“ชิงเอ๋อร์!” หญิงสาวกล่าวด้วยความยินดี พลางโอบนางไว้ในอ้อมแขน
จิ้งจอกสีครามออดอ้อนพลางพูดว่า “พี่สาว ขอบคุณที่หาหมอเทวดามาช่วยข้า”
หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ “ชิงเอ๋อร์ ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของพี่ หากเจ้าไม่ยอมสละตนเพื่อช่วยพี่ ก็คงไม่เสียเวลาถึงห้าร้อยปี”
ชิงเอ๋อร์ยิ้มแล้วกว่าว่า “พี่สาว การได้ช่วยท่าน ถึงต้องตายข้าก็ยอม ท่านอย่าลืมสิ ชีวิตข้าก็เป็นท่านที่ช่วยไว้เหมือนกัน”
พูดจบ นางก็เดินมาหาอู๋เป่ยแล้วโค้งคำนับอย่างงาม “ขอบคุณคุณชายที่ช่วยชีวิตข้าไว้”
อู๋เป่ยยิ้มแล้วกล่าวว่า “แม่นางชิงเอ๋อร์ไม่ต้องเกรงใจหรอก ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ช่วยท่าน แน่นอน ที่สำคัญที่สุดคือเทพธิดา หากไม่มียาอายุวัฒนะพวกนี้ ข้าก็สุดจะเนรมิตน้ำแกงจากหม้อเปล่าได้”
หญิงสาวเอ่ยเรียบๆว่า “เจ้ารักษาชิงเอ๋อร์หาย ข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้าแล้ว ยาอายุวัฒนะพวกนั้น เจ้าก็นำไปได้เลย”
“ขอบคุณเทพธิดา” อู๋เป่ยรีบเก็บยาอายุวัฒนะทั้งหมดที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าไปในแหวนมิติ ในใจยังรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เพราะจริงๆแล้วยังสามารถปรุงยาให้ดีกว่านี้ได้อีก เพียงแต่เสียดายสมุนไพรชั้นสูงที่เขาเพิ่งได้มา เพราะที่เหลือทั้งหมดล้วนเป็นของเขา!
เมื่ออู๋เป่ยเก็บของเสร็จเตรียมจะขอตัวลา ก็ได้ยินหญิงสาวพูดขึ้นว่า “ปล่อยเจ้าไปก็ได้ แต่เจ้าต้องช่วยข้าอีกเรื่อง”
ใจอู๋เป่ยสะดุ้ง เขารีบถามว่า “เทพธิดามีบัญชาใด?”
หญิงสาวพูดว่า “เจ้าพาชิงเอ๋อร์ไปด้วย ข้ากำลังจะเข้าสู่ห้วงพิบัติกาล หากนางอยู่กับข้า มีแต่จะถูกลูกหลงไปด้วย”
ชิงเอ๋อร์รีบค้าน “พี่สาว ข้าไม่ไป!”
หญิงสาวตอบเรียบๆ ว่า “เจ้าจะไปหรือไม่ มันก็ไม่ขึ้นกับเจ้า ฟังพี่เถอะ รอให้พี่ผ่านพิบัติกาลไปได้ พี่จะไปหาพวกเจ้าแน่นอน”
จากนั้นนางก็มองไปยังอู๋เป่ย “ชิงเอ๋อร์เพิ่งฟื้นพลัง เจ้ารู้ทักษะการแพทย์และการปรุงยา ฝากเจ้าช่วยดูแลนางให้ดี หากทำได้ดี ข้าจะมีรางวัลให้เจ้าในภายหลัง”
อู๋เป่ยกระพริบตา “วางใจได้เลย ท่านเทพธิดา ข้าจะดูแลแม่นางชิงเอ๋อร์อย่างดีที่สุด”
พูดจบ อู๋เป่ยและชิงเอ๋อร์ก็รู้สึกเหมือนโลกหมุนคว้าง จากนั้นทั้งสองก็หลุดออกจากดินแดนหลิงไท่ กลับมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง
ชิงเอ๋อร์ร้องเรียกทันทีว่า “พี่สาว!”
