ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 198

อู๋เป่ยส่งคุณตากลับบ้าน และช่วยปฐมพยาบาลแผลถลอกให้กับท่านอาวุโส จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “คุณตาครับ ต่อไปนี้ห้ามขี่สามล้อออกไปข้างนอกอีกนะครับ รถขับขี่ไปมามันอันตรายมาก คุณตาอายุเยอะแล้วด้วย ถ้าโดนชนมันจะไม่คุ้มกัน เอาอย่างนี้แล้วกันครับ ผมจะจัดคนขับรถให้คุณตาหนึ่งคน คุณตาอยากไปไหน ก็ให้คนขับรถพาไป ดีไหมครับ?”

คุณตารีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้องไม่ต้อง นั้นมันต้องใช้เงินมากเลยนะ ฉันเองก็ไม่ใช่ข้าราชการเกษียณอายุงานสักหน่อย จะเอาคนขับรถไปทำไมกันเล่า”

อู๋เป่ยหัวเราะและพูดว่า “คุณตา สถานะของคุณตาไม่ต่างอะไรกับข้าราชการเกษียณอายุงานหรอกครับ คุณดูนี่สิ”

เขาหยิบบัตรประจำตัวจากกระทรวงรักษาความมั่นคงของตัวเองออกมา เมื่อคุณตาเห็น เขาก็มองตาโตด้วยความตกใจ “เสี่ยวเป่ย เธอเป็นข้าราชการด้วยหรือ?”

อู๋เป่ยพยักหน้า “ใช่ครับ ตำแหน่งของผมตอนนี้เทียบเท่ากับตำแหน่งหัวหน้าเมือง ในฐานะคุณปู่ของข้าราชการระดับสูง มันไม่มากเกินไปหรอกที่จะจัดคนขับรถให้กับท่านอาวุโส จริงไหมครับ?”

คุณตายังคงโบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้องไม่ต้อง มันสิ้นเปลืองเกินไป”

อู๋เป่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่เหมาะสม เขาพูดว่า “คุณตา พรุ่งนี้คุณตากับคุณยายย้ายไปอยู่ที่ตงหูเลขที่สามแล้วกันนะ แบบนี้แม่ของผมจะได้ดูแลพวกคุณได้ด้วย ที่นั่นมีคนขับเหมือนกัน ถ้าคุณตาอยากจะออกไปข้างนอก ก็ให้คนขับพาไปส่ง แบบนี้ดีไหมครับ?”

คุณตาคิดอยู่สักครู่ จากนั้นก็หันไปถามคุณยาย “ยาย ยายว่ายังไงดีหล่ะ?”

คุณยายหัวเราะและตอบไปว่า “เสี่ยวเป่ยบอกให้ไป งั้นพวกเราก็ไปอยู่สักสองสามวันดูสิ ฉันเคยไปที่นั่นหลายครั้งแล้ว ที่นั่นมีหลายห้องเลย อยู่ได้สบาย ”

อู๋เป่ยหัวเราะ “รอคฤหาสน์ของครอบครัวเราสร้างเสร็จก่อน แล้วค่อยย้ายกลับไปอยู่นะครับ”

คฤหาสน์ที่สร้างอยู่ในบ้านหลังเก่า คุณตาต้องเดินไปดูทุกวันถึงจะรู้สึกสบายใจ เมื่อเขาได้ยินดังนั้นจึงหัวเราะและพูดว่า “ตกลง เมื่อถึงเวลานั้นพวกฉันจะย้ายเข้าไป”

อู๋เป่ยช่วยคุณตาทำแผลจนเสร็จ คุณยายก็ยกซุปเม็ดบัวมาหนึ่งชาม และยืนกรานให้เขาดื่มจนหมด อู๋เป่ยไม่มีทางเลือก นอกจากยกชามและซดซุปนั้นลงไปอย่างรวดเร็ว

พอวางชามซุปลง ก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู คุณยายออกไปเปิดประตู จากนั้นก็มีเสียงก้าวร้าวดังขึ้น “พี่ใหญ่ ฉันมาเยี่ยมเธอแล้วนะ!”

