วันนั้น อู๋เป่ยเพิ่งชี้แนะนักปรุงโอสถอยู่ไม่กี่คน เจียงชูเหยียนก็รีบตามมาหา สีหน้าดูไม่สู้ดี เอ่ยว่า “คุณชาย ภูเขาปฐมกาลอาจกลับคำแล้วค่ะ”
อู๋เป่ยแปลกใจเล็กน้อย “กลับคำเรื่องอะไร?”
เจียงชูเหยียนว่า “สี่สำนักสองสถาบันร่วมกันยื่นข้อเรียกร้อง จะถอดถอนสิทธิ์คุณในการบริหารสถาบันเส้นทางโอสถ แถมยังเรียกร้องให้ต่อไปสามารถเบิกยาอายุวัฒนะจากสถาบันเส้นทางโอสถได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย”
อู๋เป่ยได้ยินก็หัวเราะหยัน “ผมเพิ่งปั้นนักปรุงโอสถขึ้นมา พวกนั้นก็โผล่มาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ อดใจรอกันไม่ไหวจริงๆ!”
เจียงชูเหยียนถอนใจ “ก็พวกเขาน่ะโง่สิ้นดี ถ้าไม่ใช่คุณชายออกหน้าด้วยตัวเอง ใครจะมีปัญญาสร้างสถาบันเส้นทางโอสถขึ้นมา อีกอย่าง สถาบันเส้นทางโอสถที่ไม่มีคุณชายก็ไม่มีค่าอะไรเลยค่ะ”
อู๋เป่ยพูดเรียบๆ “พวกเขาไม่ได้โง่หรอก เขาแค่ไม่อยากให้ผมกวาดเอาผลประโยชน์อยู่คนเดียว”
เจียงชูเหยียนว่า “เรื่องแบบนี้อย่าไปตอบรับพวกเขาเด็ดขาดนะคะคุณชาย ไม่งั้นได้คืบจะเอาศอกแน่”
อู๋เป่ยถาม “บรรดาผู้อาวุโสทั้งแปดว่าอย่างไร?”
เจียงชูเหยียนว่า “ในแปดท่าน มีหกท่านมาจากสี่สำนักสองสถาบัน เกรงว่าตอนนี้พวกท่านเหล่านั้นก็คงเปลี่ยนท่าทีไปแล้วค่ะ”
อู๋เป่ยว่า “ดูท่าผมคงต้องไปพบพวกท่านก่อน”
เจียงชูเหยียนเพิ่งกลับไปได้ไม่นาน ทางสภาผู้อาวุโสก็ส่งคนมาเชิญอู๋เป่ยให้ไปพบ
ภูเขาปฐมกาล สภาผู้อาวุโส
ผู้อาวุโสหลายท่านอยู่พร้อมหน้า พออู๋เป่ยมาถึง ผู้อาวุโสหญิงก็เข้าเรื่องตรงๆ ว่า “คุณชายอู๋ ช่วงนี้สถาบันเส้นทางโอสถเดินหน้าอย่างคึกคัก พวกเราก็ดีใจมากค่ะ แต่สี่สำนักสองสถาบันเห็นว่าที่สถาบันเส้นทางโอสถตั้งราคาไว้นั้นสูงเกินไป ดังนั้น...”
อู๋เป่ยพูดขึ้นทันที “ถ้าเป็นเรื่องราคาสูง งั้นไม่มีปัญหา ต่อไปสี่สำนักสองสถาบันซื้อยาอายุวัฒนะจากสถาบันเส้นทางโอสถ ผมจะขายให้ในราคาทุน”
เหล่าผู้อาวุโสต่างประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าอู๋เป่ยจะพูดง่ายเช่นนี้ ผู้อาวุโสอีกท่านจึงว่า “คุณชายอู๋ยอมทำถึงเพียงนี้ พวกเรานับถือ แต่ตำแหน่งหัวหน้าสถาบันเส้นทางโอสถ เรามีคนที่หมายตาไว้แล้ว ส่วนคุณ เราจะสงวนตำแหน่งรองหัวหน้าสถาบันไว้ให้”
อู๋เป่ยว่า “ไม่จำเป็นต้องสงวนตำแหน่งใดให้ผมหรอกครับ อย่างไรเสียผมก็ปั้นนักปรุงโอสถขึ้นมาแล้ว ต่อไปแค่มีสมุนไพร พวกเขาก็สามารถปรุงยาได้ไม่ขาดสาย”
ผู้อาวุโสทั้งหลายแปลกใจอยู่บ้าง ท่านผู้เฒ่าผมเงินจึงถามว่า “คุณชายอู๋ ท่านไม่เห็นชอบกับแนวทางของพวกเรา เลยคิดจะถอนตัวจากสถาบันเส้นทางโอสถอย่างนั้นหรือ?”
อู๋เป่ยยิ้ม “จะไปได้อย่างไรเล่า ทรัพยากรในการตั้งสถาบันเส้นทางโอสถทั้งหมด ล้วนมาจากภูเขาปฐมกาล ผมก็เพียงฝึกนักปรุงโอสถขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น ไม่มีความชอบอะไร จึงไม่กล้าอวดอ้าง อีกทั้งผมยังต้องดูแลสำนักโอสถไท่อี้ แล้วยังต้องทำธุรกิจวิถีโอสถของตัวเอง ทั้งเวลาและกำลังก็มีจำกัด จึงเหมาะที่จะส่งต่อสถาบันเส้นทางโอสถให้คนที่มีความสามารถมากกว่าดูแลจะดีกว่า”
เหล่าผู้อาวุโสพากันมองหน้ากัน ก็รู้เท่าทันว่าอู๋เป่ยคิดจะวางมือแล้ว ต่างก็เริ่มร้อนรน ผู้อาวุโสหญิงจึงว่า “คุณชายอู๋ เรื่องนี้จริงๆ แล้วคุยกันได้ค่ะ...”
อู๋เป่ยว่า “ไม่ต้องคุยหรอกครับ ผมเห็นด้วยกับความเห็นของท่านผู้อาวุโสทุกประการ ว่าตามตรง ผมเองก็รู้สึกว่าฝั่งตำหนักบนเหมาะกับผมมากกว่า”
พอได้ยินคำว่า “ตำหนักบน” สีหน้าทุกคนก็เปลี่ยนไป ผู้อาวุโสหญิงถามว่า “คุณชายเคยขึ้นไปตำหนักบนมาแล้วหรือคะ?”
อู๋เป่ย “เคยไปแล้วครับ หยวนสือซั่งจิ้งเหนือกว่าดินแดนล่างหลายขุม แถมสมุนไพรยังอุดมสมบูรณ์กว่ามาก”
ท่านผู้เฒ่าผมเงินยิ้มถาม “คุณชายอู๋ ฝั่งตำหนักบนเคยเชิญท่านบ้างหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...