อู๋เป่ยฟังแล้วก็รู้สึกว่าความป่วยของมารดาลู่ไท่แปลกประหลาดเช่นกัน จึงถามว่า
“ก่อนที่ท่านแม่ของคุณจะล้มป่วย เคยเจอเรื่องแปลก ๆ หรือมีประสบการณ์ประหลาดอะไรบ้างไหม?”
ลู่ไท่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า
“ไม่ครับ ท่านแม่แทบไม่ออกจากบ้านเลย เอาแต่พักอยู่ในบ้าน ไม่เคยเจอเรื่องแปลกอะไรทั้งนั้น”
ระหว่างคุยกัน รถก็แล่นมาถึงบ้านพักหลังใหญ่หลังหนึ่ง ลานบ้านกว้างขวางมาก รถหยุดหน้าตึกสูงห้าชั้น หน้าต่างทุกบานถูกปิดสนิท ม่านทึบกันแสงถูกรูดลงทั้งหมด ดูแล้วชวนให้รู้สึกประหลาดอยู่บ้าง
ลู่ไท่เชิญอู๋เป่ยลงจากรถ แล้วอธิบายว่า
“ท่านอู๋ มารดาของผมไม่สามารถถูกแสงได้ ข้างในเลยค่อนข้างมืด ต้องขออภัยด้วยนะครับ”
อู๋เป่ยว่า
“ไม่เป็นไร พาฉันไปพบท่านแม่ของคุณเลยก็แล้วกัน”
“ครับ!”
ทั้งสองเดินเข้าห้องนั่งเล่น ภายในมืดทึบ ลู่ไท่จุดเทียนเล่มหนึ่งแล้วเชื้อเชิญอู๋เป่ยเข้าไปยังห้องนอนฝั่งตะวันตกของชั้นหนึ่ง ส่วนคนอื่น ๆ รออยู่ด้านนอก
ภายในห้องนอนยิ่งมืดสนิท อู๋เป่ยก้าวเข้าไปก็ได้กลิ่นยาแรงฉุนปนกลิ่นเน่าโชยมา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าโรคของมารดาลู่ไท่นั้นอาการรุนแรงมาก หากไม่อาศัยสมุนไพรล้ำค่าพวกนี้เกื้อหนุน นางคงทนอยู่ถึงตอนนี้ไม่ได้
บนเตียงใหญ่ปูผ้าปูเตียงสีดำ แน่นิ่งไปด้วยร่างหญิงคนหนึ่งที่ทั้งตัวถูกพันด้วยผ้าก๊อซชุบน้ำยา แม้แต่ใบหน้าก็ปิดทับด้วยแผ่นบางคล้ายมาสก์ มองไม่เห็นเค้าโครงใบหน้าแม้แต่น้อย
ลู่ไท่เดินเข้าไปใกล้ พูดเบา ๆ ว่า
“แม่ครับ นี่คือท่านเซียนที่ผมเชิญมารักษาแม่”
หญิงคนนั้นค่อย ๆ พลิกตัว หันหน้ามาทางนี้ ระหว่างขยับตัวมีเสียงครางอู้อี้ด้วยความทรมาน ราวกับแค่การพลิกตัวเพียงครั้งเดียวก็ทำให้นางเจ็บปวดแทบขาดใจ
อู๋เป่ยเอ่ยห้าม
“ไม่ต้องขยับ นอนอยู่อย่างนั้นแหละ”
เขาอ้อมไปยืนอีกด้านของเตียง โน้มตัวลงดูใกล้ ๆ ดวงตาของหญิงคนนั้นเหมือนถูกเคลือบด้วยชั้นไข คล้ายทั้งขุ่นทั้งมัว ร้างไร้แววสดใส
อู๋เป่ยเอื้อมมือดึงแผ่นที่ปิดหน้าของนางออก จ้องพินิจอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงจับชีพจรให้นาง หลังตรวจเสร็จก็พูดว่า
“เราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ”
พอกลับมาที่ห้องนั่งเล่น อู๋เป่ยก็เอ่ยบอกสาเหตุโรคตรง ๆ
“ท่านแม่ของคุณโดนพิษอูตู๋ชนิดหนึ่งเข้า พิษนี้จะทำให้เครื่องในภายในร่างกายแตกเป็นเลือด ผิวหนังเน่าเปื่อย ฟันหลุดร่วง ตาบอด หากไม่ใช่ว่าฐานะทางบ้านคุณดี ใช้ยาชั้นเลิศคอยประคองชีวิตไว้ ป่านนี้นางคงตายอย่างทรมานไปนานแล้ว”
ลู่ไท่ถามด้วยแววตาเต็มไปด้วยความหวัง
“ท่านอู๋ อย่างนั้นโรคของแม่ผม…รักษาได้ไหมครับ?”