แต่บริเวณภูเขารอบด้านกลับเงียบงันไร้เสียงตอบ ราวกับร่างจำแลงเทพธิดายาอายุวัฒนะแห่งวิญญาณระดับสิบหก ได้จากไปแล้ว ไม่รู้ไปยังที่ใดเพื่อเผชิญพิบัติกาล
ชิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เต็มไปด้วยความอาลัย
อู๋เป่ยกล่าวว่า “แม่นางชิงเอ๋อร์ ไม่ต้องเศร้าเสียใจ ข้ารับรองว่าสักวันหนึ่ง พวกเจ้าพี่น้องจะได้พบกันอีกแน่นอน”
ชิงเอ๋อร์พยักหน้าเบาๆ “ขอบคุณคุณชายที่ปลอบใจ”
อู๋เป่ยพูดต่อ “แม่นางชิงเอ๋อร์ ข้ากำลังจะไปที่สำนักปรมาจารย์แห่งการปรุงยาแห่งอ้าวซื่อ ข้าคิดว่าท่านอยู่ข้างนอกก็คงไม่ดีนัก ควรเข้าไปพักฟื้นในตำรับโอสถดีกว่า ข้าจะคอยดูแลปรับสมดุลพลังให้ท่านทุกระยะ เพื่อให้พลังยุทธ์ฟื้นคืนสู่จุดสูงสุดในเร็ววัน”
จิ้งจอกสีครามตอบว่า “งั้นก็ขอรบกวนคุณชายด้วย”
อู๋เป่ยจึงหยิบตำรับโอสถออกมา จิ้งจอกสีครามแปรเปลี่ยนเป็นแสงเซียน แล้วพุ่งเข้าสู่ภายในทันที
หลังจากนั้น อู๋เป่ยก็ทยอยใส่ยาอายุวัฒนะแห่งวิญญาณระดับสิบขึ้นไปทั้งหมดที่ได้รับ เข้าสู่ตำรับโอสถด้วยเช่นกัน และเมื่อจำนวนมากขนาดนี้ถูกดูดกลืนเข้าไป ตัวตำรับโอสถก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหัศจรรย์ บนตำรับปรากฏแสงหนึ่งพุ่งออกมา กลายเป็นเด็กน้อยในชุดทองคำ
เด็กน้อยในชุดทองคำยิ้มให้กับอู๋เป่ย พลางกล่าวว่า “จิงถง ขอคารวะคุณชาย!”
อู๋เป่ยถามถามว่า “เจ้าคืออาวุธวิญญาณแห่งตำรับโอสถใช่ไหม?”
“ใช่แล้วคุณชาย เนื่องจากคุณชายได้รวบรวมสมุนไพรในระดับที่เพียงพอแล้ว จึงกลายเป็นผู้ใช้งานอย่างเป็นทางการในระดับเริ่มต้นของตำรับโอสถ”
อู๋เป่ย “หืม ก่อนหน้านี้ข้าไม่ใช่ผู้ใช้งานหรือ?”
“ถูกต้องครับคุณชาย ก่อนหน้านี้ท่านเป็นเพียงแขกผู้มาเยือน สามารถใช้งานบางส่วนเท่านั้น ตอนนี้ ตำรับโอสถสามารถเข้าสู่จิตวิญญาณของท่าน และสร้างโลกแห่งตนเองภายในได้แล้ว”
“ขอรับ”
หูจงหลิงพาอู๋เป่ยเข้าไปในประตูภูเขา เดินไปได้สักพัก อู๋เป่ยก็ถามว่า “เมื่อกี้ดูเหมือนหมอนั่นจะดูแคลนข้า?”
