เขาล้างเตายา อุ่นเตาแล้วก็หยิบเห็ดห้าชนิดโยนลงไป เริ่มปรุงยาอายุวัฒนะสูตรที่ค่อนข้างง่ายชนิดหนึ่ง
ยาอายุวัฒนะนี้ยังไม่มีชื่อ เขาคิดสูตรขึ้นจากคุณสมบัติยาของเห็ดทั้งห้าชนิด คาดว่าออกฤทธิ์ดีทีเดียว
เตาแรกก็สำเร็จ ได้ทั้งหมดห้าเม็ด สีเขียวปนเหลืองทั้งเม็ด มีกลิ่นหอมจางๆ เขากลืนยาอายุวัฒนะไปหนึ่งเม็ดเพื่อลองฤทธิ์ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาพยักหน้าแล้วพึมพำว่า “ยาเม็ดนี้ช่วยบำรุงพลังชีวิต และเสริมร่างกาย เอาเป็นว่าเรียกว่า โอสถบำรุงพลังปราณและเสริมร่างกาย”
กู่เจี้ยนหนานเฝ้าอยู่หน้าบ้าน พอได้ยินเสียงก็ผลักประตูเข้ามา เห็นยาอายุวัฒนะในมืออู๋เป่ย เขาอุทานว่า “สำเร็จแล้ว!”
อู๋เป่ยยิ้ม “นี่คือโอสถบำรุงพลังปราณและเสริมร่างกาย ไม่ใช่โอสถล้ำค่าอะไร” ว่าแล้วก็ส่งให้กู่เจี้ยนหนาน
กู่เจี้ยนหนานรับไว้ด้วยสองมือ เอ่ยอย่างซาบซึ้งว่า “คุณชายช่างมีพรสวรรค์ยิ่งนัก ในบรรดาคนที่ข้ารู้จัก ท่านเป็นคนแรกที่สามารถปรุงยาได้!”
จากนั้น อู๋เป่ยหยิบสมุนไพรที่ซื้อมาจากตลาดกลางคืนออกมา รวมกับของที่มีอยู่เดิม พอจะปรุงโอสถพันปีได้หนึ่งเตาแบบหวุดหวิด
โอสถพันปีนี้เขาตั้งใจจะปรุงมานาน แต่ยังไม่เคยสำเร็จ คราวนี้ถือโอกาสทำไปพร้อมกัน โอสถพันปีสามารถยกระดับศักยภาพด้านชีวิตของคนได้อย่างมาก เสริมสภาพร่างกายและยืดอายุขัย หากปรุงสำเร็จ จะได้ให้พ่อแม่กิน จะได้มีสุขภาพแข็งแรง
การปรุงโอสถพันปียังต้องมีสมุนไพรอื่นอีก เขาจึงหาเห็ดบางอย่างมาเติมจนพอครบแบบหวุดหวิด
เริ่มปรุงยา เขาจดจ่อเต็มที่ ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย ราวครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาตบมือขวาเบาๆ ฝาเตายาก็เด้งเปิด สายชี่โอสถพุ่งออกมา เขารีบใช้คาถาโอสถ ควบคุมมันไว้ด้วยสองมือ
เขากดชี่โอสถด้วยสองมือ ก็รวมตัวเป็นยาอายุวัฒนะสามเม็ด ขนาดเท่าลำไย สีเขียวทั้งเม็ด เปล่งประกายอ่อนๆ กลิ่นหอมอบอวล
เขามองดูยาอายุวัฒนะแล้วยิ้ม “ไม่เลว ยาอายุวัฒนะระดับสี่ ชั้นยอด!”
เก็บยาอายุวัฒนะแล้วพักได้ไม่นาน กู้ชิงเหลียนก็มาหา
กู้ชิงเหลียนเพิ่งเลิกงานกลับบ้าน คราวนี้รีบมาหาอู๋เป่ยทันที
“น้องชาย สวีเป่าเชียนฝากมาถามว่า เรื่องวิชายุทธมีความคืบหน้าหรือยัง?”
