้า ข้าก็พอรู้แล้วว่าอะไรคือจุดสมดุล”

จุยเตี้ยนไม่เห็นด้วย :“รู้แล้วยังไง? แนวคิดเรื่องสมดุลนั้นมีมาโดยตลอด แต่จะมีสักกี่คนที่ค้นพบมัน? ”

อู๋เป่ยพยักหน้า :“การมีกฎเกณฑ์เป็นเรื่องดี ไร้กฎเกณฑ์จะไม่มีระเบียบ ข้าเองก็มีกฎเกณฑ์อยู่ด้วยเหมือนกัน ใครที่กล้าข่มขู่ข้า ข้าก็จะตัดแขนขาของเขา และทำลายพลังยุทธ์ของเขา และจะยึดเอาทรัพย์สินทั้งหมดของเขาไปด้วย”

เมื่อทั้งสี่คนได้ยินคำพูดของอู๋เป่ย ต่างก็ตกตะลึง คิดในใจว่าคนคนนี้ป่วยทางจิตใช่ไหม? เวลาแบบนี้ ยังจะปากแข็งอีก!

ชายร่างสูงและผอมบางเดินเข้ามาพร้อมดาบใหญ่ในมือ เขาลูบจมูก แล้วพูดว่า :“เอาดาบข้าไปกินก่อน ถ้าเจ้าหลบดาบข้าได้ แล้วค่อยคุยโวก็ยังไม่สาย”

เขาบอกว่าฟันดาบก็ฟัน ทันทีที่เขาบิดตัว ดาบบนบ่าของเขาก็ฟันลงมาราวกับสายฟ้า ด้วยความเร็วยิ่ง

แม้ว่าพลังยุทธ์ของอู๋เป่ยนั้นจะต่ำ และทักษะศิลปะการต่อสู้และจิตปราชญ์สำนึกของเขายังคงอยู่ ทันทีที่อีกฝ่ายบิดเอว เขาก็เข้าไปใกล้อีกสองสามก้าว เมื่อดาบของคู่ต่อสู้หลุดออกจากบ่า เขาก็เข้ามาใกล้หน้าอกของชายร่างสูงผอมบาง และต่อยหมัดใส่บนตันเถียนของเขา

“ฟุบ!”

พลังนี้ทรงพลังมาก ชายร่างสูงผอมบางกรีดร้อง และทรุดตัวลงกับพื้น การโจมตีของอู๋เป่ย ได้ทำลายพลังยุทธ์ของเขา

อีกสามคนตกใจมาก พลังยุทธ์ของชายร่างสูงผอมบางไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขา แต่กลับพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว เจ้าหนูคนนี้แข็งแกร่งเกินไป!

พวกเขาทั้งสามคนก้าวออกมาพร้อมกัน และจ้องมองอู๋เป่ยอย่างระมัดระวัง

อู๋เป่ยหยิบดาบที่อยู่บนพื้นขึ้นมา ยิ้มแล้วพูดว่า :“ข้าก็ใช้ดาบเป็นเช่นกัน เรามาสนุกกันเถอะ”

ขณะที่เขาพูด เขาก็อยู่ตรงหน้าทั้งสามคนพร้อมด้วยดาบที่คม ทั้งสามคนต่างก็มีกระบี่ กริชและอาวุธอื่นๆอยู่ในมือ แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะลงมือ พวกเขาก็รู้สึกเย็บวูบที่หน้าอก และมีเลือดกระเด็นออกมา

“พุบ!”

หนึ่งในสามคนนั้นคุกเข่าลงบนพื้น โดยมีรอบถูกฟันที่หน้าอก อู๋เป่ยกรีดหัวใจของเขาด้วยดาบเล่มนี้ เลือดพุ่งออกมา และเขาก็เสียชีวิตทันที

คนที่สองก็มีเลือดพุ่งออกมาเช่นกัน แต่ว่าไม่ถึงกับตาย แต่ซี่โครงของเขาหักไปหลายเส้น และสูญเสียพลังยุทธ์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