เมื่อได้ยินเสียงนั้น ใบหน้าใหญ่ๆ ที่ทั้งกลมทั้งดำก็ปรากฏขึ้นในความคิดของอู๋เป่ยทันที จากนั้นชายหัวล้านครึ่งหัวสวมเสื้อยืดสีขาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามา มีชายวัยรุ่นอายุราวยี่สิบต้นๆ ท่าทางน่าสมเพช หน้าตาดูอัปลักษณ์เดินตามหลังเขาเข้ามาด้วย

เมื่อเห็นเขาแล้ว คุณยายก็มีท่าทีหวาดกลัว ในเวลาเดียวกันก็แสดงท่าทางทำตัวไม่ถูกออกมา

อู๋เป่ยรู้สึกจำชายผู้นี้ได้เป็นอย่างดี เขาชื่อว่า จังลี่ฉวิน เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณตา จังลี่ฉวินผู้นี้ ชอบมาหยิบยืมเงินอยู่บ่อยๆ พอไม่ให้ยืม เขาก็ไม่กลับ แถมยังมานั่งกินนอนกินอยู่ที่บ้านอีกด้วย

ได้ยินมาว่าเมื่อหลายปีก่อนบ้านของจังลี่ฉวินถูกรื้อถอน ห้องชุดสามชุดถูกยึดไป และยังมีค่ารื้อถอนอีกมากกว่าหนึ่งล้านหยวน จากนั้นเขาก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย วันนี้จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น มันช่างน่าแปลกใจเสียจริง

ชายหนุ่มที่เดินตามหลังจังลี่ฉวินมานั้น เขาเองก็จำได้ คนผู้นั้นมีชื่อว่า จังฉี่เฉิน เป็นลูกชายของจังลี่ฉวิน ตอนเด็กๆ เขาชอบมาพักอาศัยอยู่บ้านของคุณตา มาอยู่ทีสิบวันไม่ก็ครึ่งเดือน เนื่องจากอายุของเขามากกว่าอู๋เป่ย ดังนั้นเขาจึงแกล้งอู๋เป่ยไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว

คุณตาเอ่ยว่า “ลี่ฉวิน แกมาได้ยังไง? ที่บ้านเป็นไงบ้าง สบายดีไหม?”

เมื่อเอ่ยถึงครอบครัวขึ้นมา จางลี่ฉวินก็ถอนหายใจและพูดว่า “พี่ใหญ่ อย่าพูดถึงเลย หลายปีก่อนฉันถูกรื้อบ้านไปหลายหลัง พอสถานการณ์ทางบ้านดีขึ้นได้นิดหน่อย ไอ้เด็กคนนี้ก็หมกมุ่นอยู่กับการเก็งกำไรหุ้น เขาเอาบ้านของครอบครัวไปจำนอง และนำเงินที่ได้สามล้านบาทไปซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไร แถมยังใช้วิธีคำนวณค่าเฉลี่ยหุ้นอะไรไม่รู้ ทีนี้หล่ะ สามล้านบาทหายไปกับตา!”

คุณตากับคุณยายมองหน้ากันด้วยความตกใจ เงินสามล้านบาท หายไปในพริบตา? ไอ้เด็กคนนี้มันทำบ้าอะไรหน่ะ?

จังฉี่เฉินขยี้จมูกและพูดว่า “พ่อ ถ้าฉันมือไวกว่านี้อีกนิด ก็จะทำเงินได้อย่างต่ำห้าล้านบาทแล้ว จะว่าไป เป็นเพราะเงินทุนของฉันมันไม่พอต่างหากหล่ะ ถ้าเงินทุนหนามากพอหล่ะก็ ฉันต้องทำเงินได้แน่ๆ”

“เพ้อเจ้อหน่ะ!” จังลี่ฉวินตะคอกด้วยความโกรธ “ต่อให้กูเอาเงินให้มึงร้อยล้านบาท มึงก็พลานจนหมดอยู่ดีนั่นแหละ!”

พูดจบ เขาก็มองไปที่คุณตาของอู๋เป่ย หัวเราะและพูดว่า “พี่ใหญ่ ที่ฉันมาที่นี่ เพื่อจะขออะไรท่านสักอย่าง.....”

“ช้าก่อน” อู๋เป๋ยรีบลุกขึ้นยืนทันที “คุณตาสาม ตั้งแต่ฉันจำความได้ คุณก็มายืมเงินคุณตาของฉันอยู่บ่อยๆ น่าจะไม่ต่ำกว่าแสนได้หล่ะมั้ง? โดยเฉพาะตอนที่ฉันยังเด็ก ตอนนั้นค่าของเงินมันสูงมากเลยนะ! เงินที่คุณยืมไปนั้น คุณไม่เคยนำมาคืนเลยแม้แต่บาทเดียว ถ้าครั้งนี้คุณคิดจะมายืมอีกหล่ะก็ ไม่มีปัญหา แต่ช่วยคืนเงินที่ยืมไปก่อนหน้านี้มาก่อนนะ”

สีหน้าของจังลี่ฉวินดูเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “แกเป็นเด็กทำไมถึงได้พูดจากับผู้ใหญ่อย่างนี้หล่ะ? ฉันยืมเงินของพี่ใหญ่ เพราะพวกเราสนิทชิดเชื้อกัน สนิทกันมากที่สุด แกเคยเห็นฉันไปยืมเงินคนอื่นไหมหล่ะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