พอเธอทัก อู๋เป่ยถึงนึกขึ้นได้ว่าเคยรับปากสวีเป่าเชียนไว้ เขาตบหน้าผากตัวเองแล้วว่า “ผมดันลืมไป ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมช่วยเขาจัดระเบียบวิชายุทธใหม่ตอนนี้เลย เธอบอกให้สวีเป่าเชียนมาที่นี่ภายในราวชั่วโมงหนึ่ง”
แล้วเขาก็กลับเข้าห้องไป ปิดประตูเก็บตัวฝึก ใช้กระจกเหิรสวรรค์ช่วยจัดระเบียบวิชายุทธที่สวีเป่าเชียนฝึกตนอยู่ใหม่ทั้งหมด
ครึ่งชั่วโมงถัดมา เขาออกจากห้องแล้วถามว่า “พี่สาว แล้วสวีเป่าเชียนออกเดินทางหรือยัง?”
กู้ชิงเหลียนพยักหน้า “ออกแล้ว อีกสักสิบกว่านาทีก็ถึง น้องชาย เธอทำเสร็จแล้วหรือ?”
อู๋เป่ย “อืม ผมได้ช่วยเขาจัดระเบียบวิชายุทธใหม่แล้ว ต่อไปที่เขาฝึกตน ก็จะไม่ติดขัดอะไรอีก”
กู้ชิงเหลียน “น้องชาย ถ้าช่วยสวีเป่าเชียนชิงตำแหน่งซื่อจื่อกลับมาได้ ก็เป็นผลดีต่อเธอด้วย ท้ายที่สุด ตอนนี้เขาเป็นคนของเธอแล้ว”
อู๋เป่ย “ผมช่วยเขาได้ แต่เขาจะสำเร็จหรือไม่ ยังไม่แน่ ทุกอย่างต้องดูโชควาสนาของเขา”
กู้ชิงเหลียน “ว่าแต่น้องชาย พรุ่งนี้ต้องปะทะกับคนตระกูลอินต่อหน้า ฉันได้ยินพ่อบอกว่า เธอก็จะไปด้วยหรือ?”
อู๋เป่ย “อืม ถ้าผมไม่ไป เกรงว่าตระกูลกู้คงสู้ตระกูลอินไม่ได้”
กู้ชิงเหลียน “แต่คนที่ตระกูลอินเชิญมานั้นเก่งมาก น้องชาย ระวังตัวให้ดี”
เมื่อเห็นเธอพูดจริงจัง อู๋เป่ยจึงถาม “เป็นใคร?”
นางจึงเล่าให้อู๋เป่ยฟังว่า ชื่อหวังเหลียน เป็นยอดฝีมือที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ถึงขั้นล้ำลึก ในโลกฆราวาส ผู้บำเพ็ญระดับต้นมักเริ่มต้นจากการฝึกศิลปะการต่อสู้ แต่คนส่วนใหญ่สุดท้ายก็จะก้าวสู่หนทางเซียนอมตะ ทอดทิ้งศิลปะการต่อสู้ไป
อย่างไรก็ตาม ในจำนวนนั้นยังมีส่วนน้อยยิ่งที่ไม่ละทิ้งศิลปะการต่อสู้ กลับอาศัยวิถีเซียนยกระดับและผลักดันศิลปะการต่อสู้ให้รุ่งเรือง คนเหล่านี้เรียกว่า เซียนบู๊!
แน่นอนว่า พลังของเซียนบู๊นั้นแข็งแกร่งอย่างยิ่ง หากอยู่ระดับพลังเดียวกัน เซียนบู๊หนึ่งคนสู้ผู้บำเพ็ญระดับเดียวกันได้สิบคน บางคนที่เป็นเซียนบู๊ขั้นแกร่งยิ่งกว่านั้น ยิ่งเกินเลยไปอีก ถึงขั้นฆ่าศัตรูที่เหนือกว่าตนได้!
เมื่อนึกถึงห้าสุดยอดวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่ตนได้มา อู๋เป่ยก็สนใจขึ้นมา “เป็นเซียนบู๊เหรอ? ดีเลย พรุ่งนี้จะได้ไปลองประมือกับเขาหน่อย”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...