หูจงหลิงหัวเราะ “แม้จะถือป้ายคำสั่งนี้แล้วกลายเป็นศิษย์ระดับต้นได้ แต่เพราะไม่ได้ผ่านการคัดเลือกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เลยถูกมองว่าไม่มีศักยภาพแข่งขัน หลายคนอยู่เป็นศิษย์ระดับต้นไปตลอดชีวิต เลยไม่แปลกที่จะถูกดูแคลน”
ทั้งสองคุยกันไปเดินกันไป จนมาถึงหน้าหอแห่งหนึ่ง และเข้าไปลงทะเบียน ในการลงทะเบียนครั้งนี้ อู๋เป่ยใช้ชื่อจริงของตนเอง และระบุว่ามาจากเมืองฉือหยาง มีระดับพลังยุทธ์อยู่ในขั้นทารกพลังลับ
หลังจากนั้น เขาก็ได้รับสถานะอย่างเป็นทางการว่าเป็นศิษย์ระดับต้น แล้วหูจงหลิงก็พาเขาไปยังที่พักที่จัดสรรไว้ให้
บริเวณที่พักของศิษย์ระดับต้นมีขนาดใหญ่เท่ากับเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง ภายในมีเนินเขาหินสีขาวลูกหนึ่ง เลยถูกเรียกว่าเมืองไป๋ซาน ในเมืองไม่ได้มีแค่ศิษย์เท่านั้น ยังมีครอบครัวผู้ติดตาม และแม้กระทั่งญาติพี่น้องที่มาขออาศัยด้วย ทำให้ที่นี่คึกคักมาก
ทั้งสองเดินหาบ้านพักของตนจนเจอ เป็นอาคารสองชั้น มีทั้งหมดแปดห้อง ตัวลานกว้างขวางพอสมควร แต่เมื่อมาถึงกลับพบว่าประตูปิดอยู่ และมีเสียงคนพูดคุยภายใน
หูจงหลิงหันมาบอกอู๋เป่ยว่า “คุณชาย สงสัยที่พักเราถูกคนอื่นยึดไปแล้ว แบบนี้เกิดขึ้นบ่อย แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าจะไปคุยกับพวกเขาให้”
ว่าแล้วก็เดินไปเคาะประตู สักพัก มีชายคนหนึ่งไว้หนวดลักษณะคล้ายหนวดปีกนกมาเปิดประตู พอเห็นหูจงหลิงก็ถามเสียงห้วนๆ “มาหาใคร?”
หูจงหลิงยื่นบัตรแสดงตัวศิษย์ระดับต้นออกมา แล้วกล่าวว่า “ขอโทษด้วยนะ นี่คือที่พักที่ทางสำนักจัดไว้ให้คุณชายของข้า”
หลังจากชายคนนั้นได้ฟัง ก็หัวเราะเยาะ “ที่นี่น้องชายข้าให้ข้าอยู่ ข้าอยู่มา 17 ปีแล้ว อยู่ๆมาบอกว่าเป็นของพวกเจ้าก็เป็นหรือ?”
เขาชี้ไปที่อีกฟากหนึ่ง แล้วพูดว่า “ตรงโน้นมีบ้านว่างอยู่ ไปอยู่ที่นั่นเถอะ อย่ามากวนข้าอีก”
พูดจบก็พยายามปิดประตู แต่ประตูปิดไปครึ่งเดียวก็เด้งกลับ เพราะอู๋เป่ยยกมือกดไว้ แล้วพูดเสียงเรียบ “บ้านของข้า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงมายึดอยู่?”
ฝ่ายตรงข้ามโกรธจัด “เจ้าหนู! น้องชายข้าเข้าร่วมเป็นศิษย์ระดับต้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนนี้เขากลายเป็นศิษย์ระดับสองแล้วนะ!”
อู๋เป่ยตอบ “ถึงเขาจะเป็นศิษย์ระดับสิบก็ตาม ที่นี่ก็ยังเป็นบ้านของข้า ข้าให้เวลาครึ่งชั่วยาม รีบเก็บของแล้วไสหัวออกไปซะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...