อู๋เป่ยลงมือเร็วยิ่งกว่า ฝ่ามือฟาดเข้าที่หัวไหล่ของอีกฝ่าย ชายวัยกลางคนถูกตีปลิวไปหลายเมตร กระแทกผนังหินดังตุบ ทว่ากลับไม่เป็นอะไร เขาเอามือคว้าไปที่ใบหน้าตัวเองทีหนึ่ง กลับดึงเอาหนังมนุษย์แผ่นหนึ่งที่เปรอะเลือดออกมาจริง ๆ จากนั้นก็ถอดหนังทั้งตัวออก แล้วก้าวออกมาจากข้างใน กลายเป็นอีกคนหนึ่งที่หน้าตาไม่เหมือนเดิมเลยสักนิด
หน้าตาของคนผู้นี้ประหลาดอย่างยิ่ง กะโหลกหัวแหลม ฟันล่างงุ้มยื่นออกมา ปลายนิ้วทั้งสิบแหลมคม ดวงตาเป็นสีเขียวมรกต แววตาเย็นเยียบวาบแสงน่าขนลุก
สือปี้ต้าตกใจจนร้อง “แม่เอ๊ย!” รีบกระโดดไปหลบอยู่ด้านหลังอู๋เป่ย ถามเสียงสั่นว่า “คุณอู๋ ปู่ของผมเป็นอะไรไปครับ?”
อู๋เป่ยเอ่ยเสียงเย็น “เขาไม่ใช่ปู่ของเจ้า วิญญาณและจิตของปู่เจ้าถูกมันกลืนไปตั้งนานแล้ว มันคือพวกเวทย์ปีศาจที่ใช้วิชายึดร่าง!”
“ฮึ! ไอ้สารเลว! 老夫นี่แหละคือจอมมารตาเขียวผู้เกรียงไกร!”
อู๋เป่ยว่า “จอมมารตาเขียว? ไม่เคยได้ยิน เจ้าแย่งร่างของซือเซิงจื้อไปทำไม?”
จอมมารตาเขียวหัวเราะแหบต่ำสองสามทีแล้วว่า “ไม่กี่ปีก่อนข้าถูกศัตรูทำลายร่างเนื้อ จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ล่องลอยมาถึงที่นี่ พอดีเจอว่าการบำเพ็ญเพียรของซือเซิงจื้อเกิดปัญหา พลังย้อนทำร้ายตนเอง ร่างจำแลงหลอกลวงตนเองไปทั่ว ข้าจึงฉวยโอกาสยึดร่างเขามา แล้วใช้เวลาอีกหลายปี ค่อย ๆ ครอบงำร่างนี้จนอยู่หมัด”
“ข้างนอกพวกนั้น เป็นฝีมือเจ้าทั้งหมดหรือเปล่า?”
จอมมารตาเขียวทำหน้าภูมิใจเล็กน้อย “ถูกต้อง! จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ของข้าได้รับความเสียหาย ต้องกินจิตวิญญาณของคนเป็นแบบสด ๆ ถึงจะฟื้นฟูได้ แต่ข้าก็ทำให้คนอื่นสงสัยไม่ได้ เลยชอบฆ่าคน ทำร้ายคนแถวนี้อยู่เรื่อย”
อู๋เป่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นพวกเวทย์ปีศาจนอกรีต วันนี้ดันมาเจอข้า วันตายของเจ้ามาถึงแล้ว”
จอมมารตาเขียวหัวเราะบ้าคลั่ง “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! แค่เจ้ารึ? แม้พลังของ本魔君ตอนนี้จะไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งในหมื่นของเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ใช่ปลาซิวปลาสร้อยอย่างเจ้าจะมาล่วงเกินได้!”
“ปลาซิวปลาสร้อย?” อู๋เป่ยหัวเราะเย็น “ตาเจ้าคงบอดจนหมามองยังดีกว่าแล้วล่ะ!”
คำพูดจบ ดาบเจ็ดดาวหลงหยวนก็มาอยู่ในมือของเขาแล้ว เขาขยับแขนเบา ๆ ดาบก็ถูกเก็บกลับร่างเดิมอีกครั้ง
จอมมารตาเขียวมองอย่างงงงวย “เจ้าหนู เจ้าเอาดาบออกมาขู่คนเล่นหรือไง?”
