เหยียนเหลิ่งสือรับคำ "ครับ"
หลังจากให้เหยียนเหลิ่งสือถอยไปแล้ว อู๋เป่ยจึงนึกขึ้นได้ว่าเสวี่ยอู่ยังพักอยู่คนเดียวในโรงแรม จึงรีบไปหาเธอที่โรงแรมทันที.
มาถึงโรงแรมรีสอร์ท เขากดกริ่งหน้าห้อง รอนานก็ไม่มีใครตอบ อู๋เป่ยเอะใจขึ้นมา จึงโทรหาเสวี่ยอู่ แต่โทรไม่ติด.
เขาจึงปล่อยพลังจิตออกไปกวาดตรวจโดยรอบ จึงพบว่าเสวี่ยอู่ไม่ได้อยู่ในโรงแรม ตัวคนก็ไม่อยู่ โทรก็ไม่ติด หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น?
เขาไปที่หน้าฟรอนต์ของโรงแรม ถามว่าเสวี่ยอู่ไปไหน พนักงานฟรอนต์ตรวจข้อมูลแล้วบอกว่า “ตามบันทึกการรูดบัตร คุณเสวี่ยออกจากโรงแรมตั้งแต่เช้าเมื่อวาน และเมื่อคืนไม่ได้กลับเข้ามา”
อู๋เป่ยถาม “ผมขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงแรมช่วงเวลานั้นได้ไหมครับ?”
พนักงานสาวตอบ “ขอโทษค่ะ โดยทั่วไปภาพจากกล้องของเราไม่เปิดให้บุคคลภายนอกดูค่ะ”
อู๋เป่ยส่งยิ้มบางๆ “แม้แต่ผมก็ไม่ได้หรือครับ?”
พนักงานสาวโดนสายตาอู๋เปยมองเข้าไปก็ใจสั่น เผลอหลุดปากว่า “จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้…”
ท้ายที่สุด พนักงานฟรอนต์ก็พาอู๋เป่ยไปถึงห้องควบคุมกล้อง อู๋เป่ยได้ดูภาพวันที่เสวี่ยอู่ออกจากโรงแรม ตอนเจ็ดโมงสิบห้านาที เสวี่ยอู่รีบร้อนออกจากโรงแรม และกล้องหน้าประตูโรงแรมแสดงให้เห็นว่ามีรถคันหนึ่งมารับเธอไป อู๋เป่ยจดหมายเลขทะเบียนรถไว้.
ออกจากโรงแรม เขาส่งข้อมูลหมายเลขทะเบียนรถให้เหยียนเหลิ่งสือ ให้ช่วยสืบ.
สำหรับเหยียนเหลิ่งสือแล้ว เรื่องที่อู๋เป่ยสั่งถือว่าใหญ่หลวง เขาจึงสืบข้อมูลรถคันนั้นได้อย่างรวดเร็ว.
“นายท่าน ผ่านระบบกล้องวงจรปิดบนทางหลวง รถคันนี้ไปเมืองซวงตั้งแต่เมื่อวาน ผมได้ติดต่อเพื่อนฝั่งเมืองซวงให้รีบหาข้อมูลแล้วครับ”
“เมืองซวง?” อู๋เป่ยแปลกใจเล็กน้อย เสวี่ยอู่มีเพื่อนอยู่ที่นั่นหรือ? แต่ถ้าไปหาเพื่อน ทำไมโทรไม่ติด?
เขากล่าวว่า “ผมจะไปเมืองซวงเดี๋ยวนี้ มีข่าวแจ้งผมทันที”
“ครับ”
เมื่อถึงที่ลับตาคน อู๋เป่ยทะยานขึ้นฟ้า บินตรงสู่เมืองซวง.
เมืองซวงก็เป็นเมืองใหญ่ ประชากรระดับหลายสิบล้าน แต่ต่างจากจงโจวตรงที่เมืองซวงมีอำเภอหลายแห่งที่เศรษฐกิจยังไม่ค่อยพัฒนา และในแต่ละอำเภอก็มีเมืองเล็กๆ อีกมาก.
อู๋เป่ยเองก็ยังไม่มีเป้าหมายชัด เขามาถึงตัวเมืองซวงก่อน ตั้งใจจะสำรวจดูสักรอบ ทว่าเพิ่งขึ้นสู่ฟ้าเหนือเมืองซวง ก็ถูกพลังจิตล็อกไว้ มีคนส่งคำเตือนอย่างแข็งกร้าวว่า “ผู้มาเป็นใคร? ผ่านทางหรือจะพักปักหลัก?”
อู๋เป่ยขมวดคิ้ว—ตอนอยู่เมืองหู่ก็เจออะไรทำนองนี้—จึงตอบทันทีว่า “ผมมาเมืองซวงทำธุระ คุณเป็นใคร?”
เสียงนั้นว่า “เมียวเจียแห่งเมืองซวง! สหายมาที่เมืองซวงด้วยเรื่องใด?”
อู๋เป่ยตอบ “มาหาคนคนหนึ่ง”
“หาใคร?”
“ไม่จำเป็นต้องบอกคุณ” อู๋เป่ยเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย.
เงาร่างหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ฟ้า เป็นบุรุษราวสามสิบต้นๆ หน้ายาวคิ้วเรียว ตาซ้ายซีดอมฟ้า ดูแปลกตาอยู่ไม่น้อย.
บุรุษตาซีดหัวเราะเย็น “ไม่เกี่ยวกับฉัน? คงไม่รู้จักเมียวเจียของพวกเราสินะ!”
อู๋เป่ยถาม “อ้อ เมียวเจียยิ่งใหญ่มากหรือ?”
ชายตาซีดพูดอย่างเย่อหยิ่ง “คุณชายใหญ่ของเมียวเจียเพิ่งได้รับคัดเลือกจากนิกายชั้นหนึ่งให้เป็นศิษย์ชั้นสูง!”
ในใจอู๋เป่ยคิดว่า “บังเอิญจริง ไม่นานมานี้หลิวจินหลงหลงเย่เพิ่งพูดว่าที่เมืองซวงมีอัจฉริยะเกิดขึ้น วันนี้ก็มาเจอเข้า” จึงถามว่า “นิกายชั้นหนึ่งไหน?”
อีกฝ่ายว่า “สำนักไหน ไม่ต้องถาม”
อู๋เป่ยหัวเราะเย็น “ถึงชื่อสำนักที่เข้ายังต้องปิดบัง ศิษย์ชั้นสูงของเมียวเจียนี่จะไม่ใช่ตัวปลอมรึเปล่า?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...