เหอจื่อเฉินเชิญทั้งคู่มาที่คฤหาสน์แห่งหนึ่ง ตัวคฤหาสน์ไม่ได้ใหญ่โตนัก ตั้งอยู่กลางป่าไผ่ทองกว้างหลายสิบหมู่ บรรยากาศเงียบสงบมาก
เมื่อเข้ามาในลาน มีแมวหลายสิบตัวหลากสีเดินเล่นอย่างสบายใจ พอเห็นเหอจื่อเฉิน พวกมันก็ร้องเหมียวๆ เสียงแผ่วเบา
เยวี่ยชิงอิ่งเพียงยื่นมือออก ก็มีแมวดำตัวอ้วน “ต้าเอย” กระโดดเข้ามาในอ้อมกอดของนาง ถูไถอย่างสนิทสนม
เยวี่ยชิงอิ่งหัวเราะ “เจ้าแห่งความมืด แกอ้วนขึ้นอีกแล้วนะ คราวหน้าอย่ากินเกินไป ไม่งั้นจากเจ้าแห่งความมืดจะกลายเป็นแกดำอ้วนพุงพลุ้ยแทน”
เหอจื่อเฉินโบกมือไล่ แมวทั้งหมดก็เข้าไปในเรือนฝั่งซ้ายซึ่งเป็นบ้านของมัน
ลานกลับมาเงียบสงบ เหอจื่อเฉินเชิญทั้งคู่เข้าห้องรับแขก รินน้ำชาให้ด้วยตนเอง แล้วพูดว่า“พี่เป่ย ต่อให้ท่านไม่มาฉันเองก็จะไปหาท่านอยู่ดี”
อู๋เป่ยถาม “จื่อเฉิน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อครู่ผู้หญิงคนนั้นพูดว่าปู่กับพ่อของแกกำลังถูกสอบสวน?”
เหอจื่อเฉินถอนหายใจยาว “พี่เป่ย เมื่อเจ็ดร้อยปีก่อน ตระกูลเหอของเรามีอัจฉริยะผู้โดดเด่นอย่างยิ่ง เขาได้โอสถสองเม็ดจากฟ้าสูง คือ มหาเทพโอสถ และ โอสถจอมจักรพรรดิ! ทั้งสองเม็ดมีปรากฏการณ์อัศจรรย์ มหาเทพโอสถสามารถช่วยให้ทะลวงสู่ขอบเขตแห่งเต๋าแปดขั้น หรือขั้นมหาเทพ ส่วนโอสถจอมจักรพรรดิทำให้ผู้กินกลายเป็นจอมจักรพรรดิแห่งโลกเซียนบรรพกาล!”
“โอสถทั้งสองเม็ดนี้ถูกเก็บรักษาหมุนเวียนระหว่างห้าสาขาของตระกูล ปีที่แล้วถึงคราวสาขาที่สามของเราดูแล พ่อกับปู่ฉันก็ให้ความสำคัญอย่างมาก เก็บไว้ในที่ปลอดภัยที่สุด ขนาดฉันเองยังไม่รู้ว่าที่ไหน แต่แม้เช่นนั้น โอสถก็ยังถูกขโมยไป!”
อู๋เป่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง รู้สึกเหลือเชื่อ ของล้ำค่าขนาดนี้เก็บอย่างมิดชิด แล้วยังมีคนขโมยไปได้ แถมยังต่อหน้าผู้ฝึกตนระดับสูง
เยวี่ยชิงอิ่งครุ่นคิดแล้วถาม “แล้วโอสถถูกเก็บไว้ที่ไหนกันแน่”
เหอจื่อเฉินตอบ “ต่อมาฉันถึงรู้ว่า ปู่ซ่อนมันไว้ในพื้นที่ลับภายในร่างกาย ปู่บอกว่าถึงถูกฆ่าก็ไม่มีใครหาเจอ เพราะหากเขาตาย พื้นที่นั้นจะพังทลายและโอสถก็จะถูกทำลาย”
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว “อย่างนั้นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกขโมย”
เหอจื่อเฉินยิ้มขื่น “ใช่ แม้แต่ปู่ยังว่ามันเหลือเชื่อ แต่สาขาอื่นๆ กลับเริ่มสงสัยว่าปู่แอบเก็บโอสถไว้เอง จึงสอบสวนปู่กับพ่อ”
อู๋เป่ยคิดครู่หนึ่งแล้วถาม “จื่อเฉิน แกต้องการให้ฉันช่วยอย่างไร”
เหอจื่อเฉินว่า “แม้โอสถหายไป แต่ในที่เกิดเหตุมีลมปราณสองสายหลงเหลืออยู่ ปู่ฉันระมัดระวังมาก เก็บรักษามันไว้ แต่เขาเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร พี่เป่ยท่านเป็นปรมาจารย์ปรุงยา บางทีอาจดูออก”
อู๋เป่ยถาม “ลมปราณนั้นอยู่ที่แกใช่หรือไม่”
เหอจื่อเฉินพยักหน้า “ปู่กับพ่อออกมาไม่ได้ จึงให้ฉันสืบเรื่องนี้”
นางหยิบขวดแก้วเล็กสองใบออกมา วางเบาๆ บนโต๊ะ ใบหนึ่งสีแดง อีกใบสีขาว
“ลมปราณอยู่ในนี้” เหอจื่อเฉินพูด “ถ้าท่านยังดูไม่ออก ฉันก็ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนแล้ว”
อู๋เป่ยหยิบขวดสีแดงขึ้นมา ไม่เปิด แต่ใช้ดวงตาแห่งมิติส่องดู พบว่าลมปราณในขวดกลายเป็นเด็กน้อยบินไปมาซนๆ ทำหน้าทะเล้นอยู่ในพื้นที่แคบ
เขาครุ่นคิด แล้วหยิบขวดสีขาวขึ้นดูบ้าง ข้างในเป็นหนุ่มน้อยในชุดจักรพรรดิ นั่งข่มขวัญอยู่บนกลุ่มเมฆดั่งองค์ราชัน
เมื่อเปิดขวด ภาพนั้นก็สลายไป กลายเป็นลมปราณสีฟ้าอ่อนจางจนแทบมองไม่เห็น อู๋เป่ยรีบปิดขวดแล้วยิ้มออกมา
เหอจื่อเฉินถึงกับกระทืบเท้าด้วยความร้อนใจ “พี่เป่ย นี่มันเวลาไหนแล้ว ท่านยังหัวเราะอยู่อีก!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...