ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 2272

หลังจากอู๋เป่ยกลายเป็นปรมาจารย์ปรุงยาหกเตาเซียนม่วง สถานะของเขาในนิกายปรมาจารย์แห่งการปรุงยาก็พุ่งสูงขึ้นทันที แม้แต่ผู้อาวุโสชุดแดงยังต้องให้ความเคารพและพูดจาอย่างสุภาพกับเขา

ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการปรุงยาและฝึกตน ยาอายุวัฒนะที่รับมาทั้งหมด เขาก็ปรุงจนเสร็จเรียบร้อย และยังปรุงยาอายุวัฒนะอีกห้าชนิดที่จำเป็นสำหรับขั้นต่อไปของสุดยอดเทพวิชาไว้ล่วงหน้าอีกด้วย

ระหว่างเดือนนั้น เขายังติดต่อกับสมาคมการค้าสองแห่ง และนางหนูหนานกงหลิ่งอีปรุงยาอายุวัฒนะให้พวกเขาหลายเตา การเป็นปรมาจารย์ปรุงยาหกเตาเซียนม่วงหาเงินง่ายมาก แค่ปรุงยาไม่กี่เตา ก็ได้เงินเซียนเป็นหลักสิบล้านหรือแม้แต่เป็นพันล้าน

ในช่วงเดือนเดียวกัน อู๋เป่ยสามารถฝึกจนสำเร็จห้าขั้นแรกของสุดยอดเทพวิชาแล้ว เหลือเพียงอีกสองขั้นสุดท้าย ซึ่งยาอายุวัฒนะที่ต้องใช้สำหรับขั้นที่เหลือ เขาก็ปรุงไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่เข้าสู่การฝึกตน

จากห้าขั้นแรกของสุดยอดเทพวิชา อู๋เป่ยได้ผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่ มี่อิงของเขาเติบโตถึง แปดฉื่อเก้าชุ่น (ประมาณ 2.9 เมตร) แม้ยังไม่ถึงขั้น “เทพเร้นลับ” แต่ศักยภาพของมันก็ล้ำหน้าเกินกว่าผู้ใดในอดีตหรืออนาคต

ในหมู่ผู้ฝึกตนระดับมี่อิงจากทั่วหล้า มีเพียงไม่กี่หมื่นคนเท่านั้นที่อาจกลายเป็นผู้บรรลุขั้น “เทพเร้นลับ” หรือระดับชั้นพรสวรรค์ ซึ่งจะถูกเรียกว่า “ซ่างจวิน” ถ้ามี่อิงมีขนาดต่ำกว่า 1 ฉื่อ เรียกว่า “เทพเร้นลับน้อย”ระหว่าง 1 ถึง 3 ฉื่อ เรียกว่า “เทพเร้นลับใหญ่ระหว่าง 3 ถึง 9 ฉื่อ คือ “เทพเร้นลับสูง”เกิน 9 ฉื่อ คือ “เทพเร้นลับในตำนานเกิน 10 ฉื่อ และมีสีทอง เรียกว่า “สุดยอดเทพเร้นลับทองคำ”

นั่นหมายความว่า แม้อู๋เป่ยจะหยุดฝึกตนตอนนี้ เขาก็ถือว่าอยู่ในระดับ “เทพเร้นลับสูง” ซึ่งในหมู่เทพเร้นลับก็หายากยิ่งยวด และแน่นอน การฝึกตนของอู๋เป่ยยังไม่จบ ศักยภาพของเขาสามารถไปได้ไกลกว่านั้น จนอาจทะลุ 9 ฉื่อ หรือแม้แต่ 10 ฉื่อ!

วันนี้ อู๋เป่ยกลืนยาอายุวัฒนะ “ต้าเสินเวยตาน” ที่ใช้ในขั้นที่หกของสุดยอดเทพวิชา หลังจากกินยาเข้าไป เขาเข้าสู่การฝึกตนอย่างสงบถึงสามวันเต็ม มี่อิงก็เติบโตจนถึง 9 ฉื่อ 7 ชุ่น!

ขณะที่อู๋เป่ยกำลังจะฝึกต่อเพื่อทะลุขั้นที่เจ็ด จู่ๆ จี้หยกที่เขาพกติดตัวก็ร้อนขึ้นและเปล่งแสงอ่อนๆ จี้หยกนี้ใช้สำหรับติดต่อกับหัวหน้าพรรคเสวียนหมิงแห่งจักรวาลหมิงโบราณ — จางกูเยว่ ผู้ซึ่งไม่ได้ส่งข่าวมานาน จู่ๆ ติดต่อตอนนี้ แสดงว่าต้องมีเรื่องสำคัญแน่

เนื่องจากจี้หยกนี้ใช้สื่อสารได้แค่ข้อความสั้นๆ ไม่สามารถสอบถามรายละเอียดได้ อู๋เป่ยจึงตัดสินใจกลับไปที่จักรวาลหมิงโบราณในทันที

เขาเรียกหนิงจือเสวี่ยและหูจงหลิงมาสั่งความว่า“ฉันจะออกไปข้างนอกสักพัก ถ้ามีใครมาถามก็บอกว่าฉันไปเก็บสมุนไพร”

หนิงจือเสวี่ยถาม “คุณจะกลับมาเมื่อไหร่?”

อู๋เป่ยตอบ “ไม่นานหรอก”

เมื่อสั่งการเสร็จ เขาก็มุ่งหน้าไปยังประตูส่งข้ามมิติในโลกห้าธาตุ ซึ่งใช้เดินทางระหว่างขอบเขตแห่งเต๋า เดิมที เขาเดินทางจากจักรวาลหมิงโบราณซึ่งอยู่ในขอบเขตแห่งเต๋าชั้นสาม มายังจักรวาลห้าธาตุในชั้นที่เก้า

เมื่อไปถึงหน้าประตูส่งข้ามมิติ ผู้ดูแลมักจะพูดจายาก เรียกเก็บค่าผ่านทางแพง แถมยังส่งคนไปผิดที่เป็นประจำ

แต่เมื่อพวกเขาเห็นสัญลักษณ์เซียนเตาม่วงบนเสื้อของอู๋เป่ย พวกเขาก็รีบยกมือไหว้ ทำตัวนอบน้อมทันที

แล้วถามยิ้มๆ ว่า “ปรมาจารย์ปรุงยา ท่านต้องการจะเดินทางไปที่ใดหรือครับ?”

อู๋เป่ยตอบ “ไปจักรวาลหมิงโบราณ ที่นี่มีค่ายกลข้ามมิติหรือเปล่า?”

ชายคนนั้นเกาศีรษะ “คุณจะไปยังจักรวาลเจิ้นตั้นชั้นต่ำงั้นเหรอ? ที่นั่นไม่น่าจะมีอะไรที่มีค่าเท่าไหร่หรอก”

อู๋เป่ย “แค่ตอบคำถามของผมก็พอ”

เขารีบตอบ “มีค่ายกลข้ามมิติเชื่อมตรงไปยังจักรวาลเจิ้นตั้นหมิงโบราณ ขอถามท่านปรมาจารย์ปรุงยา พลังยุทธ์ของท่านอยู่ในระดับใด?”

อู๋เป่ย “ยังต้องมีระดับพลังยุทธ์ด้วยเหรอ?”

อีกฝ่ายหัวเราะ “ก็ไม่ถึงกับต้องมีระดับ แต่ถ้าระดับพลังยุทธ์ของท่านเกินพลังแห่งความรอบรู้ พอไปถึงฝั่งโน้นอาจโดนเจตจำนงแห่งหมิงโบราณกดทับได้”

อู๋เป่ยคิดในใจ “ผมกับเสี่ยวหมิงเป็นเพื่อนกัน เขาจะมากดทับผมได้ยังไง?”

จากนั้นพูดขึ้น “ไม่เป็นไร ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้” แล้วเขาก็โยนเงินเซียนหนึ่งร้อยเหรียญให้ชายคนนั้น

ชายคนนั้นดีใจมาก นี่เท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนของเขา เขารีบพูด “เชิญเลยครับท่าน ผมจะเปิดช่องทางที่มั่นคงที่สุดให้!”