ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 2382

อู๋เป่ยไม่ได้พินิจดูให้ถี่ถ้วน เก็บยันต์ใส่ไว้ แล้วก็เดินออกจากวิหารเซียนไท่อี้

ขณะนั้น ตงฟางอิงหมิงรออยู่ข้างนอกมาครึ่งวัน เห็นวิหารเซียนไท่อี้ค่อยๆ เลือนหายไปก็ใจคอไม่ดี หากอู๋เป่ยออกมาไม่ทัน เกรงว่าจะสาบสูญไปพร้อมวิหารเซียนไท่อี้

โชคดี ไม่นานนักอู๋เป่ยก็ออกมา เพียงก้าวเดียวก็มาอยู่ตรงหน้าของเขา

ตงฟางอิงหมิงดีอกดีใจ เอ่ยถามว่า “ท่านเจ้ากรมโอสถ มีอะไรติดมือมาบ้างหรือไม่?”

อู๋เป่ยว่า “ก็พอมีอยู่บ้าง ขอปลีกตัวไปเข้าฌานพิจารณาอีกพักหนึ่ง”

ตงฟางอิงหมิงรู้ทันทีว่าอู๋เป่ยต้องได้ของดีมา รีบว่า “ดีๆ งั้นเรากลับกันเดี๋ยวนี้!”

กลับมาที่สำนักโอสถไท่อี้ อู๋เป่ยฝึกตนไปด้วย จัดการกิจการของสำนักไปด้วย

ตลอดเดือนถัดมา ภายใต้การฝึกและการชี้แนะของเขา ปรมาจารย์ด้านปรุงยาหลายพันคนสามารถแก้โจทย์การปรุงยาอายุวัฒนะหลากชนิดได้สำเร็จ ลดรายจ่ายของสำนักโอสถไท่อี้ลงอย่างมหาศาล เพิ่มกำไรอย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น ตามแผนของอู๋เป่ย ยังพัฒนายาอายุวัฒนะรุ่นใหม่ที่ประสิทธิผลดีกว่าและไม่เคยมีมาก่อน จัดส่งให้กองทัพและราชสำนัก

เท่านั้นยังไม่พอ หลัวหนิงตันยังตั้งชั้นเรียนฝึกอบรมปรมาจารย์ด้านปรุงยา เร่งบ่มเพาะนักปรุงโอสถที่มีคุณภาพภายในโลกแห่งเซียนไท่อี้ และตั้งแต่เริ่มเรียน พวกเขาจะเรียนเพียงสูตรไม่กี่ชนิด พอสำเร็จแล้วก็จะปรุงได้เฉพาะที่เรียนมา วิธีนี้ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการปรุงและคุณภาพยาที่ได้ขึ้นอย่างมาก

ช่วงนี้ เขาฝึกคาถาสี่วิชาและพลังแห่งความรอบรู้ห้าชนิดสำเร็จ แล้วหลอมรวมเข้ากับรูปลักษณ์สูงสุด

ภายในเดือนเดียว เขาหลอมรวมรูปลักษณ์สูงสุดทั้งสี่สิบเก้ากับวิชาเทพทั้งหลายสำเร็จทีละอย่าง อย่างไรก็ดี การหลอมรวมระหว่างรูปลักษณ์สูงสุดกับเทคนิคพลังเทพกินสมุนไพรและของวิเศษแห่งสวรรค์และโลกนานาชนิด ต้นทุนแพงลิบ ทุกครั้งที่หลอมรวมรูปลักษณ์สูงสุดหนึ่งรูป เขาต้องจ่ายมากกว่าห้าแสนล้านเหรียญมหามรรคา เมื่อหลอมรวมรูปลักษณ์สูงสุดสี่สิบแปดรูปเสร็จสิ้น เบ็ดเสร็จเกือบห้าสิบล้านล้านเหรียญมหามรรคา

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น อู๋เป่ยยังมีเทคนิคพลังเทพอีกมากที่ยังไม่หลอมรวม ซึ่งจะยังคงเผาเงินของเขาต่อไป

สำหรับระดับหมื่นสภาพ แม้เขาอาจทำได้ไม่ถึง “หมื่น” ตามชื่อ แต่หลักๆ แล้วก็มีกว่าพันสภาพอยู่ดี ทั้งเวทดวงดาว เคล็ดวิชาลับ พลังแห่งความรอบรู้ คาถา ฯลฯ ที่เขาฝึกล้วนต้องตกผลึกเป็น “รูปลักษณ์” ของตนเอง

ดีที่ตอนนี้อู๋เป่ยไม่ขัดสนเรื่องเงิน ใช้จ่ายต่อเนื่องเป็นก้อนโต แต่รายรับก็หลั่งไหลไม่น้อยเช่นกัน

ช่วงนั้น เขาปรุงยาอายุวัฒนะทั้งหมดตามศิลาจารึกหยกได้สำเร็จ จึงได้รับรางวัลเป็นรายได้ภาษีของทั้งอาณาจักรตลอด 6 ปีครึ่ง แน่นอน ราชวงศ์ไท่อี๋ไม่อาจนำเงินก้อนโตมาจ่ายได้ในทันที จึงต้องค้างชำระไว้ก่อน ทว่าอู๋เป่ยสามารถหักกลบจากกำไรของสำนักโอสถไท่อี้โดยตรง หรือให้สำนักโอสถไท่อี้ชำระหนี้ด้วยสมุนไพร

ด้วยชุดมาตรการของอู๋เป่ย สำนักโอสถไท่อี้เปลี่ยนโฉมใหม่ทันตา เดือนนั้นกำไรสุทธิทะลุหนึ่งร้อยห้าสิบล้านล้านเหรียญมหามรรคา และยังไม่รวมยอดค้างรับบางส่วน

พอจัดการงานของสำนักโอสถไท่อี้จนลงตัว เขามอบให้หลัวหนิงตันอยู่ประจำดูแล แล้วมุ่งหน้าไปยังแดนจิ่วหยาง

หลิ่วซานเซี่ยงกับเฮยเจียงและพวกยังรอเขาอยู่ที่นั่น เขาก็ต้องไปให้ได้สักครั้งเหมือนกัน แล้วถือโอกาสลองเปิดขุมทรัพย์ไท่อี๋ด้วย

แน่นอน เรื่องสำคัญที่สุดคือ เขาบรรลุชีวิตขั้นสิบวิชาเทพแล้ว จึงต้องประกอบพิธีกรรมเกิดใหม่ ตอนนี้เขาแม้จะสามารถยกระดับสู่ขอบเขตแห่งเต๋าได้ แต่การเลื่อนระดับแบบนั้นมีความเสี่ยงเร้นลึก หากอยากกวาดล้างความเสี่ยงนี้ จำต้องเกิดใหม่อีกหนึ่งภพ จึงจะวางรากฐานให้มั่นคงเหมือนผู้บำเพ็ญในจักรวาลหลัก

มาถึงแดนจิ่วหยาง อู๋เป่ยพบหลิ่วซานเซี่ยงกับเฮยเจียงและพวก พอทราบว่าเขามา ท่านประมุข เทียนเผิง แห่งสำนักปรมาจารย์แห่งการปรุงยาแห่งอ้าวซื่อถึงกับออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง จะจัดงานเลี้ยงใหญ่ต้อนรับ แต่อู๋เป่ยปฏิเสธอย่างสุภาพ

เขาล่ำลาเทียนเผิง แล้วพาหลิ่วซานเซี่ยง หนิงจือเสวี่ย เฮยเจียง ปิงอวี้ และหูจงหลิง กลับสู่แดนห้าธาตุใหญ่อีกครั้ง