ทั้งสองมาถึงเมืองไม่ใหญ่นัก เมืองมีประชากรหลายแสนคน รายล้อมด้วยหมู่บ้านเล็กๆ
ค่ำลงแล้ว แต่ชีวิตยามคืนในเมืองคึกคัก ผู้คนจับกลุ่มกันกินข้าว เล่นไพ่ เต้นรำ
อู๋เป่ยยิ้มพูดว่า: “ชีวิตของคนที่นี่สบายจริงๆครับ”
เขาแปลงกายเป็นตาแก่ เดินโซเซโงนเงนไปตามถนนใหญ่ อยู่ๆ ก็เอนตัวล้มฟาดพื้น นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง
ไม่ไกลนัก กลุ่มคนที่กำลังเล่นไพ่รีบวิ่งเข้ามา พยุงเขาขึ้นก่อน แล้วปลอบด้วยเสียงเบาๆ
“คุณลุง เป็นอะไรหรือเปล่า?” คนหนึ่งถาม
อู๋เป่ยลืมตาขึ้นแล้วพูดว่า: “ใครชนผมล้มกันแน่ ผมเจ็บไปทั้งตัว พวกคุณต้องรับผิดชอบนะครับ”
คนกลุ่มนั้นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก อยู่มาครึ่งค่อนชีวิต ยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน คนที่พูดเมื่อครู่ค่อยๆ เกลี้ยกล่อมว่า: “คุณลุง ล้มเองนะ ไม่มีใครชนคุณหรอก คุณไปกระแทกหัวหรือเปล่า เลยจำไม่ได้?”
อู๋เป่ย: “ใช่ หัวผมกระแทกจนมึนไปหมด ตอนนี้พวกคุณต้องชดใช้ครับ”
ทุกคนรู้แล้วว่าคงเจอคนไม่ยอมฟังเหตุผลเข้าให้ แต่ก็ไม่โวยวาย กลับอธิบายกับอู๋เป่ยอย่างใจเย็น ยังมีคนเอาน้ำดื่มมาให้ด้วย เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้จริงใจและซื่อตรง
ตอนนั้นอู๋เป่ยลุกขึ้นเองได้ เขาเคาะหัวเบาๆ แล้วบอกว่า: “ขอบคุณทุกคน ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ” จากนั้นหยิบยาอายุวัฒนะออกมา แจกจ่ายให้พวกเขา ยังไม่ทันที่ทุกคนจะตั้งสติ ร่างของเขาก็หายวับไป
พอกลับมาหาเจียงชูเหยียนที่ยืนรอ เขาหัวเราะแล้วว่า: “คนที่นี่ดีจริงๆ”
เจียงชูเหยียน: “คุณชาย ที่นี่เป็นเพียงมุมเล็กๆ ในผืนดินเทพว่านฝู เมืองใหญ่ยิ่งคึกคักและปลอดภัยกว่าอีกค่ะ”
อู๋เป่ย: “แค่นี้ก็ดีแล้ว เมืองใหญ่เกินไปจะสะดุดตาเกิน ผมเห็นของกินน่าอร่อยเยอะ ไปชิมกันเถอะครับ”
ทั้งสองหาที่นั่งกินข้าวดื่มเหล้า อู๋เป่ยยังซดเหล้าหนึ่งเหยือก ข้างๆ มีลูกค้าคนอื่นอยู่ด้วย อู๋เป่ยจึงทักชายสูงวัยคนหนึ่ง
“คุณลุง ผมเป็นนักปรุงโอสถ อยากทดสอบฝีมือของตัวเอง ไม่ทราบว่าต้องไปที่ไหนครับ?”
ท่านผู้สูงวัยหัวเราะแล้วบอกว่า: “อ๋อ เดินตามถนนเส้นนี้ไปเรื่อยๆ สุดทางจะมีตึกก่ออิฐสีคราม ที่นั่นเป็นที่ทดสอบระดับต้นของบรรดานักปรุงโอสถ หลักๆ ก็ทดสอบการแยกแยะสมุนไพร กับการปรุงยาอายุวัฒนะเบื้องต้นทำนองนั้น”
อู๋เป่ย: “แถวนี้มีปรมาจารย์ด้านปรุงยาบ้างไหมครับ?”
ท่านผู้สูงวัยหัวเราะแล้วตอบว่า: “มีแน่นอน เพียงแต่จำนวนไม่มาก รวมๆ ก็แค่สามคน ปรุงได้แค่ยาอายุวัฒนะระดับต้น แต่สำหรับเมืองเล็กๆ อย่างเราก็เพียงพอแล้ว”
ระหว่างคุยกันอยู่ ก็มีผู้บำเพ็ญสวมชุดสีเหลืองคนหนึ่งเดินเข้ามา ท่านผู้สูงวัยรีบชี้ให้ดู: “เห็นไหม พูดถึงก็มาเลย เขาคือหนึ่งในสามนักปรุงโอสถ ท่านเฟิงตันซือ”
อู๋เป่ยเดินไปทัก ท่านเฟิงตันซือสุภาพมาก พอรู้ว่าอู๋เป่ยอยากทดสอบก็ถามว่า: “สหายเรียนวิชาปรุงยามาจากที่ไหนครับ?”
อู๋เป่ย: “ผมเรียนเองครับ”
เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า: “ไม่มีครูสอน เกรงว่าจะยากที่จะเป็นปรมาจารย์ด้านปรุงยานะครับ”
อู๋เป่ยยิ้มแล้วว่า: “ไม่ทราบว่าตำแหน่งปรมาจารย์ด้านปรุงยาจากนอกดินแดน ที่นี่นับว่ายอมรับไหมครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...