ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 2380

จากนั้นเขาหันมองซั่งกวนปิงหลาน แล้วพูดว่า “ซั่งกวนปิงหลาน ผมบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า เจ้าเฉาเทียนลี่น่ะ เทียบอู๋เป่ยไม่ได้แม้แต่น้อย”

ซั่งกวนปิงหลานเหม่อลอยอยู่เนิ่นนาน ไม่เอ่ยคำใด

จางกูเยว่กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ผมเห็นว่าเธอมีร่างกายแห่งโชคชะตา ถึงได้ตั้งใจจะยกเธอให้อู๋เป่ย แต่เธอกลับหลงตัวเอง มอบพรหมจรรย์ให้เฉาเทียนลี่ เฮ้อ อนาคตอันสดใส ก็พังครืนลงเพราะเรื่องนี้”

ร่างกายแห่งโชคชะตาของซั่งกวนปิงหลาน จะออกผลเฉพาะในครั้งแรกเท่านั้น คือช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายฝ่ายชาย แต่อนิจจา… นางได้มอบพรหมจรรย์ให้เฉาเทียนลี่ไปแล้ว

อู๋เป่ยเองไม่ยี่หระ เดิมทีก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับซั่งกวนปิงหลานอยู่แล้ว แถมผลของร่างกายแห่งโชคชะตาสำหรับเขา ยังสู้ยาอายุวัฒนะเม็ดเดียวที่เขาปรุงเองไม่ได้ด้วยซ้ำ

เขาหันไปบอกหัวหน้าพรรคจางกูเยว่ว่า “หัวหน้าพรรค ครั้งนี้ที่ได้กลับมา เกรงว่าคงไม่ได้กลับมาอีกแล้ว สำนักเซวียนหมิงมีพระคุณกับผม นี่คือการตอบแทน”

เขาหยิบแหวนเก็บสมบัติออกมาหนึ่งวง ส่งให้จางกูเยว่ แล้วพูดว่า “ข้างในมีเงินเซียนสิบล้านล้าน เงินก้อนนี้เพียงพอให้สำนักเซวียนหมิงใช้งานไปได้อีกยาวนาน”

จางกูเยว่รับแหวนเก็บสมบัติด้วยสองมือ เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “นี่… มากเกินไป!”

ต้องรู้ไว้ว่า ตอนส่งอู๋เป่ยเข้าแดนห้าธาตุใหญ่ เงินที่ใช้ไปล้วนหยิบยืมมา ต้องใช้เวลานานกว่าจะชดใช้หมด ทว่าอู๋เป่ยให้มาทีเดียวถึงเงินเซียนสิบล้านล้าน มากพอจะซื้อสำนักเซวียนหมิงได้หลายแห่งเลยทีเดียว!

เมื่อมอบเงินให้จางกูเยว่แล้ว อู๋เป่ยก็กล่าวล่ำลาอย่างเป็นทางการ กลับไปยังยอดเขากู่ซิ่ว พาอวิ๋นซ่างและสตรีทั้งหลาย กลับสู่โลกแห่งเซียนไท่อี้ เพื่อช่วยนางบริหารสำนักโอสถไท่อี้

อู๋เป่ยให้พวกนางกินยาอายุวัฒนะ ทำให้พวกนางปรับตัวกับสภาพแวดล้อมของโลกแห่งเซียนไท่อี้ได้อย่างรวดเร็ว และมีกำลังพลังยุทธ์ไม่น้อย เมื่อเวลาผ่านไป พลังยุทธ์ของพวกนางยังจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อกลับมาแล้ว อู๋เป่ยก็เรียกหลัวหนิงตันมาร่วมงาน ให้เธอเป็นมือขวา หากเขาไม่อยู่ สำนักโอสถไท่อี้ก็ให้นางรับผิดชอบดูแล

ระยะนี้หลัวหนิงตันบำเพ็ญเพียรอยู่ในมิติระดับสูงสุดตลอด เวลานี้พลังยุทธ์ของนางก็ถึงแดนทารกศักดิ์สิทธิ์แล้ว ฝีมือปรุงยาก็ไม่ธรรมดา

วันหนึ่ง ขณะอู๋เป่ยกำลังจัดการงานในสำนัก จักรพรรดินำข้าราชการคนสนิทไม่กี่นายมาพบด้วยพระองค์เอง อู๋เป่ยนำคณะออกไปต้อนรับ

จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ไท่อี๋ มีพระนามเดิมว่าตงฟางอิงหมิง ตอนนี้ทรงฟื้นพระวรกายเกือบเป็นปกติแล้ว อีกทั้งพรรคพวกขององค์ชายห้า ใครควรถูกคุมขังก็ถูกคุมขัง ใครควรถูกประหารก็ถูกประหาร ส่วนองค์รัชทายาทก็ถูกพบตัวแล้ว แม้จะบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่โดยรวมปลอดภัยดี

ราชวงศ์ไท่อี๋ในวันนี้กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะความช่วยเหลือของอู๋เป่ย ตงฟางอิงหมิงจึงสำนึกในพระคุณอย่างยิ่ง ถึงกับเสด็จมาขอบคุณด้วยพระองค์เอง

“ฮ่าๆ หัวหน้าผู้ปรุงโอสถ ท่านคือปรมาจารย์หลอมโอสถจินติ่ง บัดนี้สำนักโอสถได้ปรุงยาอายุวัฒนะชนิดใหม่ออกมาบ้างหรือไม่?”

อู๋เป่ยว่า “ด้วยพระบารมีฝ่าบาท ผมเพิ่งหลอมโอสถวิญญาณหยกได้หนึ่งเตาหลอม ขอเชิญฝ่าบาททอดพระเนตร”

พอได้ยินว่าเป็นโอสถวิญญาณหยก เหล่านักปรุงโอสถและเสนาบดีที่อยู่ ณ ที่นั้นต่างตะลึง โอสถวิญญาณหยกนั่นใช่หรือไม่ว่าเป็นหนึ่งในสิบสามสูตรยาอายุวัฒนะที่จารึกบนศิลาจารึกหยก เขาถึงกับปรุงสำเร็จแล้วหรือ?

ตงฟางอิงหมิงพระเนตรเป็นประกาย รีบรับยาอายุวัฒนะไว้ แล้วตรัสอย่างซาบซึ้งว่า “โอสถวิญญาณหยก! หากสมัยนั้นเรามีโอสถนี้ ร่างกายของเราคงไม่เกิดปัญหาเหล่านั้น!”

จากนั้นทรงรับสั่งว่า “จงประกาศพระราชโองการของเรา หัวหน้าผู้ปรุงโอสถได้ปรุงโอสถวิญญาณหยกสำเร็จ ความชอบครั้งนี้จักจารึกชั่วกาลนาน พระราชทานรางวัลเป็นรายได้ภาษีของแผ่นดินครึ่งปี!”

อู๋เป่ยก็หาได้เกรงใจไม่ เอ่ยว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาท”