ชายวัยกลางคนที่ขาขวากะเผลกเดินตามออกมา พูดว่า “หัวหน้ากลุ่ม คำพูดเมื่อกี้ของเขาหมายความว่าอย่างไร?”
เฉียวไป่เหนียนหัวหน้ากลุ่มว่า “คนผู้นั้นไม่ธรรมดา แค่มองก็รู้เลยว่าผมกำลังติดปัญหาในการบำเพ็ญเพียร”
จากนั้นเขากลับเข้าไปในโถงใหญ่ แล้วถามลูกชายว่า “จวิ้นไฉ่ ผู้ชายคนนั้นมีภูมิหลังยังไง เล่าให้ผมฟังหน่อย”
เฉียวจวิ้นไฉ่เพิ่งถูกซ้อมมา ตอบตามตรงว่า “พ่อ เขาเป็นเด็กมัธยมปลาย เล่นบาสเกตบอล”
“แล้วรู้ไหมว่าเขาพักที่ไหน?”
เขาพยักหน้า “รู้ อยู่โรงแรมนี่แหละ”
เฉียวไป่เหนียนพยักหน้า “คืนนี้พ่อกับแกไปเยี่ยมคารวะเขา”
เฉียวจวิ้นไฉ่เบิกตาโพลง “ไปคารวะเขา? ทำไมล่ะ?”
“เลิกพูดมาก กูบอกให้ไปก็ไป!”
อู๋เป่ยกลับถึงโรงแรม โค้ชรีบถามว่า “อู๋เป่ย ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
อู๋เป่ยว่า “ไม่เป็นไร เรื่องเรียบร้อยแล้ว นี่ของขวัญที่พ่อของรองหัวหน้ากลุ่มคนนั้นฝากมาให้พวกเรา”
ครูคนหนึ่งเปิดกล่องของขวัญ พบว่าเป็นเครื่องลายครามชุดงาม
โค้ชยิ้ม “อู๋เป่ย นายช่างน่าทึ่งจริง เรื่องใหญ่ขนาดนี้แก้ได้ในพริบตา”
อู๋เป่ยว่า “โค้ช การแข่งเริ่มเมื่อไหร่?”
โค้ชว่า “พรุ่งนี้เก้าโมงเช้ามีการแข่งขันเก็บคะแนน ทุกทีมจะจับสลากแข่งสามนัด ทีมใดมีคะแนนสะสมน้อยกว่าสามแต้มจะถูกส่งเข้าสู่การแข่งขันรอบคัดเลือก”
อู๋เป่ยว่า “แปลว่าเราก็ไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะเจอทีมไหนสิ”
“ใช่ ทุกอย่างต้องวัดดวง เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ทีมที่แข็งแกร่งมากไปชนทีมโหดติดกันสามนัด สุดท้ายถูกบีบให้เข้ากลุ่มการแข่งขันรอบคัดเลือก”
เขาถาม “แล้วถ้าคะแนนของเราเกินสามแต้มล่ะ?”
“ถ้าถึงสามแต้มแล้ว ก็ยังแข่งกับทีมอื่นเพื่อสะสมแต้มต่อได้ ที่น่าสนใจคือถ้าทีมทำสถิติชนะต่อเนื่องจะได้แต้มพิเศษ ชนะสามนัดรวดได้เพิ่มอีกสองแต้ม ชนะสี่นัดรวดได้เพิ่มสามแต้ม ถ้าชนะห้านัดรวดก็ได้เพิ่มสี่แต้ม”
อู๋เป่ยว่า “งั้นทีมที่แข็งแกร่งก็ยิ่งได้เปรียบสิ”
โค้ชว่า “ใช่ รัฐทำแบบนี้เพื่อคัดเลือกทีมที่แกร่งที่สุดไปแข่งรายการสามชาติในอีกหกเดือนข้างหน้า”
อู๋เป่ยก็รู้จักการแข่งขันสามชาตินี้ดี สามประเทศที่ร่วมคือ ประเทศเซี่ย ประเทศฟูซัง และประเทศเสี่ยวลั่ว แต่ละประเทศส่งได้สามทีม รวมเก้าทีม แข่งกันดุเดือด ส่วนทีมที่คว้าชัยชนะอันดับหนึ่งได้ ราชวงศ์จะมอบรางวัลครั้งเดียวจำนวน 500,000,000 บาท
ยังเช้าอยู่ สมาชิกทีมแยกย้ายกันตามสบาย อู๋เป่ยพักห้องสวีตของโรงแรมพร้อมพ่อแม่
บ่ายนั้นพวกเขาเดินเล่นรอบๆ กำลังจะออกไปกินข้าวเย็น ก็มีแขกมาเคาะประตู เมื่อเปิดออก เฉียวไป่เหนียนหัวหน้ากลุ่มกับเฉียวจวิ้นไฉ่ยืนอยู่หน้าห้อง ด้านหลังมีข้ารับใช้สองคน
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว “หัวหน้ากลุ่มเฉียว มีธุระอะไรหรือ?”
เฉียวไป่เหนียนรีบเอ่ย “น้องชาย ผมไม่มีเจตนาอื่น พอดีได้เวลาอาหารพอดี ผมได้จัดโต๊ะไว้ที่โรงแรม อยากถือโอกาสนี้พาลูกชายผม จวิ้นไฉ่ มาขอโทษคุณ หวังว่าคุณจะกรุณาให้เกียรติมาร่วมด้วย”
เขายกมือไมตรีมา จะไปผลักไสก็ไม่ใช่เรื่อง อู๋เป่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันบอกอู๋ต้าซิงว่า “พ่อ เราออกไปกินข้าวกันเถอะ”
เห็นว่าพ่อแม่ของอู๋เป่ยอยู่ด้วย เฉียวไป่เหนียนยิ่งนอบน้อม “ใช่เลย คุณอู๋ คุณนายอู๋ ขอเรียนเชิญด้วยครับ”
อู๋ต้าซิงไม่ขัดข้อง มีคนเลี้ยงก็ไม่เสียหาย ทั้งครอบครัวจึงตามเฉียวไป่เหนียนหัวหน้ากลุ่มไปยังชั้นเก้าของโรงแรม ที่นี่เป็นโซนจัดเลี้ยงหรูของโรงแรม วัตถุดิบและเครื่องดื่มล้วนพรีเมียม แค่มื้อหนึ่งก็ฟาดไปอย่างน้อยหลายแสนบาท บางโต๊ะอาจพุ่งถึงหลักล้านบาท

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...