ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 216

ผู้ชายที่เจาะหูคนนั้นไม่ได้ยืนขึ้น เขาเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยให้กับอู๋เป่ย นับว่าเป็นการทักทายให้กัน

อู๋เป่ยเองก็พยักหน้ากลับเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรมากเช่นกัน เขานำเอาเหล้ามาวางไว้ข้างๆ และนั่งลงระหว่างจังเป่าเซิ่งกับฉินรั่วยวี่

จังเป่าเฟิงแลกที่นั่งกับจังเป่าเซิ่ง เขาหัวเราะและพูดว่า “เสี่ยวเป่ย เดี๋ยวฉันจะลงโทษตัวเองด้วยสามแก้วนี้เอง”

อู๋เป่ยหัวเราะ “ฮ่ะ? ทำเรื่องอะไรไม่ดีมาหล่ะ ถึงต้องลงโทษตัวเองถึงสามแก้ว?”

จังเป่าเฟิงหัวเราะ “เหอะเหอะ” “ตอนเด็กๆ แกล้งเธอเอาไว้เยอะ วันนี้ฉันเลยอยากขอโทษเธออย่างเป็นทางการสักหน่อย”

อู๋เป่ยกลอกตามองบน “เรื่องที่เธอเอ่ยมานั้น สามแก้วมันไม่พอหรอก อย่างต่ำต้องสิบแก้ว”

จังเป่าเฟิงหัวเราะ “ฮ่าฮ่า” “ตกลง สิบแก้วก็สิบแก้ว”

ทุกคนต่างพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ซวีห่าวยีทนไม่ไหวจนพูดออกมาว่า “รั่วยวี่ รีบกินให้หมดจะได้รีบๆ กลับ เดี๋ยวต้องไปทำธุระอย่างอื่นต่ออีก”

ฉินรั่วยวี่ขมวดคิ้วและพูดว่า “ห่าวยี ในเมื่อมาแล้ว ก็อยู่ต่ออีกสักหน่อยเถอะ ถ้าเธอมีธุระด่วน เธอก็ไปก่อนได้เลย”

ซวีห่าวยีไม่พูดอะไรต่อ และดื่มน้ำชาที่ตนเองรินเอาไว้

จังเป่าเฟิงเหลือบเห็นถุงที่อู๋เป่ยนำมาด้วย เขาหัวเราะและพูดว่า “โอ้โห นี่มันเหล้าอะไรหน่ะ ขอฉันดูหน่อยว่าเป็นเหล้าชั้นดีมาจากไหน”

ภายในถุง มีเหล้าทั้งหมดห้าขวด ไวน์องุ่นสามขวด และเหล้าขาวอีกสองขวด ล้วนเป็นเหล้าที่เขาเอามาจากเยี่ยเสวียนนั่นเอง เขาเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหล้ามากนัก เลยหยิบมาไม่กี่ขวด

จังเป่าเฟิงยกไวน์องุ่นออกมาหนึ่งขวด บนขวดเขียนคำว่าไวน์ เมื่อดูบรรจุภัณฑ์ภายนอกของขวดแล้ว ดูเหมือนว่าจะเก่าเอามากๆ

จังเป่าเฟิงเห็นแล้วเขาก็แสดงท่าทางตกใจออกมา “ว้าว! โรมาเน กองติ สุดยอดไวน์องุ่นแดง ตั้งแต่ปีหนึ่งเก้าห้าศูนย์อย่างนั้นเลยหรือ?”

จังเป่าเซิ่งกะพริบตาและถามว่า “อะไรคือ กองติ หรือ?”

