อู๋เป่ยขยับตัวพร้อมกับกระแอมออกมาเล็กน้อย และเอ่ยขึ้น “ที่หัวหน้าคุ้มกันพูดมานั้นถูกต้องที่สุด ขาที่ดีขนาดนี้ จะซ่อนยังไงก็คงซ่อนไม่พ้น แต่ไม่เป็นไร แค่พวกเราไม่ลงจากรถม้าไป พวกเขาก็ดูไม่ออกแล้ว”
ในที่สุดหันเสวี่ยฉีก็เก็บขากลับมาได้แล้ว ซึ่งเป็นก็เวลาเดียวกับที่รถม้าได้เคลื่อนผ่านสำนักคุ้มกันไป และมุ่งหน้าไปยังนอกเมือง
เมื่อรถม้าออกจากเมืองมาแล้ว หันเสวี่ยฉีก็เอ่ยขึ้นมาอย่างจริงจังและเคร่งครึม “ผู้คุ้มกันอู๋ ถ้าเกิดว่าฝ่ายนั้นลงมือเมื่อไหร่ คุณไม่ต้องลังเลเลยนะ ใช้อาวุธเวทมนตร์ในมือของคุณลงมือได้เลย กำจัดพวกมันให้สิ้นซาก แค่นี้ก็น่าจะทำให้พวกมันถอยไปได้!”
อู๋เป่ย “พวกตระกูลหมาป่านี่ก็เหลือเกินจริงๆ ถอนหมั้นก็ถอนไปแล้ว ยังจะตามกัดไม่ปล่อยอีก”
หันเสวี่ยฉี “มันเรื่องของการรักษาหน้า ที่รีบร้อนที่จะยกลูกสาวให้กับศัตรูของตระกูลหมาป่า สุดท้ายกเป็นการหาเรื่องใส่ตัวจนได้”
อู๋เป่ย “การที่เขาทำแบบนี้ แสดงว่าก็ต้องมีเหตุผลสิ?”
หันเสวี่ยฉี “นอกเหนือจากที่ต้องการขยายธุรกิจ ตระกูลหยางยังสามารถมอบยาอายุวัฒนะที่ท่านปาซานต้องการได้อีก ในตระกูลของท่านปาซานผู้นี้มียอดฝีมืออยู่หนึ่งคน ชื่อว่าท่านปาอู่ ท่านปาอู่นั้นสามารถไปถึงขั้นลับขั้นที่หกแล้ว และกำลังเตรียมตัวขึ้นไปขั้นที่เจ็ด”
อู๋เป่ย “ยาอายุวัฒนะอีกแล้วเหรอ พวกมนุษย์นี่ดูจะกระหายยาอายุวัฒนะเสียเหลือเกินนะ”
หันเสวี่ยฉี “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะยังไงแค่ปรุงยาได้ ก็ได้รับการเคารพจากกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในฐานะนักปรุงยาแล้ว”
อู๋เป่ย “แล้วที่เมืองมังกรดำมีนักปรุงยาบ้างมั้ย ?”
หันเสวี่ยฉี “ไม่มี เท่าที่ฉันรู้เมืองรอบๆนี้ไม่มีนักปรุงยาเลย”
อู๋เป่ย “การปรุงยามันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นนี่?”
หันเสวี่ยฉีหันไปมองที่อู๋เป่ยด้วยสีหน้าประหลาดใจ “อย่าบอกนะว่าคุณปรุงยาได้?”
อู๋เป่ยหัวเราะขึ้นเล็กน้อย “ก็ถ้ามีเตาปรุงยาก็สามารถลองดูได้”
หันเสวี่ยฉี “งั้นพวกยาเพิ่มพลัง ก็เป็นคุณที่ขายน่ะสิ?”
อู๋เป่ยชะงักไปเล็กน้อย “หัวหน้าคุ้มกันรู้?”
หันเสวี่ยฉี “ฉันรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองมังกรดำทั้งหมดนั้นแหละ ผมเองก็เคยให้คนไปซื้อยาเพิ่มพลังของคุณมาอยู่หลายขวด ผลลัพธ์ก็ดีมากๆ แต่ก็ถือว่ายังห่างไกลจากยาอายุวัฒนะอยู่มาก”
อู๋เป่ย “แน่นอนอยู่แล้ว เพราะยานี้ใช้เพียงแค่ส่วนผสมธรรมดาปรุงขึ้นมา ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วไม่สามารถเทียบเคียงกับยาอายุวัฒนะได้เลย”
ดวงตาของหันเสวี่ยฉีเป็นประกายขึ้นมา “เช่นนั้นถ้าฉันจัดหาส่วนผสมของยาและเตาปรุงยามาให้คุณได้ คุณก็จะสามารถปรุงยาอายุวัฒนะที่แท้จริงออกมาได้ใช่ไหม?”
จริงๆแล้วอู๋เป่ยเองก็ไม่แน่ใจ แต่ถึงยังไงนี่ก็เป็นโลกขอบเขตแห่งเต๋าขั้นที่เก้า ซึ่งไม่เหมือนกันกับโลกก่อนหน้านี้ เขาจึงตอบกลับ “ก็ไม่แน่ แต่ก็มีโอกาสที่จะสำเร็จ”
หันเสวี่ยฉีพยักหน้า “จริงๆแล้วที่บ้านของฉันก็มีเตาปรุงยาอยู่นะ เป็นเตาที่ได้มาโดยบังเอิญตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษน่ะ ถ้าถึงตอนนั้นคุณจะไปดูสักหน่อยก็ได้ ในส่วนของส่วนผสมยา ฉันก็พอจะมีทางช่วยคุณได้อยู่นะ”
อู๋เป่ยหัวเราะ “ขอบคุณหัวหน้าผู้คุ้มกันมากๆ!”