อู๋เป่ยตอบเรียบ ๆ
“รักษาได้ แต่สมุนไพรที่ฉันต้องใช้มีค่าล้ำมาก เกรงว่าคุณจะรับภาระไม่ไหว”
การรักษาพิษอูตู๋ชนิดนี้ต้องใช้สมุนไพรวิญญาณระดับห้าอย่างน้อยหนึ่งอย่าง รวมถึงสมุนไพรอื่น ๆ อีกหลายชนิด ของพวกนี้อู๋เป่ยล้วนมีพร้อมอยู่ในมือ ทว่าราคาก็แพงลิบ แม้ลู่เจียจะร่ำรวยเพียงใดก็จ่ายไม่ไหวอยู่ดี เพราะสุดท้ายแล้ว บรรดาเศรษฐีในโลกฆราวาส ต่อให้มีเงินมากแค่ไหน ก็แลกเป็นเงินเซียนได้ไม่กี่เหรียญ
ลู่ไท่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกัดฟันแน่นแล้วเดินเข้าไปในห้องหนังสือ ไม่นานเขาก็ถือกล่องแกะสลักด้วยมือเดินออกมาอย่างระมัดระวัง เมื่อเปิดกล่องออกอย่างเบามือ เขาก็เลื่อนกล่องไปตรงหน้าอู๋เป่ย
“ท่านอู๋ นี่คือของล้ำค่าประเมินค่าไม่ได้ที่ปู่ผมทิ้งเอาไว้ อาจารย์ทวดของตระกูลเคยกำชับไว้ว่า ถ้าไม่ถึงคราวจนตรอก ห้ามนำมันออกมาเด็ดขาด ตอนนี้เพื่อรักษาชีวิตแม่ ผมยอมมอบสิ่งนี้ให้ท่านครับ!”
อู๋เป่ยมองเข้าไปในกล่อง เห็นแมลงตัวหนึ่งขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือ ตัวอวบอ้วนจนผิดธรรมชาติ ลักษณะเหมือนหลอมขึ้นจากหยกขาว กำลังจำศีลนิ่งสนิทอยู่ข้างใน
เพียงแค่เห็นแมลงตัวนั้น ข้อมูลชุดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัวของอู๋เป่ยทันที แมลงนี้มีนามว่า “แมลงสามหายนะ” สามารถรับเคราะห์กรรมแทนนายท่านได้สามครั้ง จุดอัศจรรย์ที่สุดก็คือ ไม่ว่าภยันตรายรูปแบบใด ต่อให้เป็นมหาภัยระดับสูงสุด มันก็ยังรับไว้แทนได้!
อู๋เป่ยเก็บอารมณ์ ไม่ให้สีหน้าผิดปกติ เอ่ยถามอย่างเรียบเฉย
“แมลงอะไรหรือ?”
ลู่ไท่ตอบว่า
“เป็นของที่ปู่ผมได้มา เขาบอกว่าล้ำค่าหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าล้ำค่าตรงไหนกันแน่”
อู๋เป่ยถามต่อ
“งั้นตัวคุณเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่?”
ลู่ไท่ทำหน้าจริงจัง



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...