จังเป่าเฟิงมองบน “มันคือไวน์องุ่นแดงที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกยังไงหล่ะ ขวดธรรมดาทั่วไปยังมีราคาตั้งหลายแสนเลย แต่นี่มันเป็นของปีหนึ่งเก้าห้าศูนย์เชียวนะ ฉันนึกได้แล้ว ก่อนหน้านี้มีกองติปีหนึ่งเก้าห้าเจ็ดอยู่หนึ่งขวด ประมูลไปได้ในราคาสองล้านหยวน”

“เชี่ยเอ๊ย! สองล้านหยวนเลยหรือ?” จังเป่าเฟิงตะลึงตกใจมาก เขาจ้องมองไปทางอู๋เป่ยและพูดว่า “เสี่ยวเป่ย มิน่าหล่ะครอบครัวของเธอถึงได้สร้างคฤหาสน์ ซื้อรถหรูได้ ที่แท้ก็รวยแบบนี้นี่เอง ดื่มเหล้าทีดื่มเป็นล้าน”

อู๋เป่ยตกใจ เหล้านี้มีมูลค่ามากถึงสองล้านเชียวหรือ? ถ้ารู้มูลค่านี้แต่แรก เขาคงไม่เอามาด้วยแล้วหล่ะ!

อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถแสดงท่าทางเสียดายออกมาได้ จึงตอบอย่างเรียบเฉยว่า “มันเก็บอยู่ในบ้าน ฉันเลยเลือกเลือกเอามาขวดหนึ่ง”

ฉินรั่วยวี่หัวเราะและพูดว่า “โอ้โห เหล้าชั้นดีขนาดนี้ งั้นฉันต้องลองชิมสักหน่อยแล้วหล่ะ”

ซวีห่าวยีเหลือบมองขวดไวน์ และพูดเย้ยหยันว่า “เหล้าปลอมๆ แบบนี้ ไม่กินจะดีเสียกว่า ระวังมันจะมีพิษ”

ฉินรั่วยวี่ชะงัก “เหล้าปลอมอย่างนั้นหรือ?"

ซวีห่าวยีจุดบุหรี่ขึ้นมวนหนึ่ง ท่าทางราวกับเป็นผู้เชี่ยวชาญและพูดว่า “เหล้ากองติปีหนึ่งเก้าห้าศูนย์ปรากฏขึ้นที่เมืองเล็กๆ ในเขตชนบท พวกเธอเชื่อไหมหล่ะ?”

จังเป่าเซิ่งและคนอื่นล้วนแต่เป็นเพื่อนเล่นกับอู๋เป่ยมาตั้งแต่ยังเด็ก รู้ดีอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนยังไง เขาพูดว่า “ฉันว่าถ้าไม่มีหลักฐานหล่ะก็ อย่าพูดเรื่องไร้สาระจะดีที่สุดนะ”

ซวีห่าวยีหัวเราะเยาะเย้ย “เหอะเหอะ” “ไร้สาระหรือไม่ไร้สาระ พวกเธอชิมดูก็รู้แล้ว อ่อ จริงสิ ร้านอาหารเล็กๆ แบบนี้คงไม่มีแม้แต่ชุดเหยือกพักไวน์หรอกใช่ไหม”

หมี่เจี้ยนนำอาหารมาเสิร์ฟพอดี เขาพูดว่า “บังเอิญว่าฉันพึ่งซื้อแก้วไวน์คริสตัลมาชุดหนึ่ง งั้นเดี๋ยวฉันไปเอามาให้พวกเธอใช้ก็แล้วกัน”

เขาเดินกลับออกไปและหยิบชุดเหยือกพักไวน์เข้ามา ตามด้วยแก้วอีกเจ็ดใบ คุณภาพของแก้วนั้นดีมากๆ เขาซื้อมาเพื่อจะไว้ใช้เป็นของขวัญ ชุดนี้มีราคาถึงสามพันหยวนเชียวนะ

จังเป่าเฟิงหัวเราะและพูดว่า “พูดถึงเรื่องไวน์องุ่น ฉันพอจะมีความรู้อยู่บ้าง”

เขาเปิดขวดไวน์แดงออก และจัดการรินลงไปในชุดเหยือกพักไวน์ในปริมาณหนึ่งในสี่ส่วน จากนั้นก็เขย่าเบาๆ สองสามครั้ง และทำการดม

เขาเคลิ้มจนอดไม่ได้ที่จะหลับตาและพูดว่า “โห! มันคือของแท้ๆแน่นอน เสี่ยวเป่ย ครอบครัวของเธอมีเหมืองทองคำหรือไง?”

