หลังจากนั้น อู๋เป่ยใช้เวลาไปอีกชั่วโมง ช่วยพวกเขาหาสมุนไพรเพิ่มให้คนละสองถึงสามต้น พอเห็นว่าขึ้นมาจนเลยช่วงกลางภูเขามาแล้ว จื่อซีก็รู้ว่าถ้าพวกตนฝืนไปต่อ มีแต่จะถ่วงอู๋เป่ย จึงเอ่ยว่า
“คุณชายอู๋ พวกเราไม่ขึ้นไปต่อแล้วนะ จะลงไปรอคุณที่เชิงเขา”
ซิงเหยียนก็พูดเสริมว่า
“ใช่แล้วคุณชายอู๋ ตรงนี้ก็เป็นขีดจำกัดของพวกเราแล้วล่ะ แต่คุณไม่เหมือนเรา คุณน่าจะขึ้นไปหาสมุนไพรล้ำค่าได้อีกเยอะ”
อู๋เป่ยพยักหน้า “งั้นก็ดี แล้วเจอกันข้างล่าง”
ล่ำลาอู๋เป่ยเสร็จ ทั้งสี่ก็รีบลงเขาไปอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางกลับ ชิวหนานพูดขึ้นว่า
“ครั้งนี้โชคดีจริง ๆ เดิมทีฉันคิดว่าถ้าเก็บสมุนไพรได้ต้นเดียวก็นับว่าฟลุกแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะเก็บได้ตั้งสี่ต้นสบาย ๆ แบบนี้”
ซิงเหยียนว่า
“ก็เพราะมีคุณชายอู๋ช่วยนั่นแหละ ไม่งั้นพวกเราคงยังเดินหลงกลม ๆ บนภูเขาอยู่เลย”
เหลิ่งชิงฮุยว่า
“บนภูเขาน่ะ สมุนไพรดี ๆ มีเยอะก็จริง แต่ก็อันตรายมากเหมือนกัน ขอให้เขาปลอดภัยตลอดทางเถอะ”
จื่อซีพูดว่า
“ไม่ต้องห่วงหรอก นายไม่ได้เห็นตอนเขาลงมือเหรอ ท่าทางสบาย ๆ แบบนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เอาใครระดับเดียวกันอยู่ในสายตาเลย คนแบบนี้ ฉันเคยเจอแค่ครั้งเดียว”
เหลิ่งชิงฮุยถามว่า
“เธอหมายถึง ‘ชูเทียน’ ใช่ไหม?”
จื่อซีว่า
“ใช่ ศิษย์แกนหลักของไท่หวงเจี้ยว ชูเทียน!”
เหลิ่งชิงฮุยสะท้านในใจ พอจื่อซีพูดแบบนี้ เขาก็เริ่มรู้สึกจริง ๆ ว่าอู๋เป่ยคล้ายชูเทียนมาก!
“ศิษย์น้องหญิง งั้น…พวกเราเชิญอู๋เป่ยเข้าร่วมไท่หวงเจี้ยวดีไหม?”
จื่อซีว่า
“อัจฉริยะระดับนั้น อาจไม่เต็มใจหรอก”
เหลิ่งชิงฮุยว่า
“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าจะเป็นไปได้หรือเปล่า?”
ชิวหนานหัวเราะ
“งั้นฉันจะติดต่อท่านลิ่วซือซูเดี๋ยวนี้เลย ถามก่อนว่าท่านสนใจหรือเปล่า!”
อู๋เป่ยเดินพ้นช่วงกลางภูเขามา ก็รู้สึกได้เลยว่ายาอายุวัฒนะแห่งวิญญาณบนภูเขามีมากขึ้นอย่างชัดเจน ทว่าเหล่ายาอายุวัฒนะแห่งวิญญาณเหล่านี้ยังคงซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่พับ หาเจอได้ยากนัก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาดูดซับพลังแห่งสามศรมา สามารถเจาะพื้นที่พวกนั้นได้อย่างง่ายดาย เก怕จะหาพวกมันไม่เจอจริง ๆ
ต่อมาอีกกว่าชั่วโมง อู๋เป่ยก็เก็บสมุนไพรได้ติด ๆ กันสิบห้าต้น สมุนไพรเหล่านี้ ต่ำสุดก็เป็นสมุนไพรระดับแปด สูงสุดมีหนึ่งต้นเป็นสมุนไพรระดับสิบสอง
แน่นอนว่า สมุนไพรระดับสิบสองนั้นจัดการยากมาก มันมีเจตจำนงของตัวเอง อู๋เป่ยต้องออกแรงไม่น้อยกว่าจะเอามันมาได้
หลังจากได้สมุนไพรระดับสิบสองมา อู๋เป่ยก็รู้สึกเริ่มล้า จึงหาก้อนหินก้อนหนึ่งนั่งพัก แล้วหยิบของกินออกมาทานรองท้องไปตามมีตามเกิด
จังหวะนั้นเอง เขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง ตอนนี้เขานั่งหันหน้าเข้าหายอดเขา ด้านหลังก็คือทางลง นั่นแปลว่าคนกลุ่มนี้กำลังลงมาจากบนภูเขา!
“นานสยง ข้างหน้ามีคน”
หนึ่งในนั้นพูดขึ้น
อีกคนหัวเราะพลางว่า
“ไปทักทายกันหน่อยเถอะ”
อู๋เป่ยลุกขึ้นยืน หันกลับไปมองทั้งสอง
ท่ามกลางสายหมอก มีคนสองคนเดินเข้ามา อายุราวยี่สิบปลาย ๆ คนหนึ่งสวมเสื้อเหลือง อีกคนสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน ชายเสื้อคลุมสีน้ำเงินหน้าเรียวยาว เขายิ้มถามว่า
“สหายเก็บเกี่ยวได้เป็นไงบ้าง?”
อู๋เป่ยไม่รู้จักทั้งสองคน จึงตอบว่า
“ก็พอได้ครับ สองท่านลงมาจากบนภูเขาเหรอ?”
ชายเสื้อเหลืองว่า
“อืม เราอยากลองขึ้นไปที่ยอดเขาดู แต่กลับถูกพลังประหลาดอะไรบางอย่างผลักลงมา ขึ้นยังไงก็ไม่ถึง ลองอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็เลยยอมแพ้”
อู๋เป่ยถาม
“มีใครเคยขึ้นไปถึงยอดเขาบ้างไหม?”
ชายเสื้อคลุมสีน้ำเงินว่า
“น่าจะยังไม่มี เรานับเป็นไม่กี่คนที่เข้าไปใกล้ยอดยอดเขาได้ จริง ๆ แค่ถึงตำแหน่งที่สหายยืนอยู่ตอนนี้ คนที่พอจะขึ้นมาได้ก็มีน้อยมากแล้ว”
อู๋เป่ยว่า
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...