อู๋เป่ยถามว่า “อ้อ หมายความว่าพวกเขาล้วนสู้ผมไม่ได้เหรอ?”
ฟางลี่อธิบายให้เขาฟังว่า แผนผังเจ็ดดาราตัดทางนี้เป็นภาพลับระดับเซิ่ง ผู้ฝึกตนตามแผนผังนี้ส่วนใหญ่ล้วนไม่รวยล้นฟ้าก็เป็นสายเลือดสูงศักดิ์ ทั้งยังไม่กล้าโลภอยากก้าวกระโดด ระหว่างฝึกจึงระมัดระวังสุดขีด ไม่กล้าเสี่ยง โดยทั่วไปแล้วตราพลังลับที่พวกเขากลั่นออกมาได้ก็อยู่แค่ระดับหลักร้อยเท่านั้น ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ ผู้ที่ทะลุถึงสามร้อยตราก็ถือว่าโดดเด่นมากแล้ว ส่วนคนที่แตะห้าร้อยตราได้ นับว่าพันปีถึงจะมีสักคน ส่วนระดับหมื่นตรา...ดูเหมือนไม่เคยมีบันทึกไว้เลย!
อู๋เป่ยรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย การที่ตัวเขาเอง凝聚จุดลับหมื่นตราได้กลับไม่เห็นยากเย็นอะไรนัก หรือว่าเกี่ยวข้องกับการที่เขาตรัสรู้พลังลับแห่งสวรรค์? หรือมีสาเหตุอื่นกันแน่?
ฟางลี่เสริมว่า “แน่นอนว่ายังมีผู้บำเพ็ญอยู่อีกมาก แม้พวกเขาจะฝึกพลังลับระดับเทพเหมือนกัน แต่ก็ไม่ครบถ้วน ยิ่งเทียบกับคุณชายไม่ได้เลย”
เขาอธิบายต่อว่า บางคนแม้จะฝึกตามภาพลับนี้เหมือนกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนมีพรสวรรค์สูง ส่งผลให้บรรดาผู้ที่ครอบครองภาพลับระดับเซิ่งทั้งหลาย ส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกสายเลือดสูงส่ง มาจากตระกูลทรงอำนาจ พอฝึกก็เลยยิ่งระวังตัวเป็นพิเศษ ไม่กล้าเสี่ยงแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงมีผู้ฝึกบางคนที่พอฝึกแผนผังเจ็ดดาราตัดทางเข้าจริง ๆ กลับกล้า凝聚จุดลับได้แค่หนึ่งตรา ห้าตรา หรือห้าสิบตรา แบบเหลวไหลก็มีอยู่ไม่น้อย ถึงจะถือแผนผังลับมนุษย์ระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ แต่คนพวกนี้ส่วนใหญ่ก็...
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ฝึกส่วนใหญ่ยังรวบรวมพลังลับระดับเทพทั้งเจ็ดชนิดได้ไม่ครบ เพราะในจำนวนนั้นมีอยู่สองชนิดที่ไม่เคยเผยแพร่ออกไป ภายนอกไม่มีทางได้เห็น มีเพียงกลุ่มอิทธิพลใหญ่ระดับสุดยอดไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีปัญญาไขว่คว้ามาได้ ไหนจะเพราะการฝึกพลังลับระดับเทพยากลำบากยิ่งกว่าเดิมอีกมาก ทำให้หลายคนถอดใจแต่เนิ่น ๆ กล่าวอีกนัยหนึ่ง พลังที่คนเหล่านั้นฝึกกัน แท้จริงแล้วไม่ใช่สายสืบทอดระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ ส่วนมากเป็นแค่วิชายุทธระดับกึ่งเทพเซิ่ง ระดับศักดิ์สิทธิ์ลึกลับ หรือไม่ก็วิชาระดับต่ำกว่านั้นลงไปอีก
พอเข้าใจแล้วว่าวิชายุทธที่ตนฝึกอยู่นั้นล้ำค่าเพียงใด อู๋เป่ยก็ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “ท่านอาวุโสมีแผนผังลับมนุษย์ระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ อย่างนี้แสดงว่าท่านมาจากกลุ่มอิทธิพลใหญ่ล่ะสิ?”