อู๋เป่ย “ไวน์แดงไม่น่าสนใจหรอก เอาให้รั่วยวี่ดื่มเถอะ พวกเรามาดื่มเหล้าขาวกันดีกว่า”

เขาล้วงมือเข้าไปในถุงและหยิบเหล้าเหมาไถหยวนเจียงออกมาหนึ่งขวด ไม่มีฉลากติดอยู่บนขวดเหล้านั้น เป็นขวดขวดหนึ่ง ที่ดูจากภายนอกแล้ว ท่าทางมันจะเก่าเอามากๆ

จังเป่าเฟิงหยิบเหล้าออกมา “ยังไม่ต้องบอกนะ ขอฉันดมก่อนว่าคือเหล้าอะไร”

เขาเปิดจุกก๊อกออก กลิ่นหอมกรุ่นของเหล้าก็โชยออกมาทันที แม้แต่ฉินรั่วยวี่เองยังดมเข้าไปจนเต็มปอดเลย และพูดว่า ‘หอมจังเลยอ่ะ’

แววตาของจังเป่าเฟิงดูเป็นประกาย “เหมาไถหยวนเจียง เหล้านี้น่าจะมีอายุอย่างน้อยห้าสิบปีเห็นจะได้ เสี่ยวเป่ย เธอเก่งจัง ทำเหล้าแบบนี้ออกมาได้ด้วย”

“เหมาไถหรือ?ขวดละกี่พันหล่ะ?” จังเป่าเซิ่งรีบถามขึ้นมาทันที

จังเป่าเฟิงแสดงท่าทางงี่เง่า “หลายพันอยู่ เธอพอจะซื้อขวดนี้ได้อยู่ เหล้าขวดนี้ถ้าเอาไปประมูลหล่ะก็ อย่างน้อยน่าจะได้สักประมาณเจ็ดหมื่น”

ซวีห่าวยีเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พอได้กลิ่นหอมกรุ่นของเหล้า ก็ชะงักไป สองสามวันก่อนหน้านี้ คุณปู่ของเขาพึ่งจะใช้เหล้าเหมาไถหยวนเจียงที่มีอายุสามสิบปีเลี้ยงต้อนรับแขกไปเอง เหมือนมันจะไม่หอมกรุ่นเท่านี้ หรือว่ามันเป็นของแท้กันแน่นะ?

เมื่อทุกคนได้ยินว่าเป็นเหล้าเหมาไถหยวนเจียง แม้แต่สองคนที่ไม่ดื่มเหล้ายังยกแก้วเหล้าขึ้นมาเลย ทุกคนรินเหล้ากันคนละแก้ว กลิ่นหอมของเหล้าลอยอบอวลไปทั่ว

ฉินรั่วยวี่ยังมาขอแก้วหนึ่งเลย เขาหัวเราะและพูดว่า “เหล้าดีขนาดนี้ ฉันจะพลาดไปได้ยังไงหล่ะ”

จังเป่าเฟิงยกแก้วขึ้นและพูดว่า “สหายทุกท่าน เหล้าแก้วแรกเพื่อแสดงความขอบคุณเสี่ยวเป่ย ขอบคุณที่เขานำเหล้าชั้นดีขนาดนี้มา”

“ชนแก้ว!”

ทุกคนต่างยกดื่มจนหมดเพียงอึกเดียว ซวีห่าวยีก็เช่นกัน พอเหล้าเข้าท้องแล้ว ความกลมกล่อมหอมหวานอบอวลอยู่นาน แม้แต่คนที่ไม่ดื่มเหล้าอย่างเขา ยังรู้เลยว่านี่คือเหล้าของแท้

“เหล้าดี!” จังเป่าเฟิงสีหน้าดูมีความสุข จนหน้าบานเป็นกระด้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