เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 1941

เขามีพื้นฐานที่ดีมากอยู่ ไม่นานโลกแห่งเซียนสวรรค์ก็ปรากฏขึ้น ภายนที่กว้างขวางนั้นเป็นมรกตและมีวิหารสมบัติ สีสันสวยสดงดงาม อู๋เป่ยเองก็ยังถือว่าค่อนข้างตกใจเช่นกัน

เมื่อโลกแห่งเซียนสวรรค์ปรากฏขึ้น ส่วนหนึ่งในพลังของอู๋เป่ยทั้งหมดที่ได้ตกตะกอนกลายเป็นโลกแห่งเซียนสวรรค์นั้น ได้หลอมรวมและเสริมเข้ากันและค่อยๆกลายเป็นพลังที่มหาศาลมาก

พลังในรูปแบบนี้ถือเป็นพลังแบบแท่นบูชาจิตวิญญาณ แต่ผลลัพธ์ของมันนั้นมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าพลังแท่นบูชาจิตวิญญาณเป็นร้อยเป็นพันเท่า!

เมื่ออู๋เป่ยได้เปลี่ยนระดับพลังมาเป็นเซียนสุญญตา บุคลิกของเขาเองก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป ส่วนลมปราณของความเป็นราชานักบุยและจักรพรรดิผู้เที่ยงธรรมก็ได้ถูกปกปิดไว้ ในยามนี้เขาดูเป็นแค่เซียนสุญญตาธรรมดาผู้หนึ่งที่ไม่ได้มีพิษมีภัยใดๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาเป็นถึงผู้ที่เปิดเส้นทางเซียนสู่โลกแห่งเซียนสวรรค์ เป็นบรรพบุรุษของเหล่าเซียนสวรรค์ และพลังมหาศาลที่ทั้งโลกต้องสั่นสะเทือน!

เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา เวลาก็ได้ล่วงเลยไปเช้าวันที่สองแล้ว เขาดูแล้วก็น่าจะถึงเวลาแล้วจึงนำของที่เฉินรั่วเสียนเอามาจากรังเวทย์ปีศาจมาเปิดออก

ผ่านไปครึ่งวัน แต่เฉินรั่วเสียนใช้เวลาถึงเก้าปีในการฝึกฝนอย่างหนัก จนเธอไม่เพียงแต่ได้อยู่ในฐานะมหาเทพ แต่เธอยังอยู่ในชั้นราชาผู้เที่ยงธรรมอีกด้วย อีกทั้งยังนำเส้นทางเทพเซียนฝึกฝนจนถึงชั้นเซียนสุญญตาอีกด้วย

ในร่างกายของเธอตอนนี้ ได้มีประตูบานหนึ่งที่ทอดตรงไปที่โลกแห่งเซียนสวรรค์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นลูกศิษย์คนแรกของอู๋เป่ยที่เป็นเซียนแห่งสวรรค์!

เฉินรั่วเสียนรีบทำความเคารพต่ออู๋เป่ย “ท่านพี่หลี่ ขอบคุณมากๆค่ะ !”

อู๋เป่ย “ไม่เป็นไร ตอนนี้เธอรู้สึกยังไงบ้าง?”

เฉินรั่วเสียนกล่าว “ในวันนี้ได้พบกับมรรคาจารย์ต่อหน้าแล้ว ฉันก็รู้สึกผ่อนคลายมากๆแล้ว”

อู๋เป่ยยกยิ้มพอใจเป็นอย่างมาก “เธอมีพลังของมหาเทพและราชาผู้เที่ยงธรรมแล้ว แน่นอนว่าพลังนั้นจะยิ่งแข็งแกร่ง”

จากนั้นทั้งสองได้ผู้พูดคุยกันอยู่ชั่วครู่ ก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านนอกร้านยา เป็นชายหน้าย่นคนนั้นที่มาเมื่อวานนี้มาเคาะประตูอีกแล้ว

เฉินรั่วเสียนเปิดประตู ชายหน้าย่นยิ้มทักทาย “ปรมาจารย์ปรุงยาหลี่ นายตรวจสวรรค์ของตระกูลผมมาแล้วครับ!”

เมื่อกล่าวจบ ก็มีชายคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังของเขา ท่าทางดูไม่ธรรมดา เขาสวมด้วยชุดนายตรวจสวรรค์ เขาคือหยูเหวินฉี

สายตาของหยูเหวินฉีมองตรงไปยังอู๋เป่ย เขาเดินผ่านประตูเข้ามาด้วยรอยยิ้มและยกมือคำนับให้กับอู๋เป่ย “ผมหยูเหวินฉี ผมเคยพบคุณแล้ว!”

อู๋เป่ยหันไปถามเฉินรั่วเสียน “รั่วเสียน ใช่เขาไหม?”

เฉินรั่วเสียนพยักหน้า “ใช่แล้ว!”

หยูเหวินฉีชะงักไปชั่วครู่ เขามองไปที่เฉินรั่วเสียนด้วยความสงสัย แต่จากนั้นไม่นานเขาก็นึกขึ้นมาได้ และกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ “คุณคือ...”

เฉินรั่วเสียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฉันก็คือคนที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นคนสุดท้ายของตระกูลเฉินยังไงล่ะ หยูเหวินฉี ฉันรอที่จะพบคุณมานานแล้ว!”

หยูเหวินฉีมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป และตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่รุนแรง “เฉินรั่วเสียน เธอยังจะกล้าอีกเหรอ รนหาที่ตายจริงๆ!”

อู๋เป่ย “แกนี่พูดได้ไม่อายปากจริงๆ แกคิดว่าแกเก่งกาจขนาดนั้นเลยเหรอ?”