สีหน้าฟางลี่สลับซับซ้อน “ตระกูลของข้าแม้จะไม่ถึงขั้นตระกูลยักษ์ระดับสุดยอด แต่ก็มีแผนผังลับมนุษย์ระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่ถึงสองชุด และตัวข้า...ก็คือเทียนเฉียวที่พันปีถึงจะมีสักคนของตระกูล”
ดูเหมือนเขาไม่อยากเอ่ยถึงอดีตของตนมากนัก อู๋เป่ยจึงไม่ซักไซ้อะไรต่อ หันกลับไปมุ่งฝึกเคล็ดวิชาเจ็ดดาราตัดทางต่อแทน
ความจริงแล้วด้วยระดับชั้นในตอนนี้ เขาได้เสร็จสิ้นขั้นที่หนึ่งของการวางรากฐานไปเรียบร้อยแล้ว หนึ่ง阶วางรากฐานแบ่งเป็นสามส่วน ได้แก่ การเปิดจุดลับ การกลั่นพลังลับ และตราพลังลับ บนทวีปโบราณศักดิ์สิทธิ์เวลาเหล่าผู้บำเพ็ญฝึกตนกัน ต้องอาศัย師长ช่วยนำพาพลังลับเข้าร่างเพื่อเปิดจุดลับ จากนั้นจึงค่อยกลั่นพลังลับ แล้วจึงค่อย凝聚ตราพลังลับเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้จุดลับ
ทว่าการฝึกของอู๋เป่ยกลับแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เขาเปิดจุดลับด้วยตัวเอง แล้วก็รวบรวมพลังลับเข้าไปโดยตรง ข้ามขั้นตอนกลั่นพลังลับทิ้งไปเลย เขาเคยฝึกพลังลับมาก่อน แถมยังคุ้นเคยกับพลังลับเป็นอย่างดี ขั้นตอนนั้นสำหรับเขาจึงแทบไม่มีความจำเป็น
ต่อจากนี้คือ二阶วางรากฐาน เช่นเดียวกันก็มีสามช่วง ได้แก่ วิชาลับ ยันต์แท้ และสวรรค์ลับ ทั้งสามช่วงนี้อู๋เป่ยล้วนเคยฝึกผ่านมาหมดแล้ว แต่การฝึกซ้ำอีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
หลังจากนั้นอู๋เป่ยก็ยังคงฝึกวิชาลับต่อไป เคล็ดวิชาเจ็ดดาราตัดทางมีวิชาลับอยู่เพียงวิชาเดียว ชื่อว่า ดาบสิบสามตัดทาง ดาบแรกของดาบสิบสามตัดทางก็ทรงพลังอย่างยิ่งแล้ว ดาบที่สองจะทับซ้อนพลังของดาบแรกเข้าไป และดาบต่อ ๆ ไปก็สะสมพลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
พูดอีกอย่างก็คือ หากเขาสามารถฟาดดาบที่สิบสามออกไปได้ ดาบเล่มนั้นจะทรงพลังยิ่งกว่าดาบแรกถึงเก้าสิบเท่า!
ยิ่งเป็นวิชาลับที่ทรงพลังมากเท่าไร การฝึกก็จะยิ่งยากขึ้นเท่านั้น เคล็ดวิชาเจ็ดดาราตัดทางเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ตอนนั้นฟางลี่ฝึกไปได้เพียงดาบที่สี่เท่านั้น ส่วนคนที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนหน้าเขาก็ยังทำได้แค่ดาบที่ห้า และพลังของดาบที่ห้า...ยังไม่ถึงหนึ่งส่วนหกของดาบที่สิบสามด้วยซ้ำ!
ตอนนั้นฟ้าก็เริ่มสว่างแล้ว อู๋เป่ยจึงหยุดฝึกต่อ วันนี้เป็นวันอังคาร เขาเตรียมตัวอยู่สักพัก ก่อนมุ่งหน้าไปวิทยาลัยราชวงศ์เพื่อเข้าร่วมการประเมิน
เมื่อเขาในชุดลำลองเดินมาถึงหน้าประตูโรงเรียน เย่หนิงปิงก็ยังยืนรออยู่ที่เดิม ใบหน้าหวานชวนมองเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ไปกันเถอะ วันนี้คนมาสอบเยอะเลย”
อู๋เป่ยพยักหน้า เดินไปคุยไป “ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาสมัครเข้าวิทยาลัยราชวงศ์เยอะขนาดนี้”
เย่หนิงปิงว่า “ก็ช่วยไม่ได้ วิทยาลัยราชวงศ์เดี๋ยวนี้ก็ง่ายขึ้นเรื่อย ๆ อยากเข้ามากันก็เลยเยอะ คนที่รับผิดชอบการสอบเองก็ไม่อยากมีปัญหากับใคร ต้องคอยยัดคนเข้ามาข้างในตลอด”
อู๋เป่ยส่ายหน้า “ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ระยะยาวระดับของผู้เรียนในวิทยาลัยราชวงศ์ต้องกากลงเรื่อย ๆ แน่”
เย่หนิงปิงหัวเราะเบา ๆ “ยังดีที่พวกเขายังควบคุมสัดส่วนอยู่ ตอนนี้ยังมีอยู่ครึ่งหนึ่งที่เหมือนกับเรา เข้าได้ด้วยฝีมือตัวเองจริง ๆ”
อู๋เป่ยยกคิ้วเล็กน้อย แบบนี้ก็แปลว่ายังมีครึ่งหนึ่งที่อาศัยเส้นสายแอบเล็ดรอดเข้ามางั้นเหรอ?

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เรื่องนี้ไม่มีเปิดให้อ่านฟรีประจำวันแล้วเหรอครับ *-*...
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...