ระยะทางกว่าห้าพันกิโล แน่นอนว่ารถม้าต้องใช้เวลาหลายวัน ดังนั้นพอถึงเวลากลางคืน เลยหาโรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อนเสียหน่อย
เมื่อมถึงที่โรงเตี๊ยม หันเสวี่ยฉีไปนอนอีกห้องหนึ่ง ส่วนอู่เป่ยก็ไปนอนอีกห้องข้างๆกัน
สภาพแวดล้อมของโรงเตี๊ยมนี้ถือว่าทั่วๆไป ของใช้ส่วนมากค่อนข้างเก่าและทรุดโทรมแล้ว ซึ่งหันเสวี่ยฉีก็ดูที่จะไม่ชอบใจนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากที่เขาฮวงแห่งนี้ไม่มีโรงเตี๊ยมอีกที่ให้เธอเลือกแล้ว มีเพียงที่นี่ที่เดียว
เมื่อเวลาล่วงเลยไปถึงยามเที่ยงคืน จู่ๆอู๋เป่ยที่นั่งขัดสมาธิอยู่ก็ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้น และผลักประตูห้องของหันเสวี่ยฉีให้เปิดออก
ซึ่งในยามนี้หันเสวี่ยฉีเองก็ขึ้นมานั่งอยู่บนหัวเตียงแล้ว พร้อมกับพยักหน้าให้เขาเบาๆ
อู๋เป่ยกล่าว “บนหลังคามีคน”
เมื่อพูดจบ ก็มีแสงไฟสลัวๆ ลอดลงมาจากข้างบน ซึ่งมาจากการที่มีคนเปิดแผ่นกระเบื้องออก
อู๋เป่ยยิงลำแสงออกไป จากลูกแก้วสีดำที่เขาส่วนไว้ในร่างกาย ที่มีขนาดเล็กเท่าเมล็ดถั่วทำด้วยเหล็กบริสุทธิ์
“ฟู่!”
คนที่อยู่บนหลังคาร้องด้วยความทรมาน จากนั้นก็กลิ้งตกลงมาด้านล่าง แรงกระแทกที่รุนแรงนั้นกระทบไปที่ดวงตาข้างซ้ายของเขาเต็มๆ
ผู้คุ้มกันคนนั้นปิดปากฉับทันที และไม่กล้าพูดอะไรอีก
ขณะเดียวกันเด็กก็นำชามาเสิร์ฟก่อน จากนั้นเย่เทียนก็เปิดฝาและดมกลิ่นทันที ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในโลกไหน สัมผัสของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม ซึ่งดีที่ชานี้ไม่มีปัญหาอะไร
จากนั้นเขาจึงรินชาลงในถ้วย ซึ่งเมื่อได้ดมไปดมมา เขาก็ขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงเข้ม “ในถ้วยชามีชายาพิษ!”
ทุกคนต่างพากันตกใจ ผู้คุ้มกันคนนั้นถามขึ้น “ผู้คุ้มกันอู๋ นี่เป็นยาพิษอะไรกัน?”
อู๋เป่ยกล่าว “เป็นยาสลบชนิดหนึ่งที่จะให้คนที่กินเข้าไปไม่รู้สึกตัว แต่ก็ไม่ถึงชีวิต พวกมันตั้งใจเลือกยาชนิดนี้มาไม่ใช่เพราะใจดีกับเราหรอก แต่เพราะยาตัวนี้มันยากที่สัมผัสได้ต่างหาก”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้แล้ว เขาก็เสียงเข้มขึ้นทันที “ทุกคนทำตามผม แกล้งสลบ”
เมื่อพูดจบจู่ๆร่างกายของเขาก็อ่อนปวกเปียก และไหลลงมาจากเก้าอี้ทันที
ผู้คุ้มกันที่เหลือเห็นดังนั้น ก็พากันแสดงทำเป็นอ่อนแรงและไหลลงไปที่พื้น ทันใดนั้นทุกคนในห้องก็ต่างลงไปนอนอยู่ที่พื้นกันหมด เหลือก็แต่หันเสวี่ยฉี ที่แกล้งส่งเสียงตกใจออกมา
“ฮ่าฮ่า...”
ที่ด้านนอกประตูมีเสียงหัวเราะเสียงดัง ดังขึ้นหลายเสียง จากนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็เข้ามา
“คุณหนูปา ถึงตอนนี้ยังจะมีคนคุ้มกันอยู่อีกไหม?”
หันเสวี่ยฉีเดินไปซ่อนที่หน้าต่าง พร้อมกับพูดขึ้น “ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องตัวฉัน พ่อแม่ฉันไม่เอาพวกแกไว้แน่!”
คนกลุ่มนั้นหัวเราะเสียงเย็น “ตัวพวกเขาเองยังแทบจะเอาตัวไม่รอด แล้วยังจะมาปกป้องคุณได้ยังกัน?มา จับจับตัวมันไว้!” ในขณะเดียวกัน สายตาของเขาก็สอดส่ายหาตัวอู๋เป่ย
เมื่อหาตัวอู๋เป่ยเจอแล้ว เขาก็รีบเดินเข้าไปที่ตัวอู๋เป่ยทันทีเพื่อตามหาอาวุธเวทมนตร์
เมื่อมือของเขาสัมผัสเข้ากับตัวอู๋เป่ย ก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที จากนั้นตัวของเขาก็ถูกลากไปตามพื้น คอก็หักไปโดยไม่รู้ตัว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...