หยูเหวินฉีจ้องไปที่อู๋เป่ย ความเกรงใจในแววตาหายไปอย่างสิ้นเชิง เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกเหยียดหยาม “แกมันก็แค่เซียนสุญญตาตัวเล็กๆคนหนึ่ง แต่กล้ามาพูดจาแบบนี้กับนายตรวจสวรรค์ ไปเอาความกล้ามาจากไหนเหรอ?”

อู๋เป่ยหัวเราะและตอบกลับ “ถึงฉันจะเป็นแค่เซียนสุญญตา แต่ก็พอที่จะจัดการกับแกได้แล้วกัน”

ชายหน้าย่นทั้งตกใจทั้งโมโห “ได้!ที่แท้แกก็ตั้งใจมาหลอกนายตรวจสวรรค์ของตระกูลฉัน แกนี่มันกล้าจริงๆเลยนะ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”

“จงหุบปากตลอดไป!” อู๋เป่ยกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เมื่อกล่าวจบ ปากของชายคนนั้นก็ประกบติดกันสนิททันที ราวกับมีกาวติดเอาไว้ ไม่ว่าจะพยายามเปิดอย่างไรก็เปิดไม่ได้ ชายหน้าย่นนั้นมีสีหน้าหวาดกลัวขึ้นมา อยากจะตะโกนออกไปแต่ก็ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาได้ จนต้องนั่งลงบนพื้นด้วยความทุกข์ระทม

หยูเหวินฉีหรี่ตาลง “โธ่นี่มันก็แค่วิชาง่ายๆ!”

พูดจบ มือขวาของเขาตรงไปจับที่อู๋เป่ย มือสีม่วงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา บนฝ่ามือมีพลังสังหารสิบสองชนิด

“วิชาสยบ!”

หยูเหวินฉีได้แสดงคาถาเสริมพลังออกมา พละกำลังที่ออกมานั้นมหาศาลนัก มีเพียงมหาเทพเท่านั้นถึงจะใช้คาถานี้ได้ แสงสีม่วงขนาดใหญ่ที่กำลังตรงมาจับอู๋เป่ยนั้น ก็ถูกแสงเซียนปกป้องร่างของเขาไว้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถจับตัวเขาได้ ทั้งสองฝ่ายจึงถึงทางตัน

“วิชามหาเทพของแกมันธรรมดาเกินไป ฉันจะแสดงให้แกดูสักหน่อยแล้วกันว่าคาถาเสริมพลังที่แท้จริงมันเป็นยังไง!”

อู๋เป่ยพยักหน้า “เมื่อหยูเหวินฉีตายแล้ว ทางด้านนั้นต้องได้รับข่าวคราวเป็นแน่ พวกเราต้องรีบลงมือ” เมื่ออู๋เป่ยพูดจบ ก็มองไปทางชายหน้าย่นคนนั้น

ชายคนนั้นที่เห็นว่าหยูเหวินฉีตายแล้ว ก็รีบคุกเข่าลงและชี้ไปที่ปากของตัวเองไม่หยุด

อู๋เป่ย “แกพูดได้แล้ว”

ทันใดนั้น ปากของชายคนนั้นก็แยกออกจากกัน เขารีบเอ่ยขึ้น “ช่วยไว้ชีวิตฉันเถอะ ขอเพียงแค่ท่านไม่ฆ่าผม จะให้ผมทำอะไรก็ได้หมดเลย!”

อู๋เป่ย “ฉันไม่ฆ่าแกก็ได้ แต่แกต้องบอกมาว่าทำยังไงถึงจะกำจัดหยูเหวินชิงได้?”

ชายหน้าย่นกระพริบตาปริบๆ พร้อมกับกล่าวขึ้น “ถ้าพวกท่านทั้งสองต้องการจัดการกับตระกูลหยูเหวิน พวกท่านจะต้องทำสิ่งหนึ่งก่อน”

อู๋เป่ย “ทำอะไร?”

ชายหน้าย่น “ศูนย์กลางของตระกูลหยูเหวินคือบรรพบุรุษ พลังของเขาน่ากลัวมากๆ อีกทั้งในมือของเขายังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ข้อแนะนำเลยคือก่อนที่จะลงมือกับตระกูลหยูเหวินนั้นจะต้องกำจัดอาวุธพวกนั้นเสียก่อน!”

อู๋เป่ย “กำจัดอาวุธ?แบบนี้อาวุธนั่นไม่ได้อยู่ในมือของบรรพบุรุษหยูเหวินงั้นเหรอ?”

ชายหน้าย่น “อาวุธนั้นมันทรงพลังมาก หยูเหวินซวีก็เพียงแค่ควบคุมมันแค่ชั่วคราว โดยปกติมันจะถูกเก็บไว้ในที่เฉพาะของมัน อีกทั้งผู้คุมก็ไม่ได้เข้มงวดเท่าไหร่นัก”

อู่เป่ย “ในเมื่อเป็นของสำคัญเช่นนี้ ทำไมถึงไม่เฝ้าดูอย่างเข้มงวดล่ะ?”

ชายหน้าย่น “เครื่องมือศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจิตวิญญาณ ถ้าคนนอกเข้าไปใกล้ ก็จะทำให้สตันไป ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ายุ่งกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลหยูเหวิน ”

อู๋เป่ย “หยูเหวินซวีไม่ได้อยู่กับตระกูลหยูเหวินเหรอ?”

ชายหน้าย่น “ไม่อยู่หรอก ไม่ได้กลับมาเดือนกว่าๆแล้ว ดูเหมือนว่าจะไปจัดการกับธุระสำคัญที่ด้านนอก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