อู๋เป่ยเอ่ยเรียบ ๆ “ดาบของข้ามันเร็ว เจ้าควรมีเวลาได้ตั้งตัวหน่อย”
คำพูดตก จอมมารตาเขียวก็รู้สึกว่าร่างกายตัวเองแปลก ๆ เขาก้มลงมอง แค่พอจะก้ม ศีรษะก็กลิ้งหลุดออกจากลำคอ เลือดพุ่งสูงครึ่งเมตร
ศีรษะของจอมมารตาเขียวกลิ้งไปตามพื้น เขาจ้องอู๋เป่ยเขม็ง กัดฟันด่าว่า “ไอ้เด็กลูกสัตว์ 本魔君จะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”
“ใกล้ตายแล้วยังโวยวายอะไรอีก?” อู๋เป่ยคว้าคอหัวจอมมารตาเขียวขึ้นมา ถามเสียงเรียบ “อยากตายแบบไหน?”
จอมมารตาเขียวถึงได้เริ่มกลัวขึ้นมาจริง ๆ ความเย่อหยิ่งเมื่อครู่มลายหายไป เขาว่า “สหายท่าน หากท่านไม่ฆ่าข้า 本魔君จอมมารตาเขียวผู้นี้จะตอบแทนอย่างงามแน่นอน”
อู๋เป่ยฮึดฮัด “เจ้าพวกเวทย์ปีศาจนอกรีต จะตอบแทนอะไรข้าได้?”
จอมมารตาเขียวว่า “แค่ยอมปล่อยข้าไป ข้ายินดีมอบทรัพยากรที่สะสมไว้สมัยยังมีชีวิตให้ท่านทั้งหมด!”
อู๋เป่ยว่า “งั้นลองพูดมาก่อน ว่ามีอะไรบ้าง?”
จอมมารตาเขียวตอบ “ก่อนถูกศัตรูทำร้าย พลังยุทธ์ของข้าบรรลุถึงระดับพลังเหนือมนุษย์ ของดีที่สะสมไว้ไม่น้อยเลย”
อู๋เป่ยถาม “แล้วเจ้าซ่อนไว้ที่ไหน?”
จอมมารตาเขียวว่า “ห่างจากที่นี่ไปแค่พันกว่าลี้ ข้าพาท่านไปได้”
อู๋เป่ยจึงว่า “ได้ ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ถ้าของที่เอาออกมาคุ้มค่า ข้าจะยอมปล่อยเจ้าไปสักครั้ง”
จอมมารตาเขียวว่า “พลังดาบของสหายท่านน่ากลัวเกินไป ข้าแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว ขอท่านช่วยข้าเถอะ”
อู๋เป่ยเอื้อมมือคว้า เอาพลังดาบที่เหลืออยู่ในร่างอีกฝ่ายออกมาทั้งหมด ไม่อย่างนั้น จอมมารตาเขียวคงไม่รอดเกินสามนาที
เก็บศีรษะนั้นเรียบร้อย อู๋เป่ยก็หันไปบอกสือปี้ต้าที่ยังยืนช็อกอยู่ว่า “เจ้าก็เห็นแล้ว ปู่ของเจ้าโดนพวกเวทย์ปีศาจทำร้ายจนตาย ตอนนี้ข้าจัดการมันให้เรียบร้อย ล้างแค้นแทนเขาแล้ว”
ในใจสือปี้ต้าปั่นป่วนปะปน ทั้งเสียใจกับการตายของปู่ ทั้งก็เหมือนได้ถอนหายใจโล่งอก เขาคุกเข่าลงกับพื้น “ขอบคุณคุณอู๋ที่ลงมือสังหารเวทย์ปีศาจให้ครับ!”
อู๋เป่ยว่า “เจ้าลงเขาไปก่อนเถอะ ข้าต้องออกไปธุระหน่อย สาวน้อยที่เดินทางมากับข้า ให้พักอยู่ที่หมู่บ้านซานซิงไปก่อน